คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ดิสเลิฟ (เพลงมารูนไฟฟ์)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
"ดิสเลิฟ" (อังกฤษ: This Love) เป็นเพลงของวงดนตรีแนวป็อปร็อกอเมริกัน มารูนไฟฟ์ เขียนโดยนักร้องนำ แอดัม เลอวีน และมือคีย์บอร์ด เจสซี คาร์ไมเคิล จากอัลบั้มเปิดตัว ซองส์อะเบาต์เจน (ค.ศ. 2002) เพลงบรรเลงนำด้วยเปียโน ตามด้วยเครื่องตีสังเคราะห์ในทันที และตามด้วยเสียงกีตาร์วนซ้ำไปมา
เนื้อเพลงพูดถึงการเลิกรากับแฟนเก่าของเลอวีน เขาเผยว่าเพลงถูกเขียน "ในเวลาที่ใช้เวลากับอารมณ์มากที่สุด" ในชีวิต (most emotionally trying time)[1] เขาเล่าว่าในเนื้อเพลงมีความหมกมุ่นในกามารมณ์ (erotic) อย่างที่สุด[2] "ดิสเลิฟ" ได้รับการยกย่องอย่างมาก โดยนักวิจารณ์สังเกตจากดนตรี เพลงออกจำหน่ายวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2004 เป็นซิงเกิลที่สองของอัลบั้ม ซองส์อะเบาต์เจน
เพลงขึ้นถึงสิบอันดับแรกในหลายชาร์ต ติดอันดับหนึ่งในชาร์ตย่อยของบิลบอร์ดมากมาย เช่นบนชาร์ตฮอตอะดัลต์ท็อป 40 แทร็กส์ มิวสิกวิดีโอมีข้อถกเถียงในเรื่องฉากลึกซึ้งระหว่างเขากับแฟนสาวในขณะนั้น "ดิสเลิฟ" ทำให้มารูนไฟฟ์ชนะรางวัลเอ็มทีวีมิวสิกอะวอร์ด สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม แลพเป็นเพลงที่ถูกเปิดมากที่สุดอันดับสามในปี ค.ศ. 2004 เพลงยังได้รางวัลแกรมมี สาขา การขับร้องยอดเยี่ยมโดยศิลปินคู่หรือกลุ่มที่มีนักร้อง ในปี ค.ศ. 2006 และเป็นหนึ่งในเพลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดของมารูนไฟฟ์จนถึงปัจจุบัน[3]
Remove ads
เบื้องหลัง
"ดิสเลิฟ" เป็นซิงเกิลที่สองจากอัลบั้ม ซองส์อะเบาต์เจน ของมารูนไฟฟ์ จากบทสัมภาษณ์กับเอ็มทีวีนิวส์ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2002 นักร้องนำ แอดัม เลอวีน เผยว่าเขาเขียนเพลงนี้ในวันที่คนรักสาวของเขาแยกทางไปเมื่อเขาเลิกรากัน[4] ในอีกบทสัมภาษณ์หนึ่ง เลอวีนเผยว่าเพลงเขียนขึ้น "ในเวลาที่ใช้เวลากับอารมณ์มากที่สุด" (most emotionally trying time) ในชีวิต เขายังเสริมว่า "ผมกำลังประสบความสัมพันธ์ที่กำลังจะจบลง แต่จริง ๆ แล้วผมรู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน เพราะวงของผมกำลังจะทำเพลง และผมก็ดีใจมากที่จะได้ไปที่สตูดิโออัดเสียง เธอได้ออกจากเมืองไปจริง ๆ ภายในช่วงวันที่ผมกำลังเขียนเนื้อร้องเพลง ดิสเลิฟ ดังนั้นผมจึงอยู่ในสภาวะทางอารมณ์ที่จะเขียนเพลงจากปัญหาเหล่านั้นได้"[1]
Remove ads
ดนตรีและเนื้อเพลง
สรุป
มุมมอง
ระหว่างการทำเพลง "ดิสเลิฟ" วงกล่าวว่าเพลงมีอิทธิพลจากนักดนตรี สตีวี วันเดอร์[5][6] ท่อนหลายท่อนเขียนในคีย์ C ฮาร์มอนิกไมเนอร์ และท่อนคอรัสเขียนด้วยคีย์ Eb เมเจอร์ จังหวะดนตรีเป็นอัตราจังหวะ 4 4 (common time) และเร็ว 95 จังหวะต่อนาที[7] การเริ่มเพลง "ดิสเลิฟ" เริ่มด้วยความเด่นของเปียโน[8] มารูนไฟฟ์เรียก "ดิสเลิฟ" ว่าเป็นเพลงป็อปร็อกโดยพื้นฐาน[9] โดยดนตรีที่มีมากกว่าเพลงทั่วไปคือ มีเสียงบิดกีตาร์แบบร็อกอยู่หลายครั้ง[5] และถือว่าเป็นเพลงป็อปร็อก[10]ที่เต็มไปด้วยอารมณ์[3] ตามคำกล่าวของจอห์นนี ลอฟตัส จากเว็บไซต์ออลมิวสิก ดนตรีในเพลงมี "การเลียนแบบจังหวะอาร์แอนด์บีย้อนยุคได้อย่างลื่นไหล ไปสู่เพลงป็อปที่ทรงพลัง"[11] ลอฟตัสรู้สึกว่าเพลงนำเสนอ "เสียงดัดของเลอวีนคลอกับเสียงเปียโนที่หนักหน่วงกับเครื่องตีในช่วงท้ายเพลง (ทั้งดนตรีสดและดนตรีสังเคราะห์) ที่เล่นหนุนกัน กล่าวคือมีทั้งท่อนร้องประสานเสียงสูง และเสียงเครื่องสังเคราะห์ที่สนุกสนาน และฟลุต ได้อย่างลงตัว"[11] ลอฟตัสยังเสริมว่า เนื้อเพลงมี "เรื่องเพศ" ในท่อนที่ร้องว่า "I tried my best to feed her appetite / To keep her coming every night / So hard to keep her satisfied."[11] สตีฟ มอร์ส จากหนังสือพิมพ์เดอะบอสตันโกลบ บรรยายเสียงของเพลงว่าเป็น "นิทานชวนโยกแต่ดูดดื่มเกี่ยวกับการเลิกรา"[12] เมแกน บาร์ด จากหนังสือพิมพ์ เดอะเดลีแคมปัส เสริมว่า เพลงมี "เสียงร้องแบบสตีวี วันเดอร์ และจังหวะอาร์แอนด์บีที่ฟังออกเป็นฟังก์"[6] ในเพลงฉบับขยาย ยาว 4 นาที 26 วินาที สามารถได้ยินท่อนคอรัสของซิงเกิลต่อไป "ชีวิลบีเลิฟด์" ตั้งแต่นาทีที่ 3:21 ถึง 3:42 ในระหว่างท่อนจบเพลง[13]
ในบทสัมภาษณ์กับนิตยสารโรลลิงสโตน เมื่อถามเกี่ยวกับเนื้อเพลงที่ร้องว่า "Keep her coming every night" และ "Sinking my fingertips into every inch of you" เลอวีนกล่าวว่า "ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องเพศแน่นอน ผมเบื่อกับเนื้อเพลงธรรมดาที่ว่า 'Ooh, baby' และ 'I love you' และอะไร ๆ กำกวมแบบนี้ ผมคิดว่ายิ่งผมทำให้ชัดเจนโดยไม่ได้ต้องชัดเจนที่สุดนั้นเป็นวิธีการที่ใช้ได้แล้ว สาวน้อยทั้งหลายจะชอบมัน และมันคงจะไม่เข้าหูของปู่ย่าตายายผมเลย แต่กับแฟนเก่าของผมแล้ว มันเหมือนเอาอิฐหนักหนึ่งตันทุบเข้าที่ศีรษะของเธอ มันสมบูรณ์แบบดี"[2] เขายังให้ความเห็นกับการที่เอ็มทีวีเล่นและแก้เพลงให้เข้ากับมิวสิกวิดีโอ โดยใส่ตัดคำว่า coming ออกจากท่อนที่ว่า "keep her coming every night" ด้วย[5] เลอวีนกล่าวว่า "ตอนนี้เอ็มทีวีเพิ่งแก้ไขภาษาไป พวกเขาไม่ให้ผมพูด 'keep her coming every night' และนำคำว่า sinking ออกจาก 'sinking my fingertips' มันเหมือนกับจีนคอมมิวนิสต์เลย มันพิลึกสิ้นดี"[2]
Remove ads
การตอบรับ
สรุป
มุมมอง
เพลงได้รับคำยกย่องจากนักวิจารณ์เพลง ในบทวิจารณ์อัลบั้มจากนิตยสารโรลลิงสโตน คริสเตียน ฮอร์ด เขียนว่า "ความเคลิบเคลิ้มโรแมนติกแบบในเมือง ของแอดัม เลอวีน ใช้ได้ผลเมื่อวงของเขาเริ่มทำเพลงขึ้นมาจริง ๆ เสียที อย่างเพลง 'ดิสเลิฟ' ที่ใช้เปียโนและกีตาร์แบบเจมส์ บราวน์สร้างฐานซึ่งเลอวีนสามารถครอบงำความงาม (รวมถึงตัวเขา) ได้"[14] เจสัน ทอมสัน จากป็อปแมตเทอส์ ออกความเห็นว่า ในเพลง "ดิสเลิฟ" และ "มัสต์เก็ตเอาต์" เจสซี คาร์ไมเคิล มือคีย์บอร์ด "ทำให้นึกถึงงานของบริตนีย์ สเปียส์ และเดอะนิวแรดิคัลส์ ตามลำดับ"[15] แซม เบเรสกี จากหนังสือพิมพ์เดลีโลโบ ซึ่งดูจะกระตือรือร้นเรื่องอัลบั้มน้อยกว่าคนอื่น ยกย่องวงต่อเพลง "ดิสเลิฟ" ว่า "'ดิสเลิฟ' เป็นเพลงแรกที่ชวนนึกย้อนไปที่ดนตรีแบบแบ็กบีต (backbeat) อย่างเพลง "ซูเปอร์สติชัน" ของสตีวี วันเดอร์ มันอาจชวนให้เต้นแท็ป โยกศีรษะ หรือแม้กระทั่งส่ายก้น ถ้าเล่นเสียงดัง ๆ"[16]
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2004 นักดนตรี จอห์น เมเยอร์ กล่าวกับนิตยสารโรลลิงสโตนว่า เขาชอบอัลบั้มซองส์อะเบาต์เจน เมเยอร์ยังมีทัศนคติที่ดีต่อเพลงดังกล่าว "เมื่อผมได้ฟังเพลง 'ดิสเลิฟ' มันเป็นดั่งสถานการณ์ที่จุดชนวนระเบิดแล้วถอยออกมา มันเป็นเพลงที่สมบูรณ์แบบเพลงหนึ่งที่คุณอยากจะเขียนขึ้น"[5] ซิงเกิลนี้ยังเพิ่มเสน่ห์ให้วงมารูนไฟฟ์ และช่วยให้วงเป็นหนึ่งในวงดนตรีแจ้งเกิดใน ค.ศ. 2004[3] เพลงยังถูกทำใหม่โดยคานเย เวสต์ ตั้งชื่อว่า "ดิสเลิฟ (รีมิกซ์โดยคานเย เวสต์)" เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2004[17] วงได้ออกอีพีชื่อ 1.22.03.อะคูสติก ซึ่งมีเพลง "ดิสเลิฟ" ในฉบับอะคูสติก[18] เพลงยังถูกบรรจุในวิดีโอเกม กีตาร์ฮีโร: ออนทัวร์ ใน ค.ศ. 2008 ด้วย[19]
บนชาร์ตเพลง
ซิงเกิลออกอากาศในวิทยุในอเมริกาเหนