โตกีโปนา
From Wikipedia, the free encyclopedia
โตกีโปนา (โตกีโปนา: toki pona;[lower-alpha 1] มักแปลว่า 'ภาษาที่ดี';[lower-alpha 2] สัทอักษรสากล: [ˈtoki ˈpona] ออกเสียงⓘ) เป็นภาษาประดิษฐ์ที่เป็นที่รู้จักจากการมีคำศัพท์ขนาดเล็ก เรียบง่าย และง่ายต่อการได้มา[4] ภาษานี้สร้างขึ้นโดย Sonja Lang นักภาษาศาสตร์และนักแปลภาษาชาวแคนาดา[4][5] เพื่อลดความซับซ้อนของความคิดและการสื่อสาร มีการเผยแพร่แบบร่างแรกทางออนไลน์ใน ค.ศ. 2001[1] ก่อนจะเผยแพร่รูปเต็มในหนังสือ Toki Pona: The Language of Good ใน ค.ศ. 2014[6][7]
โตกีโปนา | |
---|---|
toki pona | |
ศัพท์ toki pona ในอักษร sitelen pona | |
ออกเสียง | [ˈtoki ˈpona] |
สร้างโดย | Sonja Lang |
วันที่ | ค.ศ. 2001 |
การจัดตั้งและการใช้ | ทดสอบหลักการลัทธิจุลนิยม, ข้อสันนิษฐาน Sapir–Whorf และพิดจิน |
จุดประสงค์ | |
ระบบการเขียน | อักษรละติน; sitelen pona (ตัวหนังสือคำ); sitelen sitelen (ตัวหนังสือคำที่มีอักษรสระประกอบสำหรับคำยืม) และอักษรอื่น ๆ |
ที่มา | ภาษาจากผลไปหาเหตุที่มีคุณสมบัติของภาษาอังกฤษ, ตอกปีซิน, ฟินแลนด์, จอร์เจีย, ดัตช์, ฝรั่งเศสอากาเดีย, เอสเปรันโต, เซอร์เบีย-โครเอเชีย และจีน |
รหัสภาษา | |
ISO 639-3 | tok |
บทความนี้มีสัญลักษณ์สัทอักษรสากล หากระบบของคุณไม่รองรับการแสดงผลที่ถูกต้อง คุณอาจเห็นปรัศนี กล่อง หรือสัญลักษณ์อย่างอื่นแทนที่อักขระยูนิโคด |
โตกีโปนาเป็นภาษาโดดเดี่ยวที่มีเพียง 14 หน่วยเสียง และคุณสมบัติพื้นฐานของลัทธิจุลนิยม โดยมุ่งเน้นไปยังแนวคิดที่เรียบง่ายและใกล้เคียงสากลเพื่อเพิ่มการแสดงออกจากคำเพียงไม่กี่คำ ในหนังสือ Toki Pona: The Language of Good Lang เสนอคำศัพท์ระมาณ 120 คำ ส่วน Toki Pona Dictionary ในภายหลังระบุศัพท์ที่"จำเป็น"ถึง 137 คำและศัพท์ที่ไม่ค่อยใช้จำนวนหนึ่ง[lower-alpha 3] คำเหล่านี้ออกเสียงง่ายในทุกภาษา ซึ่งช่วยให้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างคนต่างวัฒนธรรม[11] อย่างไรก็ตาม ภาษานี้ไม่ได้สร้างเป็นภาษาช่วยสื่อสารนานาชาติ โดยส่วนหนึ่งได้แรงบันดาลใจจากปรัชญาลัทธิเต๋า ภาษานี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้มีการเจาะจงกับสิ่งพื้นฐานและส่งเสริมการคิดเชิงบวกตามข้อสันนิษฐาน Sapir–Whorf แม้จะมีคำศัพท์เพียงเล็กน้อย แต่ผู้พูดก็สามารถเข้าใจและสื่อสารได้ โดยส่วนใหญ่อาศัยบริบทและการผสมคำเพื่อแสดงความหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
หลังการสร้างช่วงแรก มีการพัฒนาชุมชนผู้พูดภาษาขนาดเล็กในช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 2000[5][12] ในขณะที่กิจกรรมส่วนใหญ่จักในโลกออนไลน์ที่ห้องแชต สื่อสังคม และในกลุ่มออนไลน์