คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (อังกฤษ : Faculty of Medicine, Mahasarakham University) เป็นหน่วยงานระดับคณะวิชาลำดับที่ 15 ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2546 เป็นโรงเรียนแพทย์แห่งที่ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับจัดตั้ง และเป็นโรงเรียนแพทย์แห่งที่ 2 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับการรับรองหลักสูตรจากแพทยสภา[2]ถัดจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีพันธกิจในการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ คุณธรรม เป็นสากล สร้างสรรค์งานวิจัยมาตรฐานสากล เพื่อชี้นำด้านสุขภาพ ให้บริการสุขภาพที่ได้มาตรฐานระดับสากล
ที่ตั้งของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อยู่ในเขตพื้นที่ในเมือง (Downtown Campus) พื้นที่เดียวกับโรงพยาบาลสุทธาเวช (โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยระดับตติยภูมิขั้นสูง Super Tertiary Care) คณะศึกษาศาสตร์ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ เป็นพื้นที่ใจกลางเขตธุรกิจและการเงินของจังหวัดมหาสารคาม ด้านหน้าติดกับถนนนครสวรรค์ สามารถเดินทางมาถึงได้โดย รถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
การก่อตั้งคณะแพทยศาสตร์

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้รับการสนับสนุนให้ก่อตั้งในสมัยของอธิการบดี ศาสตราจารย์(พิเศษ) เภสัชกร ดร.ภาวิช ทองโรจน์ โดยทาบทาม ศาสตราจารย์ นายแพทย์สมพร โพธินาม เป็นประธานในการริเริ่มโครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปี 2540 ในสังกัดคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีแนวคิดให้คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นสถาบันที่เป็นเลิศทางวิชาการด้านเวชศาสตร์ครอบครัว ผลิตบัณฑิตและแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ครอบครัวและชุมชนที่มีคุณภาพ ประกอบด้วยคุณธรรมและจริยธรรม สร้างงานวิจัยที่มีคุณค่า เป็นแหล่งอ้างอิงทางวิชาการของท้องถิ่น ประเทศชาติ และนานาชาติและยุทธศาสตร์ที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์[3] การดำเนินงานในระยะแรกเป็นการเตรียมความพร้อมด้านอาจารย์ ด้วยการคัดเลือกบุคคลเข้ารับทุนศึกษาต่อในระดับ ปริญญาโทและเอก

หลังจากเตรียมความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและหลักสูตร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงได้รับการจัดตั้งเป็นหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย ตามมติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 10/2546 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2546 และสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้วางระเบียบมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ว่าด้วยคณะแพทยศาสตร์ ในการประชุมครั้งที่ 8/2547[4] โดยดำเนินการในรูปแบบหน่วยงานนอกระบบราชการที่เน้นความคล่องตัวมีประสิทธิภาพและพึ่งตนเองมากที่สุด ในระยะเริ่มดำเนินงานสำนักงานตั้งอยู่ ณ อาคารวิทยาศาสตร์ชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ห้อง 305 ชั้น 3 วิทยาเขตขามเรียง (ม.ใหม่) คณะแพทยศาสตร์ได้รับโอนหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ จากคณะเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพเข้ามาสังกัดในคณะแพทยศาสตร์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2547 โดยนิสิต 84 คน จำนวน 2 รุ่น และได้เปิดรับนิสิตในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (6 ปี) หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2549 ซึ่งได้การรับรองจากแพทยสภา เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2549 และได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 5 / 2549 เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เป็นรุ่นแรก ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2548 ได้ย้ายคณะแพทยศาสตร์มาดำเนินงาน ณ เขตพื้นที่ในเมือง ที่ตั้ง 269 ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม[5] (เขตพื้นที่ในเมือง แบ่งเป็น 2 ฝั่งคือ ฝั่งวิทยาลัยวิชาการศึกษาเดิม ประกอบด้วย คณะแพทยศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์และโรงพยาบาลสุทธาเวช และฝั่งวิทยาลัยคณาสวัสดิ์เดิม ประกอบด้วย คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม และโรงเรียนสาธิตฝ่ายประถม โดยมีคลองคะคางเป็นเส้นแบ่งเขต)
ปัจจุบันคณะแพทยศาสตร์ เป็นหน่วยงานนอกระบบราชการในกำกับของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม แบ่งการบริหารงานออกเป็นสำนักงานเลขานุการคณะแพทยศาสตร์และงานบริการวิชาการคณะแพทยศาสตร์ ดำเนินการจัดการเรียนการสอน 5 หลักสูตร 7 สาขาวิชา คือ หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (6 ปี) หลักสูตรแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาฉุกเฉินการแพทย์ หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิตสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ สาขาวิชานวัตกรรมสุขภาพเขตร้อน (นานาชาติ) และหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ และสาขาวิชานวิทยาศาสตร์สุขภาพ (นานาชาติ)[6]
การก่อสร้างโรงพยาบาล


โรงพยาบาลสุทธาเวช พัฒนามาจาก ศูนย์บริการทางการแพทย์ ซึ่งดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2547 ณ อาคารประกอบการหอพัก ระหว่างหอพักเชียงยืนและหอพักชื่นชม ภายในเขตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตำบลขามเรียง ต่อมาเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2549 ได้เปิดศูนย์บริการทางการแพทย์แห่งที่ 2 ณ ที่ทำการคณะแพทยศาสตร์ อาคารศูนย์บริการทางการแพทย์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม และมีแผนการพัฒนาศูนย์บริการทางการแพทย์แห่งที่ 2 เป็นโรงพยาบาลคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย โดยได้เริ่มก่อสร้างอาคารศูนย์บริการทางการแพทย์และศูนย์วิจัยเฉลิมพระเกีรยติขึ้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2552 แล้วเสร็จวันที่ 15 มีนาคม 2556 ใช้เงินงบประมาณแผ่นดินร่วมกับเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม รวมทั้งสิ้น 279,538,600 บาท (สำหรับเครื่องมือ อุปกรณ์การแพทย์ และการปรับปรุงตกแต่งห้องพิเศษ) และได้รับความร่วมมือจากแรงศรัทธาของชาวจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียงร่วมบริจาคเพิ่มเติมจากเงินงบประมาณอาคาร โดยใช้ชื่อในขณะนั้นว่า "ศูนย์บริการทางการแพทย์และศูนย์วิจัยเฉลิมพระเกียรติ" ซึ่งเป็นชื่อในขั้นตอนของการของบประมาณและในภายหลังได้พัฒนามาเป็น"โรงพยาบาลคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม" ในเวลาต่อมา[7]
ในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2558 โรงพยาบาลคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานชื่อโรงพยาบาลว่า“สุทธาเวช” หมายถึง โรงพยาบาลซึ่งพร้อมด้วยการแพทย์อันดีงาม และพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย “ส.ธ.” ประดับที่ป้ายชื่อโรงพยาบาลด้วย[8]
การเปิดโรงพยาบาล
วันอังคาร ที่ 22 มีนาคม 2559 เวลา 14.35 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากอาคารพลศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ไปยังโรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายชื่อ “โรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์” ทรงทอดพระเนตรนิทรรศการผลการดำเนินงานของคณะแพทยศาสตร์ และทรงลงพระนามาภิไธยในแผ่นศิลา[9] ถือเป็นการเปิดใช้งานโรงพยาบาลสุทธาเวชอย่างเป็นทางการ
