Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สตีเฟน โรเบิร์ต "สตีฟ" เออร์วิน (อังกฤษ: Stephen Robert "Steve" Irwin; 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 – 4 กันยายน พ.ศ. 2549) ชื่อเล่นว่า "นักล่าจระเข้" เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องสัตว์ป่าชาวออสเตรเลีย[1][2] บุคคลในโทรทัศน์ และนักอนุรักษ์ธรรมชาติ เออร์วินมีชื่อเสียงทั่วโลกจากรายการโทรทัศน์ เดอะคร็อกโคไดล์ฮันเตอร์ (The Crocodile Hunter) สารคดีสัตว์ที่ออกอากาศทั่วโลก จัดรายการร่วมกับภรรยาชื่อ เทร์รี เขาและภรรยาเป็นเจ้าของสวนสัตว์ออสเตรเลียซู ก่อตั้งโดยพ่อแม่ของเออร์วินในเบียร์วาห์ ประมาณ 80 กิโลเมตร (50 ไมล์) ทางเหนือของบริสเบน เมืองหลวงของรัฐควีนส์แลนด์ เออร์วินเสียชีวิตในวันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2549 หลังจากถูกเงี่ยงปลากระเบนธงแทงหน้าอกขณะถ่ายทำสารคดีชุดโอเชียนส์เดดลีเอสต์ (Ocean's Deadliest) สมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติซีเชปเพิร์ด (Sea Shepherd Conservation Society) ตั้งชื่อเรือเอ็มวาย สตีฟ เออร์วิน (MY Steve Irwin) เพื่อเป็นเกียรติแก่เขา
สตีฟ เออร์วิน | |
---|---|
เออร์วินขณะที่สวนสัตว์ออสเตรเลีย พ.ศ. 2548 | |
เกิด | สตีเฟน โรเบิร์ต เออร์วิน 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1962 เอสเซนดัน รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย |
เสียชีวิต | 4 กันยายน ค.ศ. 2006 ปี) แบ็ตรีฟ รัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย | (44
สาเหตุเสียชีวิต | บาดแผลจากปลากระเบนที่หัวใจ |
สัญชาติ | ออสเตรเลีย |
ชื่ออื่น | "นักล่าจระเข้" |
อาชีพ | นักธรรมชาติวิทยา นักสัตววิทยา นักอนุรักษ์ ดาราทีวี นักวิทยาสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก |
ปีปฏิบัติงาน | พ.ศ. 2534–2549 |
ผลงานเด่น | The Crocodile Hunter |
คู่สมรส | เทร์รี เออร์วิน |
บุตร | บินดี เออร์วิน (เกิด พ.ศ. 2541) โรเบิร์ต ซี. เออร์วิน (เกิด พ.ศ. 2546) |
บิดามารดา | บ็อบ เออร์วิน ลิน เออร์วิน |
เว็บไซต์ | สวนสัตว์ออสเตรีเลีย |
ลายมือชื่อ | |
เขาแต่งงานกับสาวนักล่าจระเข้ชาวอเมริกันที่มีชื่อว่าเทร์รี เออร์วิน มีบุตรด้วยกันสองคนคือบินดี เออร์วิน (บุตรสาวคนโต) และโรเบิร์ต เออร์วิน (บุตรชายคนเล็ก) ปัจจุบันลูกทั้งสองเป็นนักล่าจระเข้เช่นกัน นอกจากจะเป็นสามีภรรยากันแล้วทั้งคู่ยังร่วมถ่ายสารคดีสัตว์โลก หนึ่งในนั้นคือการจับและสู้กับจระเข้ด้วยมือเปล่า สตีฟและภรรยายังดูแลสวนสัตว์ที่มีชื่อว่า Australia Zoo ชื่อเดิมคือ Queenland Reptile Park ก่อตั้งโดยพ่อและแม่ของเขาบ็อบ และลิน เออร์วิน โดยสตีฟ และเทร์รี เริ่มงานนี้ในปี พ.ศ. 2534[3]
สตีฟ และเทร์รี ใช้เวลาฮันนีมูนในการวางกับดักจระเข้ด้วยกัน ภาพยนตร์ของการฮันนีมูนของพวกเขาที่ถ่ายโดยจอห์น สเตนตัน (John Stainton) กลายเป็นตอนแรกของ เดอะคร็อกโคไดล์ฮันเตอร์ ภาพยนตร์ชุดรายการนี้เปิดตัวแพร่ภาพทางโทรทัศน์ของออสเตรเลียในปี พ.ศ. 2539 และเผยแพร่ทางโทรทัศน์ในอเมริกาเหนือในปีถัดมา เดอะคร็อกโคไดล์ฮันเตอร์ ประสบความสำเร็จในสหรัฐ, สหราชอาณาจักร[4] และอีกกว่า 130 ประเทศโดยมีผู้ชมถึง 500 ล้านคน รูปแบบการนำเสนอที่สดใสและกระตือรือร้นของเออร์วิน สำเนียงภาษาแบบออสเตรเลีย กางเกงขาสั้นสีกากีอันเป็นเอกลักษณ์ และวลีที่โดดเด่น "Crikey!" กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก[5] เซอร์เดวิด แอตเทนบะระยกย่องเออร์วินที่แนะนำหลาย ๆ คนให้รู้จักกับโลกธรรมชาติโดยกล่าวว่า "เขาได้สอนผู้อื่นว่าโลกธรรมชาติวิเศษและน่าตื่นเต้นแค่ไหน เขาเป็นนักสื่อสารโดยกำเนิด"[6]
ช่องโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวีของสหรัฐ แอนิมอลแพลนเน็ต ปิดท้ายเดอะคร็อกโคไดล์ฮันเตอร์ ตอนจบซีรีส์ด้วยเรื่อง Steve's Last Adventure สารคดีเรื่องสุดท้ายความยาว 3 ชั่วโมงโดยมีภาพการผจญภัยข้ามโลกของเออร์วินในสถานที่ต่าง ๆ เช่นเทือกเขาหิมาลัย, แม่น้ำแยงซี, บอร์เนียว และอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ เออร์วินได้ร่วมแสดงในสารคดีของแอนิมอลแพลนเน็ตเรื่องอื่น ๆ เช่น Croc Files,[7] เดอะคร็อกโคไดล์ฮันเตอร์ไดอารีส์[8] และ New Breed Vets[9] ในระหว่างการให้สัมภาษณ์รายการเดอะทูไนท์โชว์กับเจย์ เลโน ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2549 เออร์วินประกาศว่าช่องรายการดิสคัฟเวอรีคิดส์จะพัฒนารายการสำหรับลูกสาวของเขาบินดี ซู เออร์วิน[10] – ซึ่งรายการเกิดขึ้นหลังจากการเสียชีวิตของเขาในชื่อชุด บินดีเดอะจังเกิลเกิร์ล[11]
วันที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2549 เออร์วินเสียชีวิตด้วยอายุได้ในวัยเพียง 44 ปีขณะดำน้ำที่แนวปะการังแบ็ตรีฟ (ส่วนหนึ่งของเกรตแบร์ริเออร์รีฟ) ใกล้ ๆ พอร์ตดักลาส รัฐควีนส์แลนด์ เขากำลังถ่ายทำสารคดีชุด โอเชียนส์เดดลีเอสต์ (Ocean's Deadliest) และในช่วงที่อากาศไม่ดีนัก เขาตัดสินใจถ่ายทำในน้ำตื้นให้รายการโทรทัศน์ของบินดี ลูกสาว (รายการ บินดีเดอะจังเกิลเกิร์ล) เออร์วินเข้าใกล้ปลากระเบนธงขนาดลำตัวกว้าง 8 ฟุตในน้ำลึกระดับอกจากข้างหลังเพื่อถ่ายทำขณะที่มันกำลังว่ายน้ำออกไป จากข้อมูลของพยานเพียงคนเดียวกล่าวว่า ปลาดังกล่าวโจมตีเออร์วินราวกับปลาฉลาม โดยแทงร่างเออร์วินด้วยเงี่ยงหลายร้อยครั้ง ทีแรกเออร์วินเชื่อว่าปอดทะลุ แต่เงี่ยงปลาได้แทงหัวใจและทำให้เขาเลือดออกมาก[12][13] พฤติกรรมของปลากระเบนดังกล่าวเป็นการป้องกันตัวจากการถูกล้อม คนงานช่วยนำเออร์วินขึ้นเรือและผายปอด และรีบพาเขาขึ้นฝั่ง แต่หน่วยแพทย์กล่าวว่าเขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ[14][15][16]
การเสียชีวิตของเออร์วินเชื่อกันว่าเป็นการตายที่เกิดจากปลากระเบนธงเพียงครั้งเดียวที่จับภาพวิดีโอได้[17] ตำรวจรัฐควีนส์แลนด์ได้ดูสำเนาของวิดีโอ แต่ในที่สุดมีรายงานว่า สำเนาทั้งหมดถูกทำลายตามคำขอของครอบครัวเออร์วิน[18][19][20][21][22] งานสารคดีรายการโอเชียนส์เดดลีเอสต์ถูกถ่ายทำจนเสร็จ ได้ออกอากาศในสหรัฐในช่องดิสคัฟเวอรี แชนแนล ในวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2550 สารคดีดังกล่าวถ่ายทำเสร็จด้วยฉากที่ถ่ายทำเพิ่มในหลายสัปดาห์หลังเกิดเหตุ แต่ไม่ได้กล่าวถึงการเสียชีวิตของเออร์วินแต่อย่างใด[23][24]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.