คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

ลอนดอน

เมืองหลวงของสหราชอาณาจักรและประเทศอังกฤษ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ลอนดอน
Remove ads

ลอนดอน (อังกฤษ: London, เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈlʌndən/ ลันเดิน) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ บริเวณปากแม่น้ำซึ่งไหลลงสู่ทะเลเหนือ บริเวณนี้ยังเป็นย่านชุมชมเก่าแก่ซึ่งมีผู้อาศัยมากกว่า 2,000 ปี ลอนดอนเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป และยังเป็นหนึ่งในเมืองที่มีศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก[7] มีประชากรจำนวน 8,866,180 คนใน ค.ศ. 2022 จึงถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในยุโรป คิดเป็น 13.4% ของประชากรในสหราชอาณาจักร และ 16% ของประชากรในประเทศอังกฤษ ด้วยเหตุนี้ลอนดอนจึงมีสถานะเป็นเมกะซิตี เขตมหานครลอนดอนยังถือเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคยุโรปตะวันตกด้วยจำนวนประชากร 15 ล้านคน[8] คำขวัญภาษาละตินของนครลอนดอน คือ “Domine dirige nos” แปลว่า “พระเจ้าทรงนำทางพวกเรา“ ชาวลอนดอนมักถูกเรียกว่า ลอนดอนเนอร์ (อังกฤษ: Londoner)

ข้อมูลเบื้องต้น ลอนดอน London, ประเทศ ...

ลอนดอนถือเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ก่อตั้งโดยชาวโรมันในชื่อ ล็อนดินิอูง ราวคริสต์ศักราช 47-50[9] นครเวสต์มินสเตอร์ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของกรุงลอนดอนยังเป็นที่ตั้งของรัฐบาล และ รัฐสภาสหราชอาณาจักร นครลอนดอนเติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกในช่วงศตวรรษที่ 19[10] ชื่อ "ลอนดอน" ยังสื่อถึงมหานครซึ่งตั้งอยู่บริเวณโดยรอบ โดยในอดีตเคยใช้สื่อถึงการแบ่งเทศมณฑลของอังกฤษอันประกอบไปด้วย มิดเดิลเซกซ์, เอสเซกซ์, เซอร์รีย์, เคนต์ และ ฮาร์ตฟอร์ดเชอร์[11] ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมโดยหน่วยงานท้องถิ่น 33 แห่งและหน่วยงานบริหารกรุงลอนดอน (Greater London Authority) ตั้งแต่ ค.ศ. 1965 เป็นต้นมา[12]

ลอนดอนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน[13] การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ ในอดีตเคยมีสถานะเป็นเมืองหลวงของโลก และเป็นหนึ่งในเมืองที่เจริญที่สุดในโลกมาถึงปัจจุบัน ถือกันว่าเป็นเมืองสากลหลักของโลก[14][15] ลอนดอนยังเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางการศึกษาของยุโรป และเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง อาทิ อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอนซึ่งมีจุดเด่นด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์ประยุกต์, วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน มีชื่อเสียงด้านสังคมศาสตร์และการเงิน รวมถึงยูนิเวอร์ซิตีคอลลิจลันเดินซึ่งเป็นต้นกำเนิดของงานวิจัยระดับโลก[16][17] ลอนดอนเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากที่สุดในยุโรป และเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และมีท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในยุโรป โดยมีท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์เป็นท่าอากาศยานหลัก[18] แม้จะมีการถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนภายหลังเบร็กซิต ทว่าลอนดอนยังคงสถานะการเป็นเมืองที่ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจมากที่สุดของยุโรป และเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก[19] ลอนดอนยังเป็นศูนย์รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมของโลกโดยมีภาษามากกว่า 300 ภาษาถูกใช้ในลอนดอน[20]

