![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/9/98/Logo_Gruppo_TIM.svg/langth-640px-Logo_Gruppo_TIM.svg.png&w=640&q=50)
เทเลคอมอีตาเลีย
From Wikipedia, the free encyclopedia
ติม เอส.พี.เอ. (อิตาลี: TIM S.p.A.) หรือ เทเลคอมอีตาเลีย (อิตาลี: Telecom Italia) เป็นบริษัทโทรคมนาคมของอิตาลี มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โรมและมิลาน ให้บริการโทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ และข้อมูลดิจิทัล ติมเป็นผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีในแง่ของรายได้และผู้ใช้บริการ บริษัทก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1994 โดยเกิดจากการควบรวมของบริษัทรัฐวิสาหกิจย่อยหลายบริษัท บริษัทเดิมที่ใหญ่ที่สุดคือ โซชีเอตาอีตาเลียนาเปอร์เลเซอร์ซิซีโอเทเลโฟนีโก พี.เอ. (อิตาลี: Società Italiana per l'Esercizio Telefonico p.A.; SIP) ซึ่งเคยเป็นผู้ให้บริการที่รัฐผูกขาด[4]
![]() | |
ประเภท | จดทะเบียน |
---|---|
การซื้อขาย | BIT: TIT NYSE: TI |
ISIN | IT0003497168 ![]() |
อุตสาหกรรม | โทรคมนาคม |
ก่อตั้ง | ค.ศ. 1925 ในชื่อสตีเปล ค.ศ. 1964 ในชื่อเอสไอพี ค.ศ. 1994 ในชื่อเทเลคอมอีตาเลีย ค.ศ. 2015 ในชื่อติม (เครื่องหมายการค้า) |
ผู้ก่อตั้ง | Istituto per la Ricostruzione Industriale ![]() |
สำนักงานใหญ่ | , |
บุคลากรหลัก | ลุยจี กูบีโตซี (ซีอีโอ), ซัลวาโตเร โรสซี (ประธาน)[1] |
ผลิตภัณฑ์ | โทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ อินเทอร์เน็ต บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ โครงข่ายโทรคมนาคม โทรทัศน์ระบบดิจิทัล |
รายได้ | ![]() |
รายได้สุทธิ | ![]() |
สินทรัพย์ | ![]() |
เจ้าของ | วีว็องดี (23.94%) Cassa Depositi e Prestiti (9.89%)[3] |
พนักงาน | ![]() |
บริษัทในเครือ | ติมบราซิล INWIT Olivetti Wind Hellas |
เว็บไซต์ | www |
หลักทรัพย์ของบริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิตาลี โดยใน ค.ศ. 2017 รัฐอิตาลีได้ใช้ "โกลเดนเพาเวอร์" ซึ่งอนุญาตในรัฐบาลเข้าใช้มาตรการกับบริษัทต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองดอกเบี้ยภายในประเทศ[5]
เทเลคอมอีตาเลียมีเครื่องหมายการค้าชื่อว่า ติม ซึ่งเดิมก่อตั้งใน ค.ศ. 1995 ในฐานะบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ ต่อมาใน ค.ศ. 2015 ได้เปลี่นมาเป็นเครื่องหมายการค้าที่ให้บริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ติมยังเป็นผู้สนับสนุนเซเรียอา[6] ติมมีสาขาย่อยในประเทศบราซิล ชื่อว่า ติมบราซิล ซึ่งมีผู้ใช้บริการ 72.6 ล้านคน[7] ส่วนผู้ใช้บริการติมทั่วโลกอยู่ที่ 114 ล้านคน[8]