เจตนา นาควัชระ
นักวิชาการและผู้บริหารทางการศึกษาชาวไทย / From Wikipedia, the free encyclopedia
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ เจตนา นาควัชระ (เกิด 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2480)[1] เป็นนักวิชาการและอาจารย์มหาวิทยาลัยชาวไทย ปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์เกียรติคุณสาขาภาษาเยอรมัน มีผลงานสำคัญด้านภาษาและวรรณคดีเยอรมัน วรรณคดีเปรียบเทียบ การวิจารณ์ศิลปะ และการอุดมศึกษา เขาได้รับปริญญาดุษฏีบัณฑิตกิตติมศักด์จากมหาวิทยาลัยไทยรวม 5 แห่งและมหาวิทยาลัยทือบิงเงินในเยอรมนี และยังได้รับรางวัลที่สำคัญได้แก่ เหรียญเกอเธ่ รางวัลการวิจัยมูลนิธิฮุมโบลท์ ทุนเมธีวิจัยอาวุโส สกว. และรางวัลนราธิป[2]
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ เจตนา นาควัชระ | |
---|---|
เกิด | 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2480 (86 ปี) จังหวัดพระนคร ประเทศสยาม (ปัจจุบันคือ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย) |
อาชีพ | นักวิชาการ |
คู่สมรส | ศาสตราจารย์กิตติคุณทัศนีย์ นาควัชระ |
บุตร | บุตรสามคน ได้แก่ ทัศนา นาควัชระ กับธิดาอีกสองคน |
รางวัล |
|
ภูมิหลังทางวิชาการ | |
การศึกษา | |
วิทยานิพนธ์ | August Wilhelm Schlegel in Frankreich. Sein Anteil an der französischen Literaturkritik 1807–1835 (2508) |
อาจารย์ที่ปรึกษาในระดับปริญญาเอก | ควร์ท ไวส์ [de] |
มีอิทธิพลต่อ | กรกช อัตตวิริยะนุภาพ, ชมัยภร บางคมบาง, สดชื่น ชัยประสาธน์, กัญญา เจริญศุภกุล, ดวงมน จิตร์จำนงค์, ปาริชาติ จึงวิวัฒนาภรณ์, คำรณ คุณะดิลก, สุนทรียา เหมือนพะวงศ์, ประดิษฐ ประสาททอง, รัศมี ชูทรงเดช, ศิราพร ณ ถลาง, สุกัญญา สมไพบูลย์ |
ผลงานทางวิชาการ | |
สถาบันที่ทำงาน | มหาวิทยาลัยศิลปากร |
ได้รับอิทธิพลจาก | เอเบอร์ฮาร์ท เล็มเมิร์ท [de], ชาร์ลส์ โบดแลร์ [en], แบร์ท็อลท์ เบร็ชท์ [en], อัลแบร์ กามูส์, เนวิลล์ คาร์ดัส [en], ไรน์โฮลด์ กริมม์, อเล็คซันเดอร์ ฟ็อน ฮุมโบลท์, แฟรงก์ เรย์มอนด์ ลีวิส [en], เอกวิทย์ ณ ถลาง, โรนัลด์ พีค็อก, ซูโจโน จูเน็ด ปุซโปเนโกโร [id], ฟรีดริช ชิลเลอร์, อ็อสคาร์ วัลท์เซิล [de], เรเน เว็ลเล็ก [en] และ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล |
ลายมือชื่อ | |
สำหรับก่อน พ.ศ. 2484 นับให้วันที่ 1 เมษายนเป็นวันแรกของปี
เจตนาเกิดในครอบครัวที่มีบิดามารดาเป็นครู เขาเป็นบุตรคนสุดท้องภูของครอบครัว เมื่อจบชั้นมัธยมศึกษาสอบได้อันดับหนึ่งในแผนกอักษรศาสตร์ของประเทศไทย ต่อมาได้รับทุนรัฐบาลไทยไปศึกษาต่อในยุโรปตั้งแต่ปริญญาตรีจนสำเร็จปริญญาเอก เขามีโอกาสได้เป็นนักวิชาการแลกเปลี่ยนในสหรัฐอเมริกาและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีหลายครั้งด้วยทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ เจตนาจึงเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวเชื่อมโลกวิชาการตะวันตกเข้ากับประเทศไทย[3]
ในฐานะนักวิชาการ งานของเจตนาในระยะแรกประกอบด้วยวรรณคดีเปรียบเทียบและวรรณคดีเยอรมัน นอกจากนี้เจตนาเขียนหนังสือ บทความสำหรับผู้อ่านทั่วไป และผู้อ่านทางวิชาการโดยใช้ภาษาไทยอันเป็นภาษาแม่ รวมถึงภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน และภาษาฝรั่งเศส เขาได้เป็นที่รู้จักในประเทศไทยในช่วงหลังผ่านงานเขียนและการบรรยายจากผลงานการวิจารณ์ศิลปะ รวมถึงการอาสาเป็นผู้นำทางความคิดในวิชาการด้านมนุษยศาสตร์[4][5]
ในทางบริหารเจตนาเคยดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการของสำนักเลขาธิการซีมีโอ คณบดีคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศิลปากร[6] รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการบริหารงานการอุดมศึกษาในประเทศไทยด้วยการเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยของรัฐหลายแห่ง กรรมการทบวงมหาวิทยาลัย และกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา[7][8]