Loading AI tools
ปฏิบัติการเฉพาะกิจของกองทัพไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กองกำลังเฉพาะกิจปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรม 976 ไทย/อิรัก (อังกฤษ: Thai Humanitarian Assistance Task Force 976 Thai-Iraq: Task Force 976 Thai-Iraq) หรือ กองกำลังเฉพาะกิจ 976 ไทย/อิรัก (กกล.ฉก ๙๗๖) เป็นหน่วยทหารของกองทัพไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังผสมนานาชาติ – อิรัก ภารกิจของหน่วยคือการปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมในอิรักหลังจากการบุกครองอิรักของสหรัฐ โดยประเทศไทยได้ส่งกำลังทหารที่ไม่ใช่พลรบจำนวน 443 นาย[1] ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2546 เพื่อร่วมสร้างชาติและสนับสนุนความช่วยเหลือทางการแพทย์ในช่วงหลังยุคของซัดดัมในอิรัก[2]
กองกำลังเฉพาะกิจปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรม 976 ไทย/อิรัก | |
---|---|
กองกำลังเฉพาะกิจ 976 ไทย/อิรัก | |
พื้นที่ปฏิบัติงานของกองกำลังคือบริเวณสีชมพู ซึ่งเป็นพื้นที่ภาคกลางตอนใต้ในบังคับบัญชาของกองทัพโปแลนด์ | |
ประจำการ | 30 กันยายน 2546 – 30 กันยายน 2547 |
ประเทศ | ไทย |
เหล่า | กองทัพไทย |
รูปแบบ | ผู้มิใช่พลรบ |
บทบาท | การทำลายล้างวัตถุระเบิด การป้องกัน คชรน. การต่อสู้ระยะประชิด การสงครามทะเลทราย เวชศาสตร์ฉุกเฉิน การป้องกันกำลังรบ ผู้ตรวจการณ์หน้า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การแทรกแซงด้านมนุษยธรรม ผู้ช่วยแพทย์ การส่งกลับสายแพทย์ วิศวกรรมการทหาร การส่งกำลังบำรุงทางทหาร การตรวจตราทางทหาร การรักษาสันติภาพ การลาดตระเวน บริการการแพทย์ฉุกเฉินเชิงยุทธวิธี การสงครามในเมือง |
กำลังรบ |
|
ขึ้นกับ | กองกำลังผสมนานาชาติ – อิรัก |
กองบัญชาการ | ค่ายลิมาร์, กัรบะลาอ์, อิรัก |
สมญา | กกล.ฉก.976 ไทย/อิรัก (Task Force 976 Thai-Iraq) |
ปฏิบัติการสำคัญ |
|
ผู้บังคับบัญชา | |
ผบ.กกล. ผลัดที่ 1 | พันเอก บุญชู เกิดโชค |
ผบ.กกล. ผลัดที่ 2 | พันเอก มนตรี อุมารี |
ทางการสหรัฐได้ร้องขอหน่วยทหารเสนารักษ์มายังรัฐบาลไทยผ่านกระทรวงการต่างประเทศเพื่อไปปฏิบัติงานหลังการบุกยึดครองอิรักของสหรัฐ โดยนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นคือ ทักษิณ ชินวัตร ได้เห็นชอบในคำร้องและสั่งการให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการผ่านกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2546 ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้จัดการประชุมขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2546 และได้ประสานให้กระทรวงกลาโหมรับข้อสั่งการไปร่วมดำเนินการ และมอบหมายให้กองบัญชาการทหารสูงสุดเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการประสานรายละเอียดกับกระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายทหารของสหรัฐโดยตรง[1]
เนื่องจากความไม่ชัดเจนของข้อมูล ทำให้กองบัญชาการทหารสูงสุดไม่สามารถวางแผนในการจัดกำลังได้ จึงได้มอบหมายให้กรมยุทธการทหารซึ่งอยู่ในสังกัด ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมผ่านกรมสหรัฐอเมริกา, คณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐ ประจำประเทศไทย (จัสแมกไทย) และสำนักงานผู้ช่วยทูตทหารไทย ประจำวอชิงตัน ประสานฝ่ายสหรัฐเพื่อขอข้อมูลที่จำเป็นในการวางแผน[1]
จากการร้องขอข้างต้น ทูตทหารไทยประจำวอชิงตันได้ประสานงานกับหน่วยบัญชาการทหารสหรัฐภาคกลาง (CENTCOM) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลในภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อขอข้อมูลขั้นต้น และได้รับคำแนะนำให้จัดคณะวางแผนจำนวน 3 นาย มาร่วมประชุมในลักษณะการประงานงานฝ่ายทหาร (Military to Military Discussion) โดยจากการประชุมทำให้ฝ่ายไทยสามารถบรรลุความต้องการคือข้อมูลในการวางแผนจัดกำลัง และหน่วยบัญชาการทหารสหรัฐภาคกลางได้ขอให้จัดนายทหาร 2 นาย มาทำหน้าที่นายทหารติดต่อ (Liaison officer) เพื่อมาร่วมวางแผนทางการทหารร่วมกับชาติสมาชิกอื่น ๆ และประสานงานด้านการวางกำลังควบคู่กับการดำเนินงานของรัฐบาล โดยผลการประชุมร่วมกับสหรัฐครั้งแรกมีข้อสรุปดังนี้[1]
จากนั้นไทยได้ส่งนายทหารติดต่อจำนวน 2 นาย ไปประจำการที่กองบัญชาการหน่วยบัญชาการทหารสหรัฐภาคกลาง โดยมี พันเอก ณัฐพล แสงจันทร์ เป็นหัวหน้าสำนักงานนายทหารติดต่อประจำหน่วยบัญชาการทหารสหรัฐภาคกลาง[1]
ในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2546 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติในการจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรม 976 ไทย/อิรัก โดยมีระยะเวลาในการปฏิบัติภารกิจเป็นเวลา 1 ปี และให้ถือเป็นการไปปฏิบัติราชการพิเศษตามที่กระทรวงกลาโหมได้กำหนด แบ่งกำลังเป็น 2 ผลัด กำหนดกรอบอัตรากำลังพลไว้ผลัดละ 443 นาย[3] ปฏิบัติภารกิจผลัดละ 6 เดือน โดยมี พันเอก บุญชู เกิดโชค เป็นผู้บัญชาการฯ ผลัดที่ 1 และพันเอก มนตรี อุมารี เป็นผู้บัญชาการฯ ผลัดที่ 2 โดยปฏิบัติงานในพื้นที่ความดูแลของประเทศโปแลนด์ คือภาคกลางตอนใต้ (Multinational Division Central-South: MND-CS) ตั้งอยู่ในเมืองกัรบะลาอ์ ห่างจากกรุงแบกแดดระยะทาง 110 กิโลเมตร มีสายการบังคับบัญชาขึ้นกับกองพลน้อยโปแลนด์ ภายใต้กองกำลังผสมนานาชาติ มีภารกิจหลักในการสนับสนุนงานช่างสนามและงานช่างก่อสร้าง การฟื้นฟูบูรณะอิรัก การให้บริการทางการแพทย์ และการปฏิบัติการในด้านกิจการพลเรือน[1]
กองกำลังเฉพาะกิจ 976 ไทย/อิรัก ประกอบไปด้วยกำลังพลจากกองพันทหารช่าง ทีมแพทย์ 6 นาย หมวดรักษาความปลอดภัย และหมวดสนับสนุน โดยกองกำลังอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของโปแลนด์ในพื้นที่กองกำลังผสมนานาชาติ ภาคกลางตอนใต้ (Multinational Division Central-South: MND-CS)
กำลังผลัดแรก จำนวน 443 นาย[3][1] เดินทางเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2546 และสิ้นสุดภารกิจเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2547 และผลัดที่สอง จำนวน 130 นาย[4] ได้เข้ารับช่วงภารกิจต่อในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2547 และจบภารกิจเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2547 รวมกำลังพลเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่รวมทั้ง 2 ผลัดมีทั้งสิ้น 573 นาย
กองทหารของกองทัพบกไทยถูกโจมตีในเหตุระเบิดที่กัรบะลาอ์เมื่อปี พ.ศ. 2546 ซึ่งเหตุการณ์นั้นทำให้มีทหารเสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บอีก 5 นาย[5]
อย่างไรก็ตาม ภารกิจของไทยในอิรักถือว่าประสบความสำเร็จในภาพรวม ไทยได้ถอนกำลังออกจากอิรักในเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 ซึ่งจากภารกิจนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้สหรัฐตัดสินใจกำหนดให้ประเทศไทยเป็นพันธมิตรหลักนอกเนโทในปี พ.ศ. 2546[6]
กองกำลังของไทยวางกำลังที่ค่ายลิมาร์ในเมืองกัรบะลาอ์ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2546 เพื่อให้การสนับสนุนด้านวิศวกรรม การปฏิบัติการทางหทารและพลเรือน และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นอกจากนี้วิศวกรทหารของไทยยังช่วยสร้างและซ่อมแซมสถานที่ปฏิบัติงานของ MND-CS ทั่วทั้งเมืองกัรบะลาอ์
ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2546 เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีค่ายลิมาร์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 100 กิโลเมตร (ซึ่งตั้งอยู่ในกัรบะลาอ์) คนร้ายขับรถพุ่งเข้าชนป้อมรักษาการณ์ทำให้ทหารไทยเสียชีวิต 2 นาย[7][8] และได้รับบาดเจ็บอีก 5 นาย จากเหตุการณ์นี้มีทหารฝ่ายพันธมิตรเสียชีวิต 6 นาย (อีกสองนายเป็นทหารบัลแกเรีย) และมีทหารได้รับบาดเจ็บรวม 97 นาย มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ไม่ปกติ เพราะว่าการโจมตีส่วนใหญ่ในช่วงเวลานั้นมักจะมีศูนย์กลางอยู่ที่สามเหลี่ยมสุหนี่ ซึ่งตั้งอยู่รอบ ๆ กรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็ตาม รัฐบาลไทยก็ยังคงยืนยันจะประจำการทหารในภารกิจนี้ต่อไปจนกว่าจะครบกำหนดการประจำการคือในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2547[9]
จากภารกิจของกองกำลังเฉพาะกิจปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรม 976 ไทย/อิรัก มีกำลังพลเสียชีวิตจำนวน 2 นาย[7][8] จากเหตุระเบิดโจมตีค่ายลิมาร์ในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2546 คือ
การส่งกำลังกองกำลังเฉพาะกิจปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรม 976 ไทย/อิรัก เข้าไปปฏิบัติภารกิจในอิรัก ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยกลุ่มแนวร่วมเพื่อสันติภาพเชียงใหม่ ที่เผยแพร่ไว้บนเว็บไซต์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนว่า เป็นการใช้กำลังทหารของไทยเป็นใบเบิกทางในการรับความสนับสนุนทางทหารจากสหรัฐ การขอเปิดข้อตกลงการค้าเสรีกับสหรัฐ และการเข้าไปลงทุนประมูลก่อสร้างขนาดใหญ่ในอิรักของบริษัทขนาดใหญ่ของไทย เช่น ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม และเรียกร้องให้รัฐบาลไทยในขณะนั้นถอนกำลังทหารออกจากอิรัก[10]
นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาว่าเหตุการณ์ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยนั้น เกิดมาจากการส่งกำลังทหารไปปฏิบัติการในอิรักเช่นกัน[11]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.