Remove ads
สัญลักษณ์
- ตราประจำคณะ
ตราประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คือ พญานาค 2 ตนลำตัวพันกัน ตรงกลางเป็นตราโรจนากร อยู่ในวงกลมสีเขียวพร้อมชื่อคณะและปีที่ก่อตั้งทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
- สัญลักษณ์ประจำคณะ
สัญลักษณ์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คือ คทาคาดูเซียส เป็นคทาสั้นที่มีงูสองตัวพันกันเป็นเกลียวขึ้นมา (สำหรับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ใช้พญานาคแทนงู แสดงถึงความยิ่งใหญ่และการเคารพบูชาพญานาคของคนในภูมิภาคนี้) โดยคทาคะดูเซียส เป็นไม้เท้าของเทพเฮอร์มีส ตามตำนานเทพของกรีก หรือเทพเมอร์คิวรี ในตำนานเทพของโรมัน มีรูปเป็นไม้เท้ามีปีกหนึ่งคู่ และมีงูสองตัวเลื้อยกระวัดพันอยู่ตั้งแต่ด้ามจนปลาย เป็นสัญลักษณ์ของการค้า การอาชีพ และกิจการอื่น ๆ ที่เนื่องด้วยเทพเฮอร์มีส ตลอดจนเป็นสัญลักษณ์ทางการแพทย์[10]
- สีประจำคณะ
- ต้นไม้/ดอกไม้ประจำคณะ
ต้นพญายา คือต้นไม้ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
Remove ads
หน่วยงานภายในคณะ
สรุป
มุมมอง
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แบ่งการบริหารหน่วยงานภายในดังนี้
สาขาวิชาการแพทย์แผนไทยประยุกต์
เปิดการเรียนการสอนในด้านการแพทย์แผนไทย รับนิสิตรุ่นแรกปี 2545 เดิมทีเป็นสาขาในคณะเภสัชศาสตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพ และในปี 2547 จึงได้โอนมาสังกัดยังคณะแพทยศาสตร์]] และเป็นโครงการจัดตั้งคณะสหเวชศาสตร์ในอนาคต
ภาควิชา
คณะแพทยศาสตร์ มีหน่วยงานเทียบเท่าภาควิชา ดังนี้
|
|
Remove ads
หน่วยวิจัย
หน่วยวิจัยภายในคณะแพทยศาสตร์
- หน่วยวิจัยคณะแพทยศาสตร์ฯ
- หน่วยวิจัยการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
- หน่วยวิจัยการพัฒนานวัตกรรมการสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มวัยในแถบลุ่มแม่น้ำโขง
- หน่วยวิจัยชีวเวชศาสตร์
- หน่วยวิจัยด้านการแพทย์แผนไทย
- หน่วยวิจัยด้านภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์
- หน่วยวิจัยโรคเขตร้อนและโรคปรสิตฯ
หลักสูตรการศึกษา
สรุป
มุมมอง
ปัจจุบัน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดทำการเรียนการสอนใน 5 หลักสูตร 8 สาขาวิชา ดังต่อไปนี้
หมายเหตุ
- หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต เรียน 6 ปี ไม่เกิน 12 ปีการศึกษา
- หลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต และหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (ฉุกเฉินการแพทย์) เรียน 4 ปี ไม่เกิน 8 ปีการศึกษา
Remove ads
สีประจำหลักสูตร
- หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต (พ.บ.) สีเขียว ( Permanent green middle )
- หลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต (พทป.บ.) สีเขียวไพล ( Permanent green light )
- หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (ฉุกเฉินการแพทย์) (วท.บ.) สีเขียวตั้งแช ( Viridian green light )
สีเขียวตั้งแช (สีเขียวเวอร์ริเดียน)
- หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม.) และ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.) สีเขียวเข้ม ( Permanent green deep )
Remove ads
การรับบุคคลเข้าศึกษา
สรุป
มุมมอง
หลักสุตรแพทยศาสตรบัณฑิต
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดรับนิสิตแพทย์รุ่นที่ 1 ในปีการศึกษา 2549 โดยใช้ระบบรับตรงของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปัจจุบัน คณะแพทยศาสตร์ เปิดรับนิสิตในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาแพทยศาสตร์ทั้งสิ้น 1 โครงการ ได้แก่
- โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (CPIRD) คณะแพทยศาสตร์[12]
โดยคณะเปิดรับเฉพาะนักเรียนที่มีภูมิลำเนาในเขตพื้นที่ 9 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้น คือ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มุกดาหาร นครพนม สกลนคร บึงกาฬ และ หนองบัวลำภู
หลักสูตรอื่น ๆ
- ระดับปริญญาตรี
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีเกณฑ์การรับบุคคลเข้าศึกษาในหลักสูตรการแพทย์แผนไทยประยุกต์บัณฑิต และวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาฉุกเฉินการแพทย์ ทั้งสิ้น 5 โครงการ ได้แก่
- โครงการเด็กดีมีที่เรียน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม[13]
- โครงการส่งเสริมเยาวชนดีเด่นด้านกีฬา[14]
- โครงการโควตาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ[15]
- โครงการรับตรงร่วมกัน (แอดมิสชัน 1)[16]
- โครงการรับกลางร่วมกัน (แอดมิสชัน 2)[17]
- ระดับปริญญาโท
การรับเข้าศึกษาในระดับปริญญาโท มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ [18]
- ผู้สมัครต้องสำเร็จปริญญาตรี หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาสุดท้าย และมีคุณสมบัติขั้นต้น ดังนี้
- ผลการศึกษาหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ได้คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75.00 หรือแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 2.50, หรือ
- มีประสบการณ์ในการทำงานอย่างน้อย 3 ปี และมีคุณสมบัติพิเศษตามที่แต่ละหลักสูตรกำหนด [19]
- กรณีสมัครเรียนหลักสูตรแผน ก แบบ ก.1 หรือ แบบ ก.2 (ตามมาคฐานบัณฑิตศึกษาของประเทศไทย) ผู้สมัครต้องจัดเตรียมเอกสารเค้าโครงวิจัย ที่สอดคล้องกับทิศทางของสาขาวิชา และนำเสนอต่อคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์
- มาตรฐานหนึ่งของบัณฑิตศึกษาสำหรับหลักสูตรปริญญาโท ที่กำหนดการทำวิทยานิพนธ์ แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
- แผน ก แบบ ก.1 วิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต
- แผน ก แบบ ก.2 วิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
- ระดับปริญญาเอก
การรับเข้าศึกษาในระดับปริญญาเอก มีรายละเอียดดังต่อไปนี้ [18]: 5
- ผู้สมัครต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคการศึกษาสุดท้าย และมีคุณสมบัติขั้นต้น ดังนี้
- ผลการศึกษาหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ได้คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 81.25 หรือแต้มระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ำกว่า 3.25, หรือ
- มีคุณสมบัติพิเศษตามที่แต่ละหลักสูตรกำหนด [19] โดยพิจารณาผลการสอบข้อเชียนและผลงานวิชาการอื่นประกอบ
- กรณีสมัครเรียนหลักสูตรแผน ก แบบ ก.1 หรือ แบบ ก.2 (ตามมาคฐานบัณฑิตศึกษาของประเทศไทย) ผู้สมัครต้องจัดเตรียมเอกสารเค้าโครงวิจัย ที่สอดคล้องกับทิศทางของสาขาวิชา และนำเสนอต่อคณะกรรมการสอบสัมภาษณ์
- มาตรฐานหนึ่งของบัณฑิตศึกษาสำหรับหลักสูตรปริญญาเอก ที่กำหนดการทำวิทยานิพนธ์ แบ่งเป็น 2 แบบ คือ
- แผน ก แบบ ก.1 วิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต
- แผน ก แบบ ก.2 วิทยานิพนธ์ไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต
Remove ads
การเรียนการสอนในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
สรุป
มุมมอง

การเรียนการสอนในหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ ระดับชั้นปรีคลินิก (ชั้นปีที่ 1 - 3) และระดับชั้นคลินิก (ชั้นปีที่ 4 - 6) ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ระดับชั้นปรีคลินิก
ในระดับชั้นนี้จะเป็นการเรียนทางด้านวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐานก่อนที่จะนำไปใช้กับผู้ป่วยในระดับชั้นคลินิกต่อไป โดยในชั้นปีที่ 1 นิสิตแพทย์จะเรียนในรายวิชาศึกษาทั่วไปร่วมกับนิสิตคณะอื่นๆ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งส่วนใหญ่จะเรียนที่อาคารราชนครินทร์ อาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์และปรีคลินิก (ตึกสาธาฯ) และกลุ่มอาคารคณะวิทยาศาสตร์ (SC1-3) ส่วนในชั้นปีที่ 2-3 จะเรียนในรายวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ตามระบบต่างๆ ของร่างกาย และบูรณาการร่วมกับความรู้ในชั้นคลินิกโดยคณาจารย์จากคณะแพทยศาสตร์และบางรายวิชาที่ตึกสาธาฯ
ระดับชั้นคลินิก
เป็นการเรียนต่อยอดจากระดับชั้นปรีคลินิกโดยเน้นการนำไปใช้กับผู้ป่วยจริง ในระดับชั้นนี้ นิสิตแพทย์จะแยกกันเรียนในโรงพยาบาลต่างๆ ตามโครงการที่เข้ามาตั้งแต่แรกรับ โดยนิสิตแพทย์จะแยกไปเรียนในโรงพยาบาลร่วมผลิตแพทย์ ซึ่งหลักสูตรการเรียนการสอนจะอยู่ในกำกับของคณะแพทยศาสตร์ ในส่วนของคณะแพทยศาสตร์จะจัดการเรียนการสอนที่โรงพยาบาลสุทธาเวช โดยในชั้นปีที่ 4 - 5 จะเรียนโดยการตรวจรักษาผู้ป่วยในหอผู้ป่วยต่างๆ ร่วมกับการเรียนภาคบรรยาย และในชั้นปีที่ 6 (Extern) จะเน้นการเรียนเสมือนการทำงานจริงภายใต้การควบคุมของแพทย์ใช้ทุน (Intern) และอาจารย์แพทย์ โดยจะมีการออกฝึกในโรงพยาบาลอื่นๆ ได้แก่ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
ก่อนจบการศึกษา นิสิตแพทย์จะต้องผ่านการสอบวัดความรู้รวบยอดภาคทฤษฎี ในชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 5 และสอบวัดผลภาคปฏิบัติในชั้นปีที่ 6 โดยเป็นการสอบเพื่อปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต (Comprehensive examination) ซึ่งจัดสอบโดยคณะแพทยศาสตร์เอง รวมทั้งการสอบเพื่อใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม (National license) ซึ่งเป็นการสอบส่วนกลาง จัดสอบโดยศูนย์ประเมินและรับรองความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทยสภา (ศรว.) ทั้งนี้เพื่อควบคุมให้บัณฑิตแพทย์มีมาตรฐานเดียวกัน
เมื่อจบการศึกษา บัณฑิตแพทย์จะได้รับปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิต ซึ่งหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ผ่านการรับรองมาตรฐานการศึกษาแพทยศาสตร์ตามมาตรฐานสากลจากสถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษาแพทยศาสตร์ (สมพ.) แล้ว[20]
Remove ads
กีฬาโฮมหมอเกมส์
กีฬาโฮมหมอเกมส์ หรือ กีฬาสานสัมพันธ์นิสิตกลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ[21] เป็นกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์อันดีและความสามัคคีต่อกันระหว่างนิสิตในสายวิชาชีพเดียวกัน จัดโดยโดยสโมสรนิสิตคณะสาธารณสุขศาสตร์ สโมสรนิสิตคณะพยาบาลศาสตร์ สโมสรนิสิตคณะเภสัชศาสตร์ สโมสรนิสิตคณะแพทยศาสตร์ และสโมสรคณะสัตวแพทยศาสตร์
กีฬาสานสัมพันธ์ดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อให้นิสิตตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย เป็นการสร้างความคุ้นเคยและความสัมพันธ์อันดีระหว่างนิสิตในสายวิชาชีพเดียวกัน เนื่องจากอนาคตต้องมีการทำงานร่วมกัน เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนิสิตในมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งสอดคล้องกับนโยบายสร้างเสริมสุขภาพของมหาวิทยาลัยมหาสารคามอีกด้วย โดยในงานได้มีการเดินขบวนพาเหรดของสโมสรนิสิตแต่ละคณะ และการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆ ประกอบด้วย ฟุตซอล, บาสเกตบอล, วอลเลย์บอล, ตะกร้อ, เปตอง และกีฬฮาเฮ อาทิ ชักเย่อ, วิ่งกระสอบ เป็นต้น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 500 คน ประกอบด้วย นิสิต อาจารย์ ของคณะสาธารณสุขศาสตร์, คณะพยาบาลศาสตร์, คณะเภสัชศาสตร์, คณะแพทยศาสตร์ และคณะสัตวแพทยศาสตร์
Remove ads
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยและสถาบันร่วมผลิตแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์
หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
โรงพยาบาลที่ผลิตแพทย์ร่วมกับสาขาวิชาแพทยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในระดับชั้นคลินิก (ชั้นปี 4 - 6) มีทั้งสิ้น 2 โรงพยาบาล โดยได้มีการจัดตั้ง "ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก" ในโรงพยาบาลต่างๆ ที่ร่วมผลิตแพทย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีดังนี้
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาฉุกเฉินการแพทย์
โรงพยาบาลที่ร่วมผลิตนักฉุกเฉินการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้แก่
Remove ads
ทำเนียบคณบดี
รายนามคณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบันมีดังนี้
สถานที่ตั้งและพื้นที่
สรุป
มุมมอง


คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตั้งอยู่เลขที่ 77/99 ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ประกอบด้วยอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ 8 หลัง (รวมโรงพยาบาลสุทธาเวช) ได้แก่ อาคารศูนย์บริการทางการแพทย์หลังเก่า (สำนักงานคณบดีคณะแพทยศาสตร์) อาคารศูนย์บริการทางการแพทย์และศูนย์วิจัยเฉลิมพระเกียรติฯ 1 (โรงพยาบาลสุทธาเวช) อาคารศูนย์บริการทางการแพทย์และศูนย์วิจัยเฉลิมพระเกียรติฯ 2 (อาคารคณะแพทยศาสตร์) อาคารผลิตยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาคารศูนย์บริการแพทยแผนไทย อาคารรังสีวินิจฉัย อาคารเอนกประสงค์คณะแพทยศาสตร์ อาคารผู้ป่วยนอก 1 และกลุ่มที่พักบุคลากรทางการแพทย์ 4 หลัง
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีอาคารหลักคือ "อาคารศูนย์บริการทางการแพทย์และศูนย์วิจัยเฉลิมพระเกียรติ หลังที่ 2" (อาคารคณะแพทยศาสตร์ 2) ความสูง 12 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 15,025.53 ตารางเมตร วงเงินจัดสรร 253,200,000 บาท โดยในปัจจุบันอาคารดังกล่าวเป็นสถานที่ติดต่อราชการ ที่ทำการศึกษาของแต่ละภาควิชา และห้องประชุม ภายในอาคารประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้
- ชั้น 1 ห้องสมุดขนาด 150 ที่นั่งและสำนักงาน
- ชั้น 2 ห้องสัมมนาขนาด 300 ที่นั่ง และขนาด 150 ที่นั่ง
- ชั้น 3 ห้องเรียนขนาด 60 ที่นั่ง จำนวน 6 ห้อง
- ชั้น 4 ห้องศึกษาหุ่น และห้องเรียนกลุ่มขนาด 15 ที่นั่ง จำนวน 12 ห้อง
- ชั้น 5 ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 2 ห้องใหญ่และจำนวน 4 ห้องเล็ก
- ชั้น 6 เป็นห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 2 ห้องใหญ่และ 4 ห้องเล็ก
- ชั้น 7 และชั้น 8 สำนักงานบริหารคณะแพทยศาสตร์
- ชั้น 9 และชั้น 10 สำนักงานของอาจารย์ พร้อมห้องประชุม
- ชั้น 11 ห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 ห้อง
- ชั้น 12 ห้องสอนภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ขนาด 120 เตียง
นอกจากอาคารคณะแพทยศาสตร์ 2 แล้ว ยังมีอาคารอื่นๆ ได้แก่
- อาคารรังสีวินิจฉัย เป็นอาคารที่ใช้งานร่วมกันกับคณะแพทยศาสตร์ โดยเป็นอาคารสำหรับกิจการด้านรังสิวิทยาสำหรับการวินิจฉัยและการแพทย์และภาควิชารังสีวิทยา
- อาคารคณะแพทยศาสตร์ 1 เป็นอาคาร 4 ชั้น เดิมเป็นอาคารเรียนหลักของคณะแพทย์ ปัจจุบันปรับปรุงเป็นตึกจ่ายกลางและคลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์
- อาคารสถานผลิตยา เป็นอาคารสำหรับการผลิตยาและสมุนไพร
- ศูนย์อาหารคณะแพทยศาสตร์ เป็นศูนย์อาหารสำหรับนิสิตแพทย์ บุคลากรโรงพยาบาลและผู้ป่วย ตั้งอยู่ระหว่างอาคารคณะแพทยศาสตร์ 2 กับตัวโรงพยาบาลสุทธาเวช
- อาคารศูนย์บริการทางการแพทย์และศูนย์วิจัยเฉลิมพระเกียรติ หลังที่ 1 เป็นอาคารหลักของโรงพยาบาลสุทธาเวช รองรับผุ้ป่วยได้ 120 เตียง
- อาคารผู้ป่วยนอก 1 หรือตึก OPD รองรับผู้ป่วยได้ 100 เตียง
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads