หน่วย 731
From Wikipedia, the free encyclopedia
หน่วย 731 (ญี่ปุ่น: Unit 731; โรมาจิ: 731部隊; ทับศัพท์: Nana-san-ichi Butai) เป็นหน่วยงานเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาอาวุธชีวภาพของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น โดยใช้มนุษย์เป็นหนูทดลองในช่วง สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง (1937–1945 ช่วง สงครามโลกครั้งที่สอง) หน่วย 731 มีฐานหลักที่เขตผิงฝาง เขตหนึ่งของฮาร์บิน ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแมนจูกัว รัฐหุ่นเชิดของจักรวรรดิญี่ปุ่น(ปัจจุบันอยู่ทางตอนเหนือของจีน)
![]() | บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
หน่วย 731 | |
---|---|
731部隊 | |
![]() กลุ่มอาคารหน่วย 731 เรือนจำ 2 แห่งซ่อนอยู่ ณ ใจกลางของอาคารหลัก | |
ประเทศ | ![]() |
ขึ้นต่อ | ![]() |
บทบาท | แพทย์ทหาร, ป้องกันโรคระบาด, ทดลองมนุษย์, ผลิตอาวุธชีวภาพ |
กองบัญชาการ | ผิงฝาง, ฮาร์บิน, ประเทศแมนจู |
สมญา | หน่วยแมนจูเรีย 731 |
ผู้บังคับบัญชา | |
ผบ. สำคัญ | ศัลยแพทย์ทหาร ชิโร อิชิอิ Lt. General Masaji Kitano Epidemic Prevention and Water Purification Department |
หน่วย 731 | |
---|---|
The Unit 731 complex | |
สถานที่ | ![]() |
พิกัด | 45.6°N 126.63°E / 45.6; 126.63 |
วันที่ | 1935–1945 |
ประเภท | การทดลองมนุษย์ อาวุธชีวภาพ อาวุธเคมี |
อาวุธ | อาวุธชีวภาพ อาวุธเคมี ระเบิด แก๊สพิษ เชื้อโรค |
ตาย | มากกว่า 3,000 คน จากการทดลองภายในห้องแล็ปและนับหมื่นจากการทดลองภาคสนาม |
เป็นที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการคือ กรมการผลิตน้ำสะอาดและป้องกันการแพร่เชื้อโรคของกองทัพคันโต(関東軍防疫給水部本部 Kantōgun Bōeki Kyūsuibu Honbu) เดิมทีได้ถูกก่อตั้งขึ้นให้อยู่ภายใต้สารวัตรทหาร เค็นเปย์ไท แห่งจักรวรรดิญี่ป่น หน่วย 731 ได้ถูกควบคุมและบัญชาการจนกระทั่งสงครามยุติลงโดยพลโท ชิโร อิชิอิ เจ้าหน้าที่แพทย์สนามของกองทัพคันโต โรงงานแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1934 และ 1939 และได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการคือ "หน่วย 731" ในปี ค.ศ. 1941
จำนวนผู้ชาย ผู้หญิง และเด็กอย่างน้อย 3,000 คน[1][2]—นับตั้งแต่อย่างน้อยทุกๆ 600 ปีจะถูกจัดส่งโดยเค็นเปย์ไท[3] ซึ่งจะถูกระบุว่าเป็น "ท่อนซุง" ไปยังการทดลองที่ถูกจัดทำขึ้นโดยหน่วย 731 ที่ฐานทัพค่ายในเขตผิงฝางแห่งเดียว ซึ่งยังไม่รวมถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจากแผนกการทดลองทางการแพทย์อื่นๆ เช่น หน่วย 100[4]
ผู้มีส่วนร่วมในหน่วย 731 ของญี่ปุ่นได้ยืนยันว่า ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ที่พวกเขาได้ทำการทดลองล้วนเป็นชาวจีน ในขณะที่มีส่วนที่น้อยก็คือชาวโซเวียต มองโกเลีย เกาหลี และเชลยศึกของฝ่ายสัมพันธมิตรคนอื่นๆ หน่วยนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นจนถึงช่วงปลายสงครามในปี ค.ศ. 1945
แทนที่จะมีการตั้งข้อกล่าวหาสำหรับอาชญากรรมสงครามในช่วงหลังสงคราม นักวิจัยที่เกี่ยวข้องในหน่วย 731 ได้รับการยกเว้นอย่างลับๆโดยสหรัฐอเมริกาเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับข้อมูลที่รวบรวมมาได้จากการทดลองกับมนุษย์[5] นักวิจัยคนอื่นๆได้ถูกกองกำลังโซเวียตทำการเข้าจับกุมเป็นครั้งแรกและนำตัวขึ้นศาลที่การพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามฮาบารอฟสค์ในปี ค.ศ. 1945 อเมริกันไม่ได้ทำการพิจารณาคดีต่อนักวิจัยที่ได้ให้ข้อมูลและประสบการณ์ที่ได้รับในอาวุธชีวภาพซึ่งสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมในโครงการการสงครามชีวภาพของสหรัฐได้เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับนักวิจัยเยอรมันในปฏิบัติการคลิปหนีบกระดาษ[6] เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1947 ดักลาส แมกอาเธอร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งฝ่ายสัมพันธมิตรได้เขียนจดหมายไปถึงกรุงวอชิงตันได้กล่าวว่า"ข้อมูลที่รวบรวมหามาได้นั้น, อาจมีความเป็นไปได้ที่รายงานบางส่วนจากอิชิอิได้แสดงให้เห็นแก่ญี่ปุ่นว่า ข้อมูลเหล่านี้ที่เกี่ยวข้องจะถูกเก็บไว้ช่องทางข่าวกรองลับและจะไม่ถูกนำไปใช้เป็นหลักฐาน'ข้อหาอาชญากรรม'อย่างแน่นอน"[7] บัญชีรายชื่อของเหยื่อได้ถูกเพิกเฉยหรือลืมเลือนในโลกตะวันตก ซึ่งถือว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อของพวกคอมมิวนิสต์