ลอนดอนมีแหล่งมรดกโลกจำนวน 4 แห่ง: สวนพฤกษศาสตร์หลวงเมืองคิว, หอคอยแห่งลอนดอน, เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ (รวมถึงโบสถ์เซนต์มาร์กาเร็ต) และเมืองนาวีกรีนิชซึ่งเป็นที่ตั้งหอดูดาวหลวงเกรนิช และการกำหนดเวลามาตรฐานกรีนิช[21] สถานที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ พระราชวังบักกิงแฮม, ลอนดอนอาย, พิคะดิลีเซอร์เคิส, อาสนวิหารนักบุญเปาโล, สะพานทาวเวอร์ และ จัตุรัสทราฟัลการ์ กรุงลอนดอนยังมีจำนวนพิพิธภัณฑ์, หอศิลป์, หอสมุด และสถานที่ทางวัฒนธรรมมากที่สุดในสหราชอาณาจักรซึ่งรวมถึงพิพิธภัณฑ์บริติช, หอศิลป์แห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ, เทตมอเดิร์น, หอสมุดแห่งชาติอังกฤษ และ โรงละครรวมทั้งโรงภาพยนตร์ชื่อดังหลายแห่ง และเป็นที่ตั้งของภัตตาคารระดับโลก ลอนดอนยังเป็นที่ตั้งของทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงของพรีเมียร์ลีกหลายสโมสร สนามกีฬาเวมบลีย์ยังเป็นหนึ่งในสนามกีฬาที่มีชื่อเสียงของโลก ถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำคัญหลายครั้ง รวมถึงการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน และ ฟุตบอลเอฟเอคัพ ลอนดอนยังเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาที่สำคัญ ได้แก่ ลอนดอนมาราธอน และเคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกฤดูร้อน 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดในโอลิมปิกฤดูร้อน 2012

Remove ads

ประวัติศาสตร์

ชื่อ ลอนดอน นักประวัติศาสตร์คาดว่าน่าจะมาจากชื่อกรุงลอนดอนในสมัยโรมันว่า ลอนดีนิอุม (ละติน: Londinium) ซึ่งเป็นภาษาละติน และเพี้ยนมาเป็นชื่อ "ลอนดอน" ในภายหลัง ถึงแม้ว่าชาวโรมันจะพิชิตอังกฤษได้ก็ตาม ลอนดิเนียมแห่งนี้อยู่เพียงสิบเจ็ดปีเท่านั้น ในปี ค.ศ. 61 ชาวเผ่าไอซินี นำโดยราชินีโบดิก้า บุกเข้ายึดลอนดึเนียม เผาทั้งเมือง และเข่นฆ่าชาวโรมันอย่างเหี้ยมโหด[22] แต่ในเวลาถัดมา ชาวโรมันสามารถยึดเมืองกลับคืนมาได้ และชนะการรบกับราชินีโบดิก้า ในราวศตวรรษที่ 2 ลอนดิเนียมรุ่งเรืองถึงขีดสุด และลอนดอนโรมันมีประชากรประมาณ 60,000 คน

ลอนดอนประสบอัคคีภัยครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ส่งผลให้ผู้คนเชื่อว่าเลข 666 เป็นเลขแห่งความโชคร้าย การสร้างเมืองใหม่ใช้เวลาถึง 10 ปีด้วยกัน แต่ลอนดอนยังคงเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในเดือน มิถุนายน พ.ศ. 2560 กรุงลอนดอนนอกจากประสบกับเหตุก่อการร้ายยังประสบอัคคีภัย มีคนเสียชีวิต รวม 20 ราย หากรวมผู้ก่อการร้ายด้วยจะเป็น 24ราย

Remove ads

การเมืองการปกครอง

สรุป
มุมมอง

การปกครองท้องถิ่น

Thumb
ตราอาร์มของบรรษัทนครลอนดอน[23]

การบริหารของลอนดอนแบ่งออกเป็นสองระดับ ได้แก่ ระดับทั่วทั้งเมือง ซึ่งมีบทบาทด้านยุทธศาสตร์ และระดับท้องถิ่นพื้นฐาน การบริหารระดับทั่วทั้งเมืองอยู่ภายใต้การกำกับขององค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอน (Greater London Authority หรือย่อว่า GLA) ส่วนการบริหารระดับท้องถิ่นพื้นฐานดำเนินการโดยองค์การบริหารย่อย 33 แห่ง[24] องค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอนประกอบด้วยสององค์ประกอบที่มาจากการเลือกตั้ง ได้แก่ นายกเทศมนตรีลอนดอน ซึ่งมีอำนาจบริหาร และสภาลอนดอน ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบการตัดสินใจของนายกเทศมนตรี รวมถึงพิจารณาอนุมัติหรือปฏิเสธข้อเสนองบประมาณประจำปี องค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอนมีหน้าที่ดูแลระบบขนส่งส่วนใหญ่ของลอนดอนผ่านหน่วยงานในกำกับคือ การขนส่งแห่งลอนดอน (Transport for London หรือย่อว่า TfL) รวมทั้งกำกับดูแลตำรวจและหน่วยดับเพลิงของเมือง และกำหนดวิสัยทัศน์เชิงยุทธศาสตร์ด้านต่าง ๆ[25] สำนักงานใหญ่ขององค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอน ตั้งอยู่ที่ซิตีฮอลล์ เขตนิวอัม นายกเทศมนตรีตั้งแต่ ค.ศ. 2016 คือ ซาดิก ข่าน ผู้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีมุสลิมคนแรกของเมืองหลวงในโลกตะวันตก[26] แผนกลยุทธ์ด้านการวางผังเมืองตามกฎหมายของนายกเทศมนตรีเผยแพร่ในชื่อ ลอนดอนแพลน (London Plan) ซึ่งมีการปรับปรุงล่าสุดใน ค.ศ. 2011[27]

องค์การบริหารท้องถิ่นระดับพื้นฐาน ประกอบด้วย สภาของลอนดอนโบโร 32 แห่ง และบรรษัทนครลอนดอน[28] ซึ่งรับผิดชอบการให้บริการสาธารณะท้องถิ่นระดับพื้นฐานเป็นส่วนใหญ่ เช่น การวางผังเมืองท้องถิ่น โรงเรียน ห้องสมุด การพักผ่อนและนันทนาการ บริการสังคม ถนนท้องถิ่น และการเก็บขยะ[29] บางภารกิจ เช่น การจัดการขยะ จะดำเนินการร่วมกันระหว่างหลายหน่วยงาน ในปีงบประมาณ 2009–2010 ค่าใช้จ่ายรวมของสภาลอนดอนและองค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอน มีมูลค่ากว่า 22 พันล้านปอนด์ (สภาโบโร 14.7 พันล้านปอนด์ และองค์การบริหารเกรเทอร์ลอนดอน 7.4 พันล้านปอนด์)[30]

หน่วยดับเพลิงลอนดอน (London Fire Brigade) เป็นหน่วยดับเพลิงและกู้ภัยตามกฎหมายของเกรเทอร์ลอนดอน ดำเนินการโดย คณะกรรมการวางแผนภาวะฉุกเฉินและดับเพลิงลอนดอน (London Fire and Emergency Planning Authority) และเป็นหน่วยดับเพลิงที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก[31] บริการรถพยาบาลภายใต้ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS) ให้บริการโดย บริการรถพยาบาลลอนดอน (London Ambulance Service หรือย่อว่า LAS) ซึ่งเป็นบริการรถพยาบาลฉุกเฉินฟรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก[32] มูลนิธิรถพยาบาลทางอากาศแห่งลอนดอน (London's Air Ambulance Charity) จะดำเนินการร่วมกับบริการรถพยาบาลลอนดอนเมื่อจำเป็น ขณะเดียวกัน หน่วยยามฝั่งในสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน (HM Coastguard) และสถาบันกู้ชีพทางเรือแห่งชาติ (Royal National Lifeboat Institution หรือย่อว่า RNLI) ให้บริการบนแม่น้ำเทมส์ ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของการท่าเรือลอนดอน (Port of London Authority) ตั้งแต่ประตูน้ำเทดดิงตันถึงปากแม่น้ำ[33]

การปกครองระดับชาติ

Thumb
บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ที่พำนักอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร

ลอนดอนเป็นที่ตั้งของรัฐบาลสหราชอาณาจักร กระทรวงต่าง ๆ และบ้านพักนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง ตั้งอยู่ใกล้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ บริเวณไวต์ฮอลล์[34] ลอนดอนมีสมาชิกสภาสามัญชนทั้งหมด 75 คน ณ เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2024 ประกอบด้วยสมาชิกที่สังกัดพรรคแรงงาน 59 คน พรรคอนุรักษนิยม 9 คน พรรคเสรีประชาธิปไตย 6 คน และนักการเมืองอิสระ 1 คน[35] ตำแหน่งรัฐมนตรีประจำลอนดอนก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1994 อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งนี้ว่างลงมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2024

