สาธารณรัฐจีน (ค.ศ. 1912–1949)
อดีตรัฐในทวีปเอเชีย ดำรงอยู่ระหว่าง ค.ศ. 1912–1949 / From Wikipedia, the free encyclopedia
สาธารณรัฐจีน (อังกฤษ: Republic of China; จีน: 中華民國; พินอิน: Zhōnghuá Mínguó; เวด-ไจลส์: Chung1-hua2 Min2-kuo2) เป็นรัฐในเอเชียตะวันออกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1912 ถึงปี ค.ศ. 1949 ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1912 หลังจากที่สามารถโค่นล้มราชวงศ์ชิง (การปฏิวัติซินไฮ่ 辛亥革命) ได้สำเร็จ และสิ้นสุดลงหลังสงครามกลางเมืองจีน ด้วยความพ่ายแพ้ของพรรคก๊กมินตั๋งหรือจีนคณะชาติ ซึ่งได้ลี้ภัยไปยังเกาะไต้หวันและก่อตั้งสาธารณรัฐจีนขึ้นมาใหม่ ในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เป็นฝ่ายได้ชัยชนะได้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนบนแผ่นดินใหญ่จีนในปัจจุบัน
สาธารณรัฐจีน 中華民國 จงหฺวาหมิงกั๋ว | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1912–ค.ศ. 1949 | |||||||||||||||
เพลงชาติ: 《五族共和歌》 "เพลงห้าเชื้อชาติใต้หนึ่งสหภาพ" (1912–1913) 《卿雲歌》 "เพลงเมฆมงคล" (1913–1915, 1921–1928) 《中華雄立宇宙間》 "เมืองจีนยืนแกร่งกลางพิภพ" (1915–1921) 《中華民國國歌》 "เพลงชาติสาธารณรัฐจีน" (1930–1949) "เพลงธงชาติสาธารณรัฐจีน" (1937–1949) | |||||||||||||||
อาณาเขตของสาธารณรัฐจีนในปี ค.ศ. 1945 | |||||||||||||||
เมืองหลวง | หนานจิง (1912; 1927-1949) ปักกิ่ง (1912-1928) ฉงชิ่ง (ช่วงสงคราม; 1937-1946) | ||||||||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาจีนมาตรฐาน (อักษรจีนตัวเต็ม) | ||||||||||||||
ศาสนา | ชาวบ้านจีน | ||||||||||||||
การปกครอง | สหพันธ์ สาธารณรัฐระบบกึ่งประธานาธิบดี (1912—1928) รัฐเดี่ยว เผด็จการทหาร (1928—1946) รัฐเดี่ยว สาธารณรัฐระบบรัฐสภา (1946—1949) | ||||||||||||||
ประธานาธิบดี | |||||||||||||||
• 1912 | ดร. ซุน ยัตเซ็น (เฉพาะกาล) (คนแรก) | ||||||||||||||
• 1949 | ลี ซงเริน (รักษาการ) (คนสุดท้าย) | ||||||||||||||
นายกรัฐมนตรี | |||||||||||||||
• 1912 | ถัง เฉายี (คนแรก) | ||||||||||||||
• 1949 | ย่าน สีชาน (คนสุดท้าย) | ||||||||||||||
สภานิติบัญญัติ | พรรคชาตินิยมแห่งประเทศจีน | ||||||||||||||
• สภาสูง | สมัชชาแห่งชาติ | ||||||||||||||
• สภาล่าง | สภานิติบัญญัติหยวน | ||||||||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | ศตวรรษที่ 20 | ||||||||||||||
10 ตุลาคม ค.ศ. 1911 | |||||||||||||||
• ก่อตั้ง | 1 มกราคม ค.ศ. 1912 | ||||||||||||||
• กำหนดอำนาจรัฐบาลหลักที่นานกิง | 18 เมษายน ค.ศ. 1927 | ||||||||||||||
7 กรกฎาคม ค.ศ. 1937 | |||||||||||||||
• มีรัฐธรรมนูญ | 25 ธันวาคม ค.ศ. 1947 | ||||||||||||||
• สมรภูมิหวยไห่ | ธันวาคม ค.ศ. 1948 | ||||||||||||||
• หนีไปเกาะไต้หวัน | 10 ธันวาคม ค.ศ. 1949 | ||||||||||||||
พื้นที่ | |||||||||||||||
1912 | 11,420,000 ตารางกิโลเมตร (4,410,000 ตารางไมล์) | ||||||||||||||
1949 | 9,634,057 ตารางกิโลเมตร (3,719,730 ตารางไมล์) | ||||||||||||||
ประชากร | |||||||||||||||
• 1912 | 432375000 | ||||||||||||||
• 1949 | 541670000 | ||||||||||||||
สกุลเงิน | หยวน, ดอลลาร์ไต้หวันเก่า | ||||||||||||||
รหัส ISO 3166 | CN | ||||||||||||||
| |||||||||||||||
Population from http://www.populstat.info/Asia/chinac.htm |
สาธารณรัฐจีนมีประธานาธิบดีคนแรกคือ ดร. ซุน ยัตเซ็น ดำรงตำแหน่งหน้าที่เพียงระยะเวลาอันสั้น พรรคของซุนต่อมาได้นำโดย ซ่ง เจี่ยวเริน ซึ่งชนะการเลือกตั้งรัฐสภาที่จัดขึ้นในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1912 อย่างไรก็ตามกองทัพนำโดยประธานาธิบดียฺเหวียน ชื่อไข่ยังคงควบคุมรัฐบาลแห่งชาติในปักกิ่งต่อไป ตั้งแต่ปลายปี 1915 ถึงต้นปี 1916 ยฺเหวียนได้รื้อฟื้นระบอบจักรพรรดิจีนที่เรียกว่าจักรวรรดิจีนขึ้นมาใหม่ และสถาปนาตนเองเป็น "จักรพรรดิหงเซี่ยน (洪憲皇帝)" แต่จักรวรรดิใหม่ของยฺเหวียนกลับดำรงอยู่ได้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ หลังยฺเหวียนได้เสียชีวิตลง ผู้นำกองกำลังท้องถิ่นตามแคว้นต่าง ๆ ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นเหล่าขุนศึก และได้ประกาศตั้งตนเป็นอิสระไม่ขึ้นกับรัฐบาลกลางหรือรัฐบาลแห่งชาติอีกต่อไป ทำให้จีนเข้าสู่สมัยขุนศึกในเวลาต่อมา
ในปี ค.ศ. 1925 พรรคก๊กมินตั๋งได้เริ่มก่อตั้ง รัฐบาลคู่แข่งในบริเวณตอนใต้ของเมืองกวางโจว ในขณะที่เศรษฐกิจของภาคเหนือมีการขูดรีดเพื่อสนับสนุนเหล่าขุนศึก ซึ่งต่อมาเหล่าขุนศึกได้ถูกยุบในปี 1928 โดยนายพลเจียง ไคเชก ผู้ได้ขึ้นเป็นผู้นำพรรคก๊กมินตั๋ง หลังการเสียชีวิตของซุน ยัตเซ็น เจียงได้นำกองทัพกรีธาทัพขึ้นเหนือ ซึ่งเป็นการรบเพื่อล้มล้างรัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่ง ต่อมารัฐบาลกลางได้ถูกล้มในปี 1928 และเจียงได้สถาปนารัฐบาลชาตินิยมขึ้นที่นานกิง หลังจากนั้นเขาก็ตัดความสัมพันธ์ของเขากับพรรคคอมมิวนิสต์และขับไล่ผู้ฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ออกจากพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งความขัดแย้งนี้ได้นำไปสู่สงครามกลางเมืองจีน
สาธารณรัฐจีนได้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมและความทันสมัย แต่ก็ยังมีความปัญหาขัดแย้งระหว่างรัฐบาลคณะชาติในนานกิง อาทิเช่น พรรคคอมมิวนิสต์จีน, ขุนศึกที่เหลือและ จักรวรรดิญี่ปุ่น อย่างต่อเนื่อง สาธารณรัฐจีนได้มีการเร่งพัฒนาประเทศอย่างจริงจังเมื่อเกิดสงครามกับญี่ปุ่น เมื่อกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นได้รุกรานจีนอย่างอย่างเต็มรูปแบบในปี ค.ศ. 1937
สงครามกับญี่ปุ่นได้ยืดเยื้อจนกระทั่งนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สอง สาธารณรัฐจีนได้เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองยุติลงและจักรวรรดิญี่ปุ่นยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไขในปี ค.ศ. 1945 สาธารณรัฐจีนมีฐานะเป็นผู้ชนะสงครามและได้กลายมาเป็นหนึ่งในชาติมหาอำนาจ มีส่วนในการก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ
ในระหว่างยุคสงครามเย็นได้เกิดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียต นำไปสู่การขัดแย้งครั้งใหม่ระหว่างพรรคก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งได้ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นอีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1947 รัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐจีนได้ถือกำเนิดขึ้นและเป็นกฎหมายพื้นฐานของประเทศ จนกระทั่งพรรคก๊กมินตั๋งของเจียง ไคเชก ได้พ่ายแพ้ในการสู้รบสงครามกลางเมืองกับพรรคคอมมิวนิสต์ ในปี ค.ศ. 1949 พรรคคอมมิวนิสต์นำโดย เหมา เจ๋อตง ได้จัดตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ขับไล่รัฐบาลจีนคณะชาติออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนเจียง ไคเชกและพรรคก๊กมินตั๋งได้ถอยร่นไปยังเกาะไต้หวัน