Loading AI tools
ความพยายามรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในอียิปต์-อิสราเอล จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติ (อังกฤษ: United Nations Emergency Force: UNEF) เป็นปฏิบัติการทางทหารและการรักษาสันติภาพที่จัดตั้งขึ้นโดยสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเพื่อยุติวิกฤตการณ์สุเอซในปี พ.ศ. 2499 ผ่านการจัดตั้งหน่วยรักษาสันติภาพระหว่างประเทศที่ชายแดนระหว่างอียิปต์และอิสราเอล กองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติได้รับการจัดกำลังจากการอนุมัติตามมติที่ 1001 (ES-I) เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 จากความพยายามของ ด๊าก ฮัมมาร์เฮิลด์ เลขาธิการสหประชาชาติ และข้อเสนอจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดา เลสเตอร์ บี. เพียร์สัน ซึ่งภายหลังได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพสำหรับเหตุการณ์นี้ สมัชชาใหญ่ได้อนุมัติแผนที่เสนอโดยเลขาธิการซึ่งพิจารณาถึงการจัดวางกำลังของกองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติทั้งสองด้านของแนวสงบศึก อียิปต์ยอมรับการวางกำลังของสหประชาชาติ แต่อิสราเอลปฏิเสธ[1] ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2510 อียิปต์ขอให้กองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติออกจากอียิปต์ ขณะที่กองทหารเริ่มอพยพในวันรุ่งขึ้น อิสราเอลบุกอียิปต์ในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ทำให้เกิดสงครามหกวัน และทำให้สิบเอกชาวบราซิล 1 นายและเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวอินเดีย 14 นายเสียชีวิต ขณะที่กองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติอีก 17 นายได้รับบาดเจ็บ[2] สมาชิกคนสุดท้ายของกองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติออกจากอียิปต์เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน[2]
ต่อมาสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้จัดตั้งกองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติครั้งที่สองขึ้นในปี พ.ศ. 2516 เพื่อตอบสนองต่อสงครามยมคิปปูร์[3]
คณะผู้แทนกองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติ คือกำลังทหารกลุ่มแรกของสหประชาชาติ:
กองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติ ก่อตั้งขึ้นภายใต้อำนาจของสมัชชาใหญ่ และอยู่ภายใต้มาตราอธิปไตยแห่งชาติ มาตรา 2 วรรค 7 ของกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลอียิปต์และเลขาธิการ ข้อตกลงความสุจริต หรือบันทึกความทรงจำที่ดี[4] ทำให้กองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติในอียิปต์ได้รับความยินยอมจากรัฐบาลอียิปต์[5]
เนื่องจากมติของสหประชาชาติในการปฏิบัติงานไม่ผ่านภายใต้หมวดที่ 7 ของกฎบัตรสหประชาชาติ การวางกำลังตามแผนของกองกำลังทหารจึงต้องได้รับการอนุมัติจากอียิปต์และอิสราเอล นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลปฏิเสธที่จะฟื้นฟูแนวสงบศึกในปี พ.ศ. 2492 และระบุว่าไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็ตาม อิสราเอลจะไม่ตกลงที่จะประจำการกองกำลังของสหประชาชาติในดินแดนของตนหรือในพื้นที่ใด ๆ ที่อิสราเอลยึดครอง[6][7] หลังจากการเจรจาพหุภาคีกับอียิปต์ สิบประเทศเสนอที่จะสนับสนุนกองกำลังในแนวสงบศึกฝั่งอียิปต์ ได้แก่ บราซิล, แคนาดา, โคลอมเบีย, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, อินเดีย, อินโดนีเซีย, นอร์เวย์, สวีเดน และยูโกสลาเวีย นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนโดยสหรัฐ, อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ กองกำลังชุดแรกมาถึงไคโรในวันที่ 15 พฤศจิกายน กองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติมีกำลังเต็มอัตรา 6,000 นายภายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 กองกำลังถูกจัดกำลังอย่างเต็มอัตราที่ในพื้นที่ที่กำหนดรอบคลอง ในไซนายและฉนวนกาซา เมื่ออิสราเอลถอนกำลังสุดท้ายออกจากราฟาห์ในวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2500 เลขาธิการสหประชาชาติพยายามประจำการกองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติในแนวสงบศึกปี พ.ศ. 2492 ฝั่งอิสราเอล แต่อิสราเอลปฏิเสธ[8]
ภารกิจถูกกำหนดให้ทำให้สำเร็จในสี่ระยะ คือ:
เนื่องจากข้อจำกัดทางการเงินและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป กองกำลังจึงถูกปรับลดลงตลอดหลายปีที่ผ่านมาเหลือ 3,378 คนภายในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2510
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 รัฐบาลอียิปต์ออกคำสั่งให้กองกำลังสหประชาชาติทั้งหมดในขณะนั้น ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยกองกำลังทหารจากบราซิล แคนาดา และอินเดีย พร้อมด้วยกองกำลังขนาดเล็กของสวีเดน ออกจากไซนาย[9] เลขาธิการใหญ่ อู้ตั่น พยายามส่งกองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติอีกครั้งไปยังพื้นที่ชายแดนฝั่งอิสราเอล เพื่อรักษาแนวกันชน แต่อิสราเอลปฏิเสธ[10]
ในวันที่ 31 พฤษภาคม กองกำลังของแคนาดาได้ถูกอพยพทางอากาศจนหมด โดยกองกำลังของบราซิล อินเดีย และสวีเดนยังคงเตรียมการอพยพ เมื่ออิสราเอลบุกอียิปต์เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ซึ่งเป็นการเริ่มสงครามหกวัน[2] ในตอนต่าง ๆ กองกำลังอิสราเอลโจมตีขบวนรถ ค่ายที่บุคลากรสหประชาชาติรวมตัวกันและกองบัญชาการกองกำลังฉุกเฉินแห่งสหประชาชาติในฉนวนกาซา[2] ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพบราซิล 1 นายและเจ้าหน้าที่อินเดีย 14 นายเสียชีวิตโดยฝีมือของอิสราเอล และมีผู้บาดเจ็บอีก 17 นายในเหตุการณ์ทั้งสอง[2]
เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพแห่งสหประชาชาติคนสุดท้ายออกจากภูมิภาคเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน[2]
ประจำการอยู่ที่เมืองกาซา
ประเทศที่ส่งบุคลากรทหารเข้าร่วม ได้แก่ บราซิล, แคนาดา, โคลอมเบีย, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, อินเดีย, อินโดนีเซีย, นอร์เวย์, สวีเดน และยูโกสลาเวีย
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.