คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

จัน ดารา (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2544)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Remove ads

จัน ดารา เป็นภาพยนตร์ไทยดัดแปลงจากนิยายเรื่อง เรื่องของจัน ดารา ซึ่งอุษณา เพลิงธรรม เขียนลงพิมพ์เป็นตอน ๆ ในหนังสือพิมพ์ตั้งแต่ปี 2507 ถึงปี 2509[1] มีนนทรีย์ นิมิบุตร กำกับ และไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ออกฉายเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2544 มีเนื้อหาทำนองนาฏกรรมเชิงสังวาส ว่าด้วยความสัมพันธ์ของครอบครัวหนึ่ง ทั้งที่เป็นความรักฉันญาติมิตร ความรักฉันชู้สาว และความเคียดแค้นชิงชัง ชนิดที่ตัวละครแต่ละตัวล้วนเป็นกระจกสะท้อนพฤติกรรมของกันและกัน[2][3]

ข้อมูลเบื้องต้น จัน ดารา, กำกับ ...

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลมากมาย ในจำนวนนั้น ได้แก่รางวัลพระสุรัสวดี สาขานักแสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยมสำหรับวิภาวี เจริญปุระ และรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์

Remove ads

เนื้อเรื่อง

สรุป
มุมมอง

ในต้นพุทธทศวรรษที่ 2460 ดารา พิจิตรวานิช หญิงสาววัยสิบแปดปี เดินทางจากพระนครไปเมืองพิจิตร แต่ถูกจอม คนรักของวาด กับพวกอีกจำนวนหนึ่ง ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราจนตั้งครรภ์ บิดาของดาราจึงว่าจ้างให้หลวงวิสนันทเดชาสมรสกับดาราเพื่อรักษาเกียรติยศของวงศ์ตระกูล โดยยกบ้านและที่ดินให้เป็นการแลกเปลี่ยน

ดาราเสียชีวิตทันทีที่คลอดบุตร หลวงวิสนันทเดชาจึงโทษว่าทารกนั้นเป็นต้นเหตุให้ภริยาถึงแก่ความตาย และตั้งชื่อให้ว่า จัน-จัญไร วิสนันท์ เวลานั้น วาดเดินทางจากพิจิตรมาร่วมพิธีศพดารา และพบว่าจันเป็นที่รังเกียจของบ้านวิสนันท์ ประกอบกับรู้สึกผิดที่คนรักของตนเป็นต้นเหตุให้เกิดเคราะห์กรรมครั้งนี้ วาดจึงยอมเป็นภริยาของหลวงวิสนันทเดชา เพื่อจะได้เลี้ยงดูจันอย่างใกล้ชิดจนตลอดรอดฝั่ง วาดกับหลวงวิสนันทเดชานั้นมักสมสู่กันแม้อยู่ต่อหน้าจัน จันจึงชิงชังหลวงวิสนันทเดชาที่ได้เป็นเจ้าของวาด เพราะเขาก็ใจปฏิพัทธ์วาดผู้เป็นน้าอยู่เช่นกัน ฝ่ายหลวงวิสนันทเดชากับวาดนั้นมีบุตรด้วยกันหนึ่งคน คือ วิไลเรข วิสนันท์ หรือแก้ว ซึ่งหลวงวิสนันทเดชารักประดุจแก้วตาดวงใจ

แต่หลวงวิสนันทเดชานั้นเป็นเสือผู้หญิง ในระหว่างที่วาดตั้งครรภ์วิไรเลขอยู่ หลวงวิสนันทเดชาจึงเริ่มสนองกามคุณของตน โดยร่วมประเวณีกับสตรีมากหน้าหลายตาเป็นนิตย์ แม้ว่าอยู่ต่อหน้ารูปดารา ภริยาผู้ล่วงลับ ก็ตาม ทว่า เมื่อเห็นรูปภริยาคราใดก็ให้นึกโกรธจันขึ้นมาเรื่อยไป หลวงวิสนันทเดชาจึงมักกระทำทารุณต่อจันและไม่เอาใจใส่เลี้ยงดูจัน ทั้งยังอบรมสั่งสอนให้แก้วจงเกลียดจงชังจันด้วย เป็นเหตุให้จันเกิดความสงสัยว่า ชะรอยหลวงวิสนันทเดชาจะมิใช่บิดาที่แท้จริงของตน

ต่อมา บุญเลื่อง หญิงสาวผู้มักมากในกามารมณ์และเป็นภริยาเก่าของหลวงวิสนันทเดชา ย้ายกลับเข้ามาอาศัยในบ้านวิสนันท์ และหญิงผู้นี้เองที่สอนให้จันได้รู้เพศรสเป็นครั้งแรก ในเวลานั้น จันยังได้พบไฮซินธ์ หญิงสาววัยสิบหกปี บ่อยครั้ง ณ โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษภาคค่ำในพระนคร และจันหลงรักเธอจนหมดหัวใจ ไฮซินธ์จึงเป็นผู้สอนให้จันได้รู้สึกถึงความรักอันบริสุทธิ์เป็นครั้งแรก

วันหนึ่ง แก้วซึ่งรักอยู่กับเคน กระทิงทอง บุตรของคนรับใช้ในบ้าน กำลังจะร่วมประเวณีกัน จันมาพบเข้าและสำคัญว่าเคนล่วงละเมิดแก้วอยู่ จึงเข้าไปช่วยเหลือ ประจวบกับที่บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านได้ยินเสียงร้องและติดตามมาพบเข้า แก้วซึ่งรังเกียจจันอยู่แล้วจึงฟ้องว่า จันล่อลวงตนมากระทำทางเพศ เคนจึงเข้ามาช่วยเหลือ หลวงวิสนันทเดชาฟังแล้วก็โกรธเป็นอันมาก และขับไล่จันออกจากบ้านวิสนันท์ จันจึงไปอาศัยอยู่ที่บ้านญาติข้างมารดา ณ เมืองพิจิตร และได้ทราบความจริงเกี่ยวกับกำเนิดของตนว่า ดารา มารดานั้น ถูกรุมโทรม โดยที่จอม ผู้ชำเราคนแรก ถูกพวกพ้องสังหารตายทันทีหลังจากได้ชำเราดารา ส่วนพวกพ้องที่เหลือหลังจากได้ข่มขืนกระทำชำเราดาราแล้ว ก็ถูกเจ้าพนักงานตำรวจติดตามมาวิสามัญฆาตกรรมจนสิ้นเช่นกัน จึงไม่อาจทราบได้แน่ชัดว่า แท้จริงแล้วบิดาของจันเป็นผู้ใด จันจึงให้รู้สึกว่า ชีวิตตนช่างมืดมนนัก และครุ่นคำนึงถึงแต่ไฮซินธ์

ไม่กี่ปีให้หลัง คุณขจรสมจรกับแก้วผู้เป็นน้องสาว และแก้วตั้งครรภ์ เพื่อธำรงเกียรติยศของวงศ์ตระกูล หลวงวิสนันท์เดชาจึงสั่งให้วาดไปเรียกจันกลับพระนคร แล้วเสนอให้จันรับเป็นบิดาของบุตรในครรภ์แก้วแทนตน จันตกลงโดยมีเงื่อนไขว่า หลวงวิสนันทเดชาต้องโอนบ้านและที่ดินให้แก่ตน ทั้งนี้ เพื่อชำระความแค้นเคืองที่ตนมีต่อหลวงวิสนันทเดชามาตั้งแต่เยาว์วัย หลวงวิสนันทเดชารับคำอย่างเสียมิได้ เมื่อสมประสงค์แล้ว จันก็รุดไปหาไฮซินธ์ แต่พบว่าไฮซินธ์จากโลกนี้ไปแล้วเพราะไข้รากสาดน้อย ขณะที่วาดเมื่อเห็นว่าเรื่องราวทั้งหลายคลี่คลายลงด้วยดีแล้วก็ลาไปบวชเป็นนางชีอยู่ที่เมืองนครสวรรค์โดยไม่สึกอีก

เวลานั้นเอง แก้วให้กำเนิดบุตรชายหนึ่งคน แต่เพราะทารกนั้นเกิดจากการร่วมประเวณีในหมู่ญาติ จึงมีภาวะโง่เขลาเบาปัญญาอย่างที่สมัยใหม่เรียกว่า ปัญญาอ่อน และจันตั้งชื่อให้ทารกนั้นว่า ปรีย์-อัปรีย์ วิสนันท์ แก้วเสียใจ และเริ่มมีความสัมพันธ์ทางเพศกับบุญเลื่อง เมื่อจันทราบเข้า ก็ข่มขู่ให้เธอมีบุตรกับเขา แต่แก้วมิยินยอม เพราะใจยังจงเกลียดจงชังจัน จันจึงข่มขืนกระทำชำเราเธอกระทั่งเธอตั้งครรภ์ อย่างไรก็ดี แก้วไม่ต้องการให้กำเนิดบุตรของจัน จึงให้บุญเลื่องช่วยทำให้ตนตกเลือดจนแท้ง

เมื่อสภาพการณ์ในบ้านเป็นเช่นนี้ จันจึงใฝ่หาความสุขทางกามคุณแต่ถ่ายเดียว โดยร่วมประเวณีกับสาวใช้ แม้กระทั่งเบื้องหน้ารูปดารา มารดาผู้วายชนม์ของตน ทำนองเดียวกับที่หลวงวิสนันทเดชาได้กระทำมาแล้วทั้งสิ้น อยู่มาวันหนึ่ง หลวงวิสนันทเดชามาพบเห็นจันกับบุญเลื่องกำลังสมสู่กัน ก็ให้รู้สึกเจ็บช้ำไปทั้งกายใจถึงกับล้มลงและเป็นอัมพาต จันจึงเริ่มตั้งคำถามแก่ตนเองว่า เป็นไฉนตนถึงไม่สามารถหลุดพ้นจากวัฏจักรตัณหาราคะทำนองเดียวกับที่หลวงวิสนันทเดชาก่อขึ้น ที่สุดแล้ว เรื่องก็ให้คำตอบว่า เพราะจันเป็นหน่อเนื้อของดาราผู้ถูกรุมโทรมนั่นเอง

Remove ads

ตัวละคร

สรุป
มุมมอง

ตัวละครหลัก

ข้อมูลเพิ่มเติม ชื่อ, ผู้แสดง ...

ตัวละครรับเชิญ

Remove ads

การเผยแพร่

จัน ดารา เริ่มฉายเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2544 ในงานฉายรอบปฐมทัศน์ มีผู้คนมาร่วมมากมาย และนนทรีย์ นิมิบุตร กล่าวเปิดงาน ความตอนหนึ่งว่า "ภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้เน้นไปด้านเซ็กส์ แต่จะเน้นไปที่การให้ข้อคิดเกี่ยวกับผลจากกามารมณ์มากกว่า"[5]

รางวัล

จัน ดารา ได้รับรางวัลมากมาย ได้แก่[6]

ข้อมูลเพิ่มเติม งานประกาศผลรางวัล, สาขารางวัล ...
Remove ads

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads