![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/46/Bundesarchiv_Bild_183-H25719%252C_Paris%252C_Ministerpr%25C3%25A4sident_Pierre_Laval_und_SS-Obergruppenf%25C3%25BChrer_Carl_Oberg.jpg/640px-Bundesarchiv_Bild_183-H25719%252C_Paris%252C_Ministerpr%25C3%25A4sident_Pierre_Laval_und_SS-Obergruppenf%25C3%25BChrer_Carl_Oberg.jpg&w=640&q=50)
ข้อตกลงฝรั่งเศส-อิตาลี
From Wikipedia, the free encyclopedia
ข้อตกลงฝรั่งเศส-อิตาลี (อังกฤษ: Frenco-Italian Agreement) ได้รับการลงนามเมื่อวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 1935 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฝรั่งเศส ปิแอร์ ลาวาล และนายรัฐมนตรีแห่งอิตาลี เบนิโต มุสโสลินี ได้ลงนามในข้อตกลงฝรั่งเศส-อิตาลีที่กรุงโรม
![Thumb image](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/46/Bundesarchiv_Bild_183-H25719%2C_Paris%2C_Ministerpr%C3%A4sident_Pierre_Laval_und_SS-Obergruppenf%C3%BChrer_Carl_Oberg.jpg/640px-Bundesarchiv_Bild_183-H25719%2C_Paris%2C_Ministerpr%C3%A4sident_Pierre_Laval_und_SS-Obergruppenf%C3%BChrer_Carl_Oberg.jpg)
ปิแอร์ ลาวาลผู้ซึ่งสืบทอดตำแหน่งจากหลุยส์ บาธู หลังจากที่เขาถูกลอบสังหารที่มาร์เซย์ จากที่นั่งข้าง พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 กษัตริย์แห่งยูโกสลาเวีย เมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1934 เขาได้สืบทอดแนวคิดของรัฐมนตรีคนก่อนในการสร้างความปลอดภัยร่วมกัน ในความพยายามที่จะควบคุมภัยจากฮิตเลอร์ในทวีปยุโรป ในวันที่ 4 มกราคม 1935 ปิแอร์ ลาวาลได้เดินทางไปยังกรุงโรมเพื่อไปพบกับนายมุสโสลินี ซึ่งลาวาลคาดว่าจะเป็นการทูตเชิงรุกในความพยายามที่จะโดดเดี่ยวนาซีเยอรมนี
เขาได้ยื่นข้อเสนอให้แก่มุสโสลินีซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่อิตาลีในการมอบบางส่วนของแคว้นโซมาลิแลนด์ของฝรั่งเศสแก่อิตาลี และเปลี่ยนสถานภาพของชาวอิตาลีในตูนิเซียอย่างเป็นทางการ รวมไปถึงปล่อยให้อิตาลีสามารถจัดการกับการรบในเอธิโอเปียได้อย่างเสรี เพื่อแลกเปลี่ยนกับสนธิสัญญาดังกล่าว ฝรั่งเศสหวังว่าอิตาลีจะมีใจออกห่างจากเยอรมนี