คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
กีฬาฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 – ทีมชาย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
การแข่งขันกีฬาฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 – ทีมชาย เป็น 1 ใน 2 รายการแข่งขันฟุตบอลที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม - 7 สิงหาคม ค.ศ. 2021 ครั้งนี้จัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในโอลิมปิกเป็นครั้งที่ 24 ในโอลิมปิกฤดูร้อน จัดขึ้น ณ สนามกีฬาใน 6 เมือง
Remove ads
ปฏิทินการแข่งขัน
เวลาทั้งหมดเป็นเวลามาตรฐานญี่ปุ่น (UTC+9)[1]
G | รอบแบ่งกลุ่ม | ¼ | รอบก่อนรองชนะเลิศ | ½ | รองรองชนะเลิศ | B | รอบชิงเหรียญทองแดง | F | รอบชิงเหรียญทอง |
การคัดเลือก
- ^1 วันที่และประเทศที่จัดการแข่งขันในการแข่งขันรอบสุดท้าย ส่วนในการแข่งขันรอบแรกอาจแข่งขันในสถานที่ที่แตกต่างกัน
Remove ads
สนามแข่งขัน
การแข่งขันจัดขึ้นในหกสนาม ในหกเมืองเจ้าภาพ ดังนี้
- สนามกีฬาโตเกียว, โตเกียว
- สนามกีฬาไซตามะ, ไซตามะ
- สนามกีฬานานาชาติโยโกฮามะ, โยโกฮามะ
- สนามฟุตบอลคาชิมะอิบารากิ, คาชิมะ
- สนามกีฬามิยางิ, ริฟุ
- ซัปโปโระโดม, ซัปโปโระ
รายชื่อ
การแข่งขันฟุตบอลทีมชายเป็นทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติที่มีข้อจำกัดด้านอายุ ผู้เล่นจะต้องเกิดในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1997 โดยอนุญาตให้ผู้เล่นอายุเกินสามคนสำหรับแต่ละทีม แต่ละทีมต้องส่งทีมผู้เล่น 18 คน โดยสองคนต้องเป็นผู้รักษาประตู แต่ละทีมยังสามารถระบุรายชื่อผู้เล่นสำรองสี่ราย ซึ่งสามารถแทนที่ผู้เล่นคนใดก็ได้ในทีมในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างการแข่งขัน[8]
Remove ads
ผู้ตัดสิน
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การจับสลาก
สรุป
มุมมอง
การจับสลากของการแข่งขันจัดขึ้นในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2021 เวลา 10:00 (เวลาท้องถิ่น CEST UTC+2), ณ สำนักงานใหญ่ฟีฟ่า ในซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์[9] ดำเนินการโดย ซาไร บาเรแมน หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฟุตบอลหญิงของฟีฟ่า และ ไฆเม ยาร์ซา ผู้อำนวยการการแข่งขันของฟีฟ่า
ทีมที่ผ่านรอบคัดเลือก 15 ทีมและเจ้าภาพญี่ปุ่น จะถูกแบ่งออกเป็นสี่โถ ซึ่งเจ้าภาพญี่ปุ่นจะถูกจัดวางในโถ 1 โดยอัตโนมัติและมอบหมายให้อยู่ในตำแหน่ง A1 ในขณะที่ทีมที่เหลือถูกวางลงในโถตามลำดับโดยอิงจากผลการแข่งขันในห้าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ผ่านมา (ในปีล่าสุดจะได้รับคะแนนในการพิจารณามากกว่า) พร้อมคะแนนโบนัสที่มอบให้กับแชมป์ของสมาพันธ์นั้น ๆ ในหนึ่งกลุ่มจะไม่มีกลุ่มใดที่มีมากกว่าหนึ่งทีมจากแต่ละสมาพันธ์[10] เจ้าภาพอย่างญี่ปุ่นถูกวางในโถ 1 และอยู่ในตำแหน่ง A1 โดยอัตโนมัติ ในขณะที่ทีมอื่น ๆ จะเรียงตามผลงานในโอลิมปิกห้าครั้งหลังสุด (ถ้าเข้าร่วมมากก็จะได้คะแนนมาก) โดยคะแนนพิเศษจะถูกเพิ่มให้กับทีมแชมป์ของแต่ละสมาพันธ์ ในแต่ละกลุ่มต้องไม่มีทีมที่มาจากสมาพันธ์เดียวกันมากกว่าหนึ่งทีม[11]
Remove ads
รอบแบ่งกลุ่ม
สรุป
มุมมอง
เวลาทั้งหมดเป็นเวลามาตรฐานญี่ปุ่น (UTC+9).[12]
กลุ่ม เอ
ผู้ตัดสิน: Artur Soares Dias (โปรตุเกส)
ผู้ตัดสิน: Iván Barton (เอลซัลวาดอร์)
ซัปโปโรโดม, ซัปโปโร
ผู้ตัดสิน: Matthew Conger (นิวซีแลนด์)
กลุ่ม บี
แหล่งข้อมูล: ฟีฟ่า
ผู้ตัดสิน: Orel Grinfeld (อิสราเอล)
ผู้ตัดสิน: Jesús Valenzuela (เวเนซุเอลา)
ผู้ตัดสิน: Georgi Kabakov (บัลแกเรีย)
กลุ่ม ซี
แหล่งข้อมูล: ฟีฟ่า
ซัปโปโรโดม, ซัปโปโร
ผู้ตัดสิน: Bamlak Tessema Weyesa (เอธิโอเปีย)
ผู้ตัดสิน: Ismail Elfath (สหรัฐ)
กลุ่ม ดี
แหล่งข้อมูล: ฟีฟ่า
ผู้ตัดสิน: Ismail Elfath (สหรัฐ)
ผู้ตัดสิน: Victor Gomes (แอฟริกาใต้)
ผู้ตัดสิน: Bamlak Tessema Weyesa (เอธิโอเปีย)
Remove ads
รอบแพ้คัดออก
สรุป
มุมมอง
การแข่งขันในรอบแพ้คัดออกจะแข่งขันกันในเวลาปกติ 90 นาที หากเสมอกันจะต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที โดยแบ่งเป็นครึ่งละ 15 นาที หากยังเสมอกันต้องดวลลูกโทษ เพื่อหาผู้ชนะ[15]
สายการแข่งขัน
รอบก่อนรองชนะเลิศ | รอบรองชนะเลิศ | รอบชิงเหรียญทอง | ||||||||
31 กรกฎาคม – โยโกฮามะ | ||||||||||
![]() | 3 | |||||||||
3 สิงหาคม – คาชิมะ | ||||||||||
![]() | 6 | |||||||||
![]() | 0 (1) | |||||||||
31 กรกฎาคม – ไซตามะ | ||||||||||
![]() | 0 (4) | |||||||||
![]() | 1 | |||||||||
7 สิงหาคม – โยโกฮามะ | ||||||||||
![]() | 0 | |||||||||
![]() | 2 | |||||||||
31 กรกฎาคม – คาชิมะ | ||||||||||
![]() | 1 | |||||||||
![]() | 0 (4) | |||||||||
3 สิงหาคม – ไซตามะ | ||||||||||
![]() | 0 (2) | |||||||||
![]() | 0 | |||||||||
31 กรกฎาคม – ริฟุ | ||||||||||
![]() | 1 | รอบชิงเหรียญทองแดง | ||||||||
![]() | 5 | |||||||||
6 สิงหาคม – ไซตามะ | ||||||||||
![]() | 2 | |||||||||
![]() | 3 | |||||||||
![]() | 1 | |||||||||
รอบแพ้คัดออก
สนามฟุตบอลคาชิมะ, คาชิมะ
ผู้ตัดสิน: Ismail Elfath (สหรัฐ)
ผู้ตัดสิน: Chris Beath (ออสเตรเลีย)
ผู้ตัดสิน: Orel Grinfeld (อิสราเอล)
รอบรองชนะเลิศ
สนามฟุตบอลคาชิมะ, คาชิมะ
ผู้ตัดสิน: Georgi Kabakov (บัลแกเรีย)
ผู้ตัดสิน: Kevin Ortega (เปรู)
รอบชิงเหรียญทองแดง
ผู้ตัดสิน: Bamlak Tessema Weyesa (เอธิโอเปีย)
รอบชิงเหรียญทอง
ผู้ตัดสิน: คริส บีธ (ออสเตรเลีย)
Remove ads
สถิติ
สรุป
มุมมอง
ผู้ทำประตูสูงสุด
มีการทำประตู 93 ประตู จากการแข่งขัน 32 นัด เฉลี่ย 2.91 ประตูต่อนัด
การทำประตู 5 ครั้ง
การทำประตู 4 ครั้ง
André-Pierre Gignac
Sebastián Córdova
Hwang Ui-jo
การทำประตู 3 ครั้ง
Matheus Cunha
ทาเกฟูสะ คูโบะ
Henry Martín
Alexis Vega
อี คัง อิน
Rafa Mir
มิเกล โอยาร์ซาบัล
การทำประตู 2 ครั้ง
Ragnar Ache
Nadiem Amiri
Eduardo Aguirre
Luis Romo
คริส วูด
Sami Al-Najei
Lee Dong-gyeong
การทำประตู 1 ครั้ง
Tomás Belmonte
Facundo Medina
Marco Tilio
Lachlan Wales
มัลกง
เปาลิญญู
Amar Hamdy
Ahmed Yasser Rayyan
Téji Savanier
Eduard Löwen
Felix Uduokhai
Juan Carlos Obregón Jr.
Luis Palma
Rigoberto Rivas
เอริก บายี
Max Gradel
Franck Kessié
ริตสึ โดอัง
ไดเซ็น มาเอดะ
คาโอรุ มิโตมะ
โคจิ มิโยชิ
ฮิโรกิ ซากาอิ
Roberto Alvarado
Uriel Antuna
Johan Vásquez
Liberato Cacace
Abdulelah Al-Amri
Salem Al-Dawsari
Kobamelo Kodisang
Evidence Makgopa
Teboho Mokoena
Kim Jin-ya
Um Won-sang
Won Du-jae
มาร์โก อาเซนซิโอ
Mikel Merino
ดานิ โอลโม
การทำเข้าประตูตัวเอง 1 ครั้ง
เบ็นยามีน เฮ็นริชส์ (ในนัดที่พบกับโกตดิวัวร์)
Elvin Oliva (ในนัดที่พบกับโรมาเนีย)
Marius Marin (ในนัดที่พบกับเกาหลีใต้)
Abdulelah Al-Amri (ในนัดที่พบกับโกตดิวัวร์)
แหล่งที่มา : ฟีฟ่า
อันดับ
นัดที่มีผลแพ้ชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ จะถูกนับว่าเป็นชนะหรือแพ้ ในขณะที่นัดที่ตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ จะถูกนับว่าเป็นการเสมอ
Remove ads
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads