เดอะเอ็มมิเน็มโชว์
From Wikipedia, the free encyclopedia
เดอะเอ็มมิเน็มโชว์ เป็นอัลบั้มชุดที่ 3 ของ เอ็มมิเน็ม ตกเป็นข่าวตั้งแต่ยังไม่ออกขาย เริ่มตั้งแต่มิวสิค วิดีโอของซิงเกิลแรก Without Me ที่ เอ็ม แต่งตัวเป็น อุซามะฮ์ บิน ลาดิน หัวหน้ากลุ่มผู้ก่อการร้าย อัลกออิดะฮ์ รวมทั้งทุกเพลงในอัลบั้มเกิดเล็ดลอดไปอยู่บนอินเทอร์เน็ต ทั้งที่มีการออกมาตรการป้องกันเรื่องนี้อย่างรัดกุม มีเพียงไม่กี่คนที่เคยได้ฟังเพลงอัลบั้มนี้ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีแผ่นผีปั๊มขายกันเกลื่อน ที่นิวยอร์กในราคาแค่ 5 ดอลลาร์ ทำให้ต้นสังกัดเลื่อนกำหนดการขาย เดอะเอ็มมิเน็มโชว์ ขึ้นมา จากวันที่ 3 มิถุนายนมาเป็น 26 พฤษภาคม 2002 แต่ถึงจะมีเทปผี CD เถื่อนขายไปก่อนแล้ว อัลบั้มชุดนี้ก็ยังกวาดรายได้ถล่มทลาย ขึ้นอันดับ 1 ทั้งอังกฤษและอเมริกาทันทีที่ออกขาย ในอเมริกา เดอะเอ็มมิเน็มโชว์ ค้างอยู่อันดับ 1 ถึง 3 สัปดาห์
เดอะเอ็มมิเน็มโชว์ | ||||
---|---|---|---|---|
สตูดิโออัลบั้มโดย | ||||
วางตลาด | May 28, 2002 | |||
บันทึกเสียง | July 2001-April 2002 Detroit, Michigan, U.S. (Encore Studios) (Marshall Mathers's House) (54 Sound Studio) | |||
แนวเพลง | Hip hop | |||
ความยาว | 77:30 | |||
ภาษาร้อง | English | |||
ค่ายเพลง | Aftermath, Interscope, Shady | |||
โปรดิวเซอร์ | Dr. Dre (exec.), Eminem, Jeff Bass, Mr. Porter | |||
ลำดับอัลบั้มของEminem | ||||
| ||||
ซิงเกิลจากThe Eminem Show | ||||
| ||||
คราวนี้ เอ็ม มาแปลกนอกจากจะมาพร้อมความเกรี้ยวโกรธ, ความรุนแรง ฯลฯ ก็ยังมีพูดถึงเรื่องความรักที่เขามีกับ เฮลี่ ลูกสาวสุดที่รัก ซึ่งมาช่วยส่งเสียงไว้ด้วยในเพลง My Dad's Gone Crazy มีการดึงเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้องพูดถึงรัฐบาลของ จอร์จ บุช จูเนียร์ และมีการนำเอาอิทธิพลวงร็อคจากยุค 70 อย่างของ แอโรสมิธ มารวมไว้ในงานของตัวเองด้วย[1]