ตำรวจและอาชญากรรม

การดูแลความสงบเรียบร้อยในเกรเทอร์ลอนดอน ยกเว้นนครลอนดอน ดำเนินการโดยตำรวจนครบาล (Metropolitan Police หรือย่อว่า "The Met") ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับของนายกเทศมนตรีผ่าน สำนักงานนายกเทศมนตรีด้านตำรวจและอาชญากรรม (Mayor's Office for Policing and Crime หรือย่อว่า MOPAC)[36] ตำรวจนครบาลมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า สกอตแลนด์ยาร์ด ตามที่ตั้งของสำนักงานเดิมซึ่งอยู่บนถนนเกรตสกอตแลนด์ยาร์ด ในย่านไวต์ฮอลล์ ส่วนนครลอนดอนมีหน่วยตำรวจของตนเองคือ ตำรวจนครลอนดอน (City of London Police)[37] หมวกทรงสูงแบบผู้คุม (custodian helmet) ที่ตำรวจนครบาลเริ่มสวมตั้งแต่ ค.ศ. 1863 ถูกยกย่องว่าเป็น "สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม" และ "สัญลักษณ์ของการบังคับใช้กฎหมายแบบบริทิช"[38] ส่วนป้อมตำรวจสีน้ำเงิน ที่ตำรวจนครบาลเริ่มนำมาใช้ใน ค.ศ. 1929 ซึ่งเป็นต้นแบบของทาร์ดิส (TARDIS) ในซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่องดอกเตอร์ฮู เคยปรากฏให้เห็นทั่วไปในลอนดอนและเมืองต่าง ๆ ทั่วสหราชอาณาจักร[39]

Thumb
สำนักงานใหญ่เอ็มไอ 6 ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ที่อาคารเอสไอเอส ฉากของภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ (สายลับเอ็มไอ 6 ในจินตนาการ) หลายตอนได้มาถ่ายทำที่นี่

ตำรวจขนส่งบริทิช (British Transport Police) รับผิดชอบด้านการตำรวจบนการรถไฟแห่งชาติ รถไฟใต้ดินลอนดอน รถไฟรางเบาด็อกแลนด์ และรถรางแทรมลิงก์[40] ส่วนตำรวจกระทรวงกลาโหม (Ministry of Defence Police) เป็นหน่วยตำรวจพิเศษในลอนดอนที่โดยทั่วไปจะไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลประชาชนทั่วไป[41] หน่วยข่าวกรองภายในประเทศที่เรียกว่า เอ็มไอ 5 มีสำนักงานใหญ่ที่เทมส์เฮาส์ ซึ่งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำเทมส์ ส่วนหน่วยข่าวกรองต่างประเทศที่เรียกว่า เอ็มไอ 6 มีสำนักงานใหญ่ที่อาคารเอสไอเอส บนฝั่งใต้ของแม่น้ำเทมส์[42]

อัตราอาชญากรรมแตกต่างกันมากในแต่ละพื้นที่ของลอนดอน ข้อมูลสถิติอาชญากรรมจะเผยแพร่ในระดับหน่วยงานท้องถิ่นและระดับเขต[43] ใน ค.ศ. 2015 มีคดีฆาตกรรม 118 คดี เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.5 จาก ค.ศ. 2014[44] อาชญากรรมที่บันทึกไว้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในลอนดอน โดยเฉพาะอาชญากรรมรุนแรงและการฆาตกรรมด้วยการแทงหรือวิธีอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งแต่ต้นปี ค.ศ. 2018 ถึงกลางเดือนเมษายน ค.ศ. 2018 มีคดีฆาตกรรม 50 คดี การตัดงบประมาณตำรวจในลอนดอนอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุ แม้จะมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย[45] อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งปี ค.ศ. 2022 ตัวเลขคดีฆาตกรรมลดลงเหลือ 109 คดี และอัตราการฆาตกรรมในลอนดอนยังคงต่ำกว่าเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลก[46]

Remove ads

ฤดูกาลและภูมิอากาศ

สรุป
มุมมอง

สำหรับฤดูกาลโดยทั่วไปของอังกฤษ สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ฤดู แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง 4 ฤดูในหนึ่งวันอีกด้วย นั่นก็เพราะในบางวันที่ลอนดอนจะมีทั้งแดดออก ฝนตก หนาวเย็นและอบอุ่นสลับกันไป ซึ่งอากาศในช่วงกลางวันจะอบอุ่นกว่าค่าเฉลี่ยได้ 5-10 องศา และอากาศในตอนกลางคืนจะหนาวเย็นกว่าได้ประมาณ 5 องศา

1.ฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูใบไม้ผลิ เป็นฤดูที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงได้บ่อยที่สุด อาจมีทั้งอากาศอบอุ่น แสงแดดจัด หนาวเย็นและฝนตกสลับกันไป หรือสภาพอากาศเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในวันเดียวกันซึ่งทั้งนี้ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะอยู่ในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม

  • เดือนมีนาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 9 องศาเซลเซียส
  • เดือนเมษายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 11 องศาเซลเซียส
  • เดือนพฤษภาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 14 องศาเซลเซียส

2. ฤดูร้อน

ฤดูร้อน สภาพอากาศจะมีความอบอุ่นเป็นส่วนใหญ่ และมีแสงแดดส่องตลอดวัน โดยช่วงฤดูร้อนก็จะอยู่ในเดือนมิถุนายน-สิงหาคม และยังเป็นช่วงที่กลางวันยาวนานมาก บางช่วง 2 ทุ่มกว่าแล้วเพิ่งจะเริ่มมืด โดย

  • เดือนมิถุนายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 16 องศาเซลเซียส
  • เดือนกรกฎาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส
  • เดือนสิงหาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 19 องศาเซลเซียส

3. ฤดูใบไม้ร่วง

ฤดูใบไม้ร่วง เป็นฤดูที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีและร่วงหล่นลงมามากกว่าปกติ แต่ก็ให้ความสวยงามและบรรยากาศที่น่าเที่ยวไม่น้อย โดยช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะอยู่ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน โดย

  • เดือนกันยายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 17 องศาเซลเซียส
  • เดือนตุลาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 13 องศาเซลเซียส
  • เดือนพฤศจิกายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 10 องศาเซลเซียส

4. ฤดูหนาว

ฤดูหนาวเป็นฤดูที่มีหิมะตก เหมาะกับการท่องเที่ยวสำหรับคนที่อยากสัมผัสกับหิมะเป็นที่สุด แต่จะมีหิมะตกบางพื้นที่เท่านั้น และกลางคืนจะยาวนานกว่ากลางวันอีกด้วย หรือกล่าวง่ายๆก็คือช่วงนี้จะมืดเร็วกว่าปกตินั่นเอง บางช่วงยังไม่ 5 โมงเย็นท้องฟ้าจะเริ่มมืดแล้ว ซึ่งช่วงฤดูหนาวก็จะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมาพันธ์ โดย

  • เดือนธันวาคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส
  • เดือนมกราคม มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส
  • เดือนกุมภาพันธ์ มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 7 องศาเซลเซียส

เครดิต: ตะลอนเที่ยวดอตคอม

เศรษฐกิจ

ลอนดอนถูกจัดอับดับโดย Mastercard Worldwide (มาสเตอร์การ์ด เวิรลด์ไวด์) ว่าเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ อันดับหนึ่งของโลก [47] ลอนดอนยังเป็นศูนย์กลางของการอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมทั้งกิจกรรมธนาคารและการประกันภัยด้วย การอุตสาหกรรมในลอนดอนมีความหลากหลายตั้งแต่อุตสาหกรรมที่ไม่มีฝีมือจนถึงช่างฝีมือ รวมทั้งอุตสาหกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในร้านค้าต่าง ๆ ในปี ค.ศ. 1747 อาชีพของคนในลอนดอน ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีถึง 215 อาชีพ และเพิ่มขึ้นเป็น 492 อาชีพในปี ค.ศ. 1792 ในปี ค.ศ. 1700 ร้อยละ 20 ของประชากรในอังกฤษที่อาศัยอยู่ในเมือง 2 ใน 3 ของประชากรเมืองเหล่านี้อาศัยอยู่ในลอนดอน การขยายตัวของการค้าระหว่างประเทศได้ส่งผลให้กิจการธนาคารในลอนดอนได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ลอนดอนเป็นที่ตั้งของธนาคารทั้งในและต่างประเทศ ตลาดหุ้น กิจการการประกันภัย ฯลฯ การเจริญเติบโตดังกล่าวมีผลต่อพัฒนาการของการใช้นโยบายการค้าระหว่างประเทศ ในศตวรรษที่ 19 ซึ่งอังกฤษได้หันมาใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม (liberalism) แทนที่นโยบายพาณิชย์นิยม (mercantilism).

Thumb
Harrods
Remove ads

สถานที่ท่องเที่ยว

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากในลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้แก่ พระราชวังบักกิงแฮม มหาวิหารเวสมินสเตอร์ หอนาฬิกาบิ๊กเบน สะพานลอนดอน หอคอยลอนดอน ซึ่งเป็นที่คุ้นหูนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเนิ่นนาน

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads