คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

คิม ซู-ฮย็อน

นักแสดงชายชาวเกาหลีใต้ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

คิม ซู-ฮย็อน
Remove ads

คิม ซู-ฮย็อน (เกาหลี: 김수현; เกิด 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1988) เป็นนักแสดงชาวเกาหลีใต้ ถือเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้รับค่าตัวสูงที่สุดในเกาหลีใต้ใน ค.ศ. 2020[1] เขาปรากฏในรายชื่อ Power Celebrity 40 และ 30 Under 30 Asia ของฟอบส์[2] เขายังได้รับเลือกเป็น นักแสดงโทรทัศน์แห่งปีของ Gallup Korea[3]

ข้อมูลเบื้องต้น คิม ซู-ฮย็อน, สารนิเทศภูมิหลัง ...

เขามีผลงานละครโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงหลายเรื่องเช่น ดรีมไฮ (2011), ลิขิตรักตะวันและจันทรา (2012), ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว (2013), เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน (2020) และ ราชินีแห่งน้ำตา (2024)

ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2025 คิมเผชิญกับข้อกล่าวหาเตรียมเด็กเพื่อทารุณกรรมทางเพศ นำไปสู่การตอบโต้จากสาธารณชนและภาคอุตสาหกรรม

Remove ads

ประวัติช่วงต้นและการศึกษา

คิมเกิดในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1988 ที่เขตคังนัม โซล ประเทศเกาหลีใต้[4] พ่อมีชื่อว่า คิม ชุงฮุน [ko] ที่เป็นนักร้องนำในวงยุค 80 ชื่อ "Seven Dolphins"[5] พ่อแม่แยกทางกันตอนเขายังเด็ก และมองตนเองเป็นบุตรชายคนเดียวที่ได้รับการเลี้ยงดูจากมารดา[6]

แม่ของคิมส่งเสริมให้เขาเข้าเรียนการแสดงในช่วงที่เรียนอยู่ เพื่อช่วยให้เขาเอาชนะบุคลิกภาพที่ขี้อายและเก็บตัวได้[7] ความปรารถนาของเขาที่จะเป็นนักแสดงเริ่มต้นขึ้นระหว่างช่วงมัธยมต้นถึงมัธยมปลาย[8] บทหลักเรื่องแรกในการแสดงคือละครเวที A Midsummer Night's Dream ของเชกสเปียร์ ในบทของ Puck[9] จากนั้นจึงเล่นในบทของ Kenickie ในมิวสิคัล Grease และ ตัวละครชื่อเรื่องในละคร Hamlet[10]

เมื่อ ค.ศ. 2006 คิมจบการศึกษาในระดับประถมถึงมัธยมปลายที่เขตคังนัม โซล และเปิดตัวเป็นนักแสดงโทรทัศน์ใน ค.ศ. 2007 หลังจากการออดิชั่น เขาเข้าศึกษาต่อในสาขาภาพยนตร์และการละคร ที่มหาวิทยาลัยจุงอังเมื่อ ค.ศ. 2009[11]

Remove ads

อาชีพ

สรุป
มุมมอง

2007–2010: อาชีพช่วงต้น

คิมเปิดตัวทางโทรทัศน์ด้วยบทบาทสมทบในซิตคอมครอบครัว ค.ศ. 2007 เรื่อง Kimchi Cheese Smile[12] และใน ค.ศ. 2008 ได้แสดงนำในละครเยาวชนที่ได้รับคำชมเชยอย่างมากของช่อง KBS เรื่อง Jungle Fish[13] ซึ่งอิงจากเรื่องจริงที่จัดการกับปัญหาร้ายแรงของการโกงในโรงเรียน มาตรฐานการแข่งขันกันทางวิชาการ และการบล็อกเชิงโต้ตอบในรูปแบบใหม่[14] ละครนี้ได้รับรางวัลหลายสาขา รวมถึงรางวัลพีบอดีของสหรัฐ[15]

ในช่วงครึ่งหลังของปี คิมปรากฏตัวเป็นหนึ่งในพิธีกรในรายการวาไรตี้เกี่ยวกับอาหารชื่อ Delicious Quiz (มีอีกชื่อว่า The Taste of Life)[16] และภาพยนตร์สั้น Cherry Blossom

ใน ค.ศ. 2009 คิมแสดงในภาพยนตร์สั้นเรื่อง Worst Friends โดย Namkoong Sun ซึ่งได้รับรางวัล Best Film in Social Drama award ที่ Mise-en-scène Short Film Festival[17] และละครพิเศษของ SBS ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีชื่อ Father's House ที่เขาร่วมแสดงกับ Choi Min-soo[18] เขายังเป็นพิธีกรร่วมใน Boys & Girls Music Countdown ของ Mnet ร่วมกับ Han Seung-yeon จาก Kara ใน ค.ศ. 2009[19]

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2010 KeyEast ลงนามสัญญาพิเศษกับคิมซึ่งจะกลายมาเป็นบริษัทบริหารจัดการของเขาเอง[20]

คิมสร้างชื่อเสียงของตัวเองผ่านบทบาทที่น่าจดจำในฐานะตัวละครนำชายแบบเด็กกว่าใน Will It Snow for Christmas?[21] และ Giant[18] เรื่องหลังทำให้เขาชนะรางวัล Best New Actor award ที่ SBS Drama Awards[22]

2011–2013: ความนิยมที่เพิ่มขึ้นและความก้าวหน้า

คิม ซู-ฮย็อนกลายเป็นชื่อที่เป็นที่คุ้นเคยใน ค.ศ. 2011 หลังจากแสดงนำในละครเพลงไฮสกูลเรื่อง ดรีมไฮ เขารับบทเป็นชายบ้านนอกที่กลายเป็นอัจฉริยะด้านดนตรี[23] ละครเรื่องนี้ได้รับเรตติ้งสูงในประเทศ[24] และยังได้รับความนิยมในต่างประเทศอีกด้วย โดยได้รับรางวัลระดับนานาชาติหลายรางวัล[25] ในฐานะที่เป็นนักแสดงหนุ่มเพียงคนเดียวในกลุ่มไอดอล คิมเรียนร้องเพลงและเต้นเป็นเวลาสามเดือนที่ JYP Entertainment เพื่อให้ได้ฉากที่ต้องการในละครเรื่องนี้[26] เขาบันทึกเพลงสองเพลงสำหรับประกอบละครเรื่องนี้ ซึ่งก็คือเพลงเดี่ยวของเขาชื่อ "Dreaming"[27] และเพลงแทร็กชื่อเรื่อง "Dream High" กับนักแสดงที่เหลือ[28]

Thumb
คิม ซู-ฮย็อน รับบทเป็น พระเจ้าอีฮว็อน ในการแถลงข่าวเรื่องลิขิตรักตะวันและจันทรา, มกราคม ค.ศ. 2012

ความนิยมของคิมพุ่งขึ้นสูงตอนที่เขาแสดงในละครย้อนยุคเรื่อง ลิขิตรักตะวันและจันทรา รับบทเป็น พระเจ้าอีฮว็อน[29] เรทตี้งของละครเรื่องนี้สูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 42.2[30] ทำให้ได้รับสถานพ "ละครแห่งชาติ" และส่งออกไปทั่วเอเชีย ทำให้เป็นหนึ่งในรายการส่งออกประเภทละครที่สร้างรายได้มากที่สุด[31] คิมมีส่วนในการร้องเพลงประกอบละครกับบัลลาดดั้งเดิม "Only You"[32] และเพลงแบบสมัยใหม่กว่าชื่อ "Another Way"[33]

เนื่องด้วยความนิยม เขาสร้างสถิติใหม่ในการรับรองผลิตภัณฑ์โดยเป็นพรีเซนตอร์โฆษณาผลิตภัณฑ์ถึง 17 รายการพร้อมกัน[34] เขายังได้รับรางวัลนักแสดงชายดีเด่น (โทรทัศน์) ที่ Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 48[35] เอาชนะนักแสดงรุ่นก่อนอย่าง Han Suk-kyu, Shin Ha-kyun และ Cha Seung-won คิมกล่าวว่า "ผมรู้สึกขอบคุณมากในขณะนี้ แต่ผมละอายใจเช่นกัน รู้สึกเหมือนกับได้รับการบ้านจำนวนมาก ผมจะให้พยายามกลายเป็นนักแสดงที่ดีขึ้น เพื่อที่จะยังคงคุ้มค่าต่อการได้รับรางวัลนี้"[36]

คิมเปิดตัวบนจอเงินในภาพยนตร์ปล้นสุดอลังการเรื่อง 10 ดาวโจรปล้นโคตรเพชร ที่ได้รับการยกย่องจากสื่อมวลชนว่าเป็น คนเหนือเมฆปล้นลอกคราบเมือง เวอร์ชันเกาหลี[37] ด้วยยอดจำหน่ายตั๋วที่กว่า 12.9 ล้านใบ ทำให้ภาพยนตร์นี้เป็นภาพยนตร์ที่สร้างรายได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์เกาหลี[38]

ใน ค.ศ. 2013 คิมได้รับเลือกให้เล่นเป็นสายลับชาวเกาหลีเหนือที่แฝงตัวเข้าไปในเกาหลีใต้โดยทำตัวเป็นคนพิการเป็นใบ้โง่ในหมู่บ้านในภาพยนตร์เรื่อง Secretly, Greatly ที่ดัดแปลงจากซีรีส์เว็บตูนที่มีชื่อเสียงเรื่อง Covertness โดย Hun[39] ภาพยนตร์นี้ทำลายสถิติหลายรายการ และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในบอกซ์ออฟฟิศของปี โดยมีผู้ชมกว่า 7 ล้านคน[40] คิมได้รับรางวัลนักแสดงชายหน้าใหม่ดีเด่น (ภาพยนตร์) ที่ Grand Bell Awards ครั้งที่ 50 และ Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 50[41]

2014–2017: ความนิยมในระดับนานาชาติ

ใน ค.ศ. 2013 ถึงต้น ค.ศ. 2014 คิมแสดงในซีรีย์แนวโรแมนติกแฟนตาซีของ SBS เรื่อง ยัยตัวร้ายกับนายต่างดาว ร่วมกับช็อน จี-ฮย็อน[42] เขายังเผยแพร่ 2 ซิงเกิลของเสียงประกอบเพลงละครที่มีชื่อว่า "In Front of Your House" และ "Promise"[43] ซีรีส์นี้กลายเป็นที่นิยมทั่วเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศจีนที่มียอดผู้เข้าชมถึง 14.5 พันล้านครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 บนแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์ iQIYI และยังสร้างกระแสแฟชั่น, เมคอัพ และภัตตาคารอีกด้วย[44][45]

คิมประสบความสำเร็จด้วยความนิยมที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดทั่วเอเชีย โดยครองอันดับหนึ่งในโพลสำรวจความนิยมต่าง ๆ[46] และกลายเป็นหนึ่งในผู้รับรองที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด โดยมีการรับรองผลิตภัณฑ์ถึง 35 รายการ[47] เขาชนะรางวัล Daesang (หรือ "รางวัลใหญ่") รางวัลสูงสุดสำหรับโทรทัศน์ ในงาน Korea Drama Awards ครั้งที่ 7[48] และนักแสดงชายยอดนิยม (โทรทัศน์) ใน Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 50[49]

Thumb
คิมในงานแถลงข่าวของโปรดิวเซอร์หน้าใส หัวใจกุ๊กกิ๊ก, พฤษภาคม ค.ศ. 2015

ใน ค.ศ. 2017 คิมพักการแสดงเพื่อเข้ารับราชการทหารเป็นเวลา 21 เดือน[50]

2019–ปัจจุบัน: กลับสู่การแสดง

Remove ads

กิจกรรมอื่น

การปรากฏตัวในงาน

Thumb
คิมในพิธีเปิดเอเชียนเกมส์ 2014

ใน ค.ศ. 2014 คิมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬานานาชาติสองแห่ง ในวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ. 2014 คิมร้องเพลง "Light up the Future" ร่วมกับศิลปินหลายคนในพิธีเปิดโอลิมปิกเยาวชนฤดูร้อน 2014 ที่หนานจิง ประเทศจีน[51] เขายังเข้าร่วมพิธีเปิดเอเชียนเกมส์ 2014 ที่อินช็อน ประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับนักแสดง Jang Dong-gun, นักร้องชังกึก Ahn Sook-sun และผู้คนจาก 45 ประเทศ ทั้งหมดได้ส่งมอบข้อความ "One Asia" ในช่วงที่สองของเวทีไฮไลต์[52]

ชีวิตส่วนตัว

ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2015 คิมได้รับรางวัลจากการเป็นแบบอย่างผู้เสียภาษีของกรมสรรพากรในการชำระภาษีทุกวันภาษี[53]

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2015 มีการเปิดเผยว่าคิมมีน้องสาวต่างมารดาเป็นนักร้องชื่อ Kim Ju-na[54]

โบวลิ่ง

ข้อขัดแย้ง

สรุป
มุมมอง

ข้อกล่าวหาเรื่องการชักนำ

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2024 คิมปฏิเสธข่าวลือเรื่องการออกเดทกับนักแสดงหญิง คิม แซ-รน หลังจากมีภาพโคลสอัปของทั้งสองที่เธอโพสต์ลง อินสตาแกรม ชั่วคราวแล้วลบออก ถูกเผยแพร่ออนไลน์ ต้นสังกัดของเขา Gold Medalist ระบุว่าข่าวลือนี้ไม่เป็นความจริง พร้อมอธิบายว่าภาพดังกล่าวถูกถ่ายขึ้นเมื่อทั้งสองอยู่ภายใต้การดูแลของต้นสังกัดเดียวกัน และพวกเขาไม่ทราบเจตนาของเธอในการโพสต์ภาพนี้ นอกจากนี้ ต้นสังกัดยังเตือนเกี่ยวกับการเผยแพร่เนื้อหาที่หมิ่นประมาท[55]

นักแสดงหญิงคิม แซ-รนเสียชีวิตจาก การฆ่าตัวตาย เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2025 ซึ่งเป็นวันเกิดของคิมพอดี[56]

ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2025 คิมถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ การชักนำเยาวชน หรือพฤติกรรมการเข้าหาเด็กเพื่อละเมิดทางเพศ หลังจากครอบครัวของคิม แซ-รนเปิดเผยข้อมูลและรูปถ่ายเพิ่มเติม[56][57][58]

ครอบครัวของคิม แซ-รนอ้างว่าคิมมีความสัมพันธ์กับเธอมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2015 เมื่อเธออายุ 15 ปี และเขาอายุ 27 ปี[59]

ต้นสังกัด Gold Medalist ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมประกาศว่าจะดำเนินมาตรการทางกฎหมายขั้นสูงสุดกับผู้ที่กล่าวหา[60]

ต่อมาในวันที่ 14 มีนาคม ต้นสังกัดได้ออกแถลงการณ์ยอมรับว่าคิมและคิม แซ-รนเคยคบหากันจริง แต่ยืนยันว่าความสัมพันธ์เริ่มต้นในปี ค.ศ. 2019–20 ซึ่งเป็นช่วงที่เธอไม่ใช่ผู้เยาว์อีกต่อไปแล้ว[61]

กระแสตอบรับ

คิมเผชิญกับกระแสต่อต้านอย่างหนักหลังเกิดข้อกล่าวหา หลายฝ่ายเรียกร้องให้ถอดถอนเขาออกจากรายการโทรทัศน์ เช่น Good Day ของช่อง เอ็มบีซี[62]

นอกจากนี้ แบรนด์สินค้าต่างๆ ก็เริ่มถอดโฆษณาที่มีคิมเป็นพรีเซ็นเตอร์ หรือยกเลิกสัญญาจ้าง เช่น CJ Foodville บริษัทอาหารชั้นนำที่เคยร่วมงานกับคิมมายาวนาน ประกาศยุติสัญญาในวันที่ 14 มีนาคม[63]

Prada แบรนด์แฟชั่นหรูจากอิตาลี ออกแถลงการณ์สั้นๆ ว่าได้ตกลงยุติความร่วมมือกับคิมเป็นการถาวร[64]

Remove ads

ผลงานการแสดง

ผลงานที่เลือกไว้

ผลงานเพลง

ข้อมูลเพิ่มเติม ชื่อ, ปี ...
Remove ads

รางวัล

รางวัลที่ได้รับและเข้าชิง

ข้อมูลเพิ่มเติม ปี, รางวัล ...
Remove ads

หมายเหตุ

  1. Sales figure for "Dreaming" as of December 2011[67]
  2. Sales figure for "The One and Only You" as of December 2012[68]
  3. Sales figure for "If I" and "Promise" as of March 2014[69]
  1. Although "Promise" was the part of My Love from the Star's soundtrack, it was not the part of My Love from the Star's soundtrack album.

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads