ข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก
From Wikipedia, the free encyclopedia
ข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (อังกฤษ: Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership, ย่อ: CPTPP) หรือเรียก TPP11 หรือ TPP-11[2][3][4] เป็นความตกลงการค้าระหว่างประเทศออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเวียดนาม พัฒนามาจากความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ซึ่งไม่มีผลใช้บังคับเนื่องจากสหรัฐถอนตัว ณ เวลาลงนาม เศรษฐกิจรวมของ 11 ประเทศคิดเป็นร้อยละ 13.4 ของจีดีพีโลก (ประมาณ 13.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทำให้ CPTPP เป็นเขตการค้าเสรีใหญ่สุดอันดับสามของโลกโดยวัดจากจีดีพี รองจากความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือและตลาดร่วมยุโรป[5] สหราชอาณาจักรลงนามในข้อตกลงการค้าอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 และจะเข้าร่วมข้อตกลงเมื่อทุกฝ่ายให้สัตยาบันแล้ว[6]
มุมมองและกรณีตัวอย่างในบทความนี้อาจไม่ได้แสดงถึงมุมมองที่เป็นสากลของเรื่อง |
ประเทศผู้ลงนามให้สัตยาบัน (สีเขียวเข้ม) ประเทศผู้ลงนามอื่น (เขียวอ่อน) ประเทศผู้สมัครอย่างทางการ (ส้ม) ประเทศผู้สนใจสมัคร (น้ำตาล) | |
ประเภท | ความตกลงการค้าเสรี |
---|---|
วันลงนาม | 8 มีนาคม 2561 |
ที่ลงนาม | ซานเตียโก ประเทศชิลี |
วันตรา | 23 มกราคม 2561 |
วันมีผล | 30 ธันวาคม 2561 |
เงื่อนไข | 60 วันหลังประเทศผู้ลงนามให้สัตยาบันเกิน 50% หรือเกินหกประเทศ |
ผู้ลงนาม | |
ภาคี | |
ผู้เก็บรักษา | รัฐบาลนิวซีแลนด์[1] |
ภาษา | ภาษาอังกฤษ, ภาษาสเปน และภาษาฝรั่งเศส[1] |
หลังประธานาธิบดีดอนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐประกาศถอนตัวออกจาก TPP ประเทศผู้ลงนามเดิมได้ตกลงในเดือนพฤษภาคม 2560 เพื่อรื้อฟื้นความตกลงใหม่[7][8] โดยบรรลุความตกลงในเดือนมกราคม 2561 มีพิธีลงนามอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มีนาคม 2561 ในประเทศชิลี[9][10] CPTPP รับเอาข้อกำหนดของ TPP มาใช้ แต่ระงับบทบัญญัติ 22 ข้อที่สหรัฐเห็นชอบแต่ประเทศอื่นคัดค้าน ความตกลงฯ มีผลใช้บังคับเมื่อหกประเทศให้สัตยาบัน คือ วันที่ 30 ธันวาคม 2561[11]
บทว่าด้วยรัฐวิสาหกิจยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยกำหนดให้ประเทศผู้ลงนามแบ่งปันสารสนเทศเกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจระหว่างกัน มีการใส่มาตรฐานเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาที่ละเอียดที่สุดในบรรดาความตกลงการค้าทุกฉบับ ตลอดจนคุ้มครองต่อการโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญากับบริษัทที่ดำเนินการในต่างประเทศ[12] ด้านญี่ปุ่นขยายระยะเวลาคุ้มครองลิขสิทธิ์เป็น 70 ปีหลังผู้สร้างสรรค์เสียชีวิต[13] ซึ่งเป็นข้อกำหนดของความตกลงความเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจอียู–ญี่ปุ่น[14]