คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
กัญชาในประเทศไทย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
กัญชาเคยเป็นสารเสพติดประเภท 5 ภายใต้พระราชบัญญัติยาเสพติด พ.ศ. 2522 อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนของกัญชาที่ไม่จัดเป็นยาเสพติด ไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกไกลที่มีกฎหมายกัญชาทางการแพทย์ใน พ.ศ. 2561 ต่อมาใน พ.ศ. 2565 ไทยถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการควบคุม
![]() | ความถูกต้องตามข้อเท็จจริงของบทความนี้อาจได้รับการประนีประนอมเนื่องจากข้อมูลล้าสมัย |
Remove ads
ประวัติศาสตร์
สรุป
มุมมอง
ดูเหมือนมีการนำกัญชาเข้าสู่ประเทศไทยจากประเทศอินเดีย โดยอ้างหลักฐานจากความคล้ายของชื่อไทยกับคำว่า गांजा (ganja) ในภาษาฮินดี[1] เดิมกัญชาใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นส่วนประกอบอาหาร เครื่องเทศ ยาและเป็นแหล่งของเส้นใย[2]
กัญชาเป็นสมุนไพรพื้นบ้านหลายศตวรรษก่อนถูกห้ามในคริสต์ทศวรรษ 1930 ทราบกันว่าผู้ใช้แรงงานใช้กัญชาเป็นยาคลายกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าใช้เพื่อบรรเทาการเจ็บครรภ์ของหญิงได้[3]
พระราชบัญญัติกัญชา พ.ศ. 2477 กำหนดให้การครอบครอง ขายและใช้กัญชาเป็นความผิดตามกฎหมาย[4] กฎหมายอีกสองฉบับที่มีความสำคัญ ได้แก่ พระราชบัญญัติยาเสพติด พ.ศ. 2522 และพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518[5]
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 พรรคภูมิใจไทยเสนอนโยบายกัญชาเสรี มีใจความว่า "ภูมิใจไทยสนับสนุนการปลูกกัญชาเพื่อใช้ในครัวเรือน หากเหลือจึงขาย โดยรัฐจะเป็นคนรับซื้อ และดูแลพื้นที่การปลูกโดยการซื้อขายต้องผ่านรัฐ ไม่สามารถซื้อขายได้โดยตรง และรัฐจะอุดหนุนให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมกันคิดพัฒนาทำวิจัยกัญชาด้วย"[6]
ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563 กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้กัญชาและกัญชงยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เพียงแต่ส่วนของกัญชาและกัญชงที่ได้จากการปลูกหรือผลิตในประเทศ ได้แก่ ใบที่ไม่ติดกับช่อดอก กิ่ง ก้าน ลำต้น เปลือก ราก และ เส้นใย รวมถึงสารสกัดที่มี CBD เป็นส่วนประกอบและกากที่เหลือจากการสกัด ซึ่งต้องมี THC ไม่เกินร้อยละ 0.2 ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 โดยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และอื่น ๆ ได้ ประชาชนสามารถใช้ส่วนต่าง ๆ ของกัญชาที่ไม่จัดเป็นยาเสพติดดังกล่าว ไปประกอบอาหาร ทำยารักษาโรค เป็นต้น ส่วนการนำเข้ากัญชาสามารถทำได้ โดยขออนุญาตเป็นยาเสพติด ยกเว้น เปลือกแห้ง แกนลำต้นแห้ง และเส้นใยแห้ง ซึ่งได้รับการยกเว้นไม่เป็นยาเสพติดตามประกาศนี้[7][8]
วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ได้มีการเสนอขึ้นทะเบียน "กัญชาไทย" เป็นมรดกโลก[9]
ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2565 มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขถอดกัญชาและกัญชงจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 5[10]
Remove ads
การวางระเบียบ
สรุป
มุมมอง
ก่อนการถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด
การครอบครอง การเพาะปลูกและการขนส่ง (นำเข้า/ส่งออก) กัญชาขนาดไม่เกิน 10 กิโลกรัมอาจมีโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ การครอบครอง การเพาะปลูกและการขนส่งกัญชาตั้งแต่ 10 กิโลกรัมขึ้นไปมีโทษจำคุก 2 ถึง 15 ปี หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ สำหรับผู้ที่ถูกจับฐานครอบครองกัญชาปริมาณเล็กน้อยมักได้รับโทษปรับมากกว่าจำคุก ตำรวจยาเสพติดมองว่ายาบ้า (เมตแอมเฟตามีน) เป็นปัญหาร้ายแรงกว่า[2]
พบว่ากัญชามีขายอย่างเปิดเผยในบาร์และร้านอาหารในบางพื้นที่ของประเทศ[11] ในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านพบกัญชาได้ทั่วไป ธุรกิจขายสินค้า "ความสุข" ซึ่งบรรจุกัญชา ผู้ค้ากัญชาบางครั้งทำงานกับตำรวจซึ่งไปรีดไถเอาสินบนกับลูกค้า กระนั้น นักท่องเที่ยวหลายคนลงเอยด้วยโทษจำคุกแม้ประเทศมีทัศนะผ่อนปรนต่อกัญชา[12]
กัญชาทางการแพทย์
สภานิติบัญญัติแห่งชาติเห็นชอบกัญชาทางการแพทย์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2561 นับเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกไกลที่มีกฎหมายดังกล่าว[13]
ทั้งนี้ ตาม "ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2563" ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563 กัญชาที่ได้จากการปลูกหรือผลิตในประเทศ ได้แก่ ใบที่ไม่ติดกับช่อดอก กิ่ง ก้าน ลำต้น เปลือก ราก และ เส้นใย รวมถึงสารสกัดที่มี CBD เป็นส่วนประกอบและกากที่เหลือจากการสกัด ซึ่งต้องมี THC ไม่เกินร้อยละ 0.2 ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 โดยสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ การศึกษาวิจัย ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และอื่น ๆ[14][15]
หลังการถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด
หลังการถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด มีการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรว่า การประกาศว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอาจขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ อาจส่งผลทำให้ไทยถูกจับตา เสียสิทธิทางยา หรืออาจเสียความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติด เป็นต้น[16]
หลังจากนั้นมีปัญหาเกี่ยวกับ "กัญชาเสรี" มากมาย เช่น มีหลายคนได้รับผลกระทบทางสุขภาพหลังบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชาโดยผู้ขายไม่แจ้ง[17] ต่อมามีความพยายามเข้ามาควบคุมการใช้กัญชา เช่น ต้องขอใบอนุญาตก่อนขายเครื่องดื่มผสมกัญชา[18] ต้องระบุการผสมกัญชาในฉลาดให้ชัดเจน และห้ามขายแก่บุคคลอายุไม่ถึง 20 ปี[19]
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 การพิจารณาร่างกฏหมายควบคุมการใช้กัญชา ถูกถอนออกจากวาระประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยการลงมติจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสียงข้างมาก โดยมีจำนวนผู้ลงมติ 346 คน, เห็นด้วยให้ถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ…. ออกจากวาระประชุม 198 คน, ไม่เห็นด้วย 136 คน งดออกเสียง 12 คน ส่งผลให้การใช้กัญชาในประเทศไทย ยังอยู่ในภาวะสูญญากาศต่อไป[20]
Remove ads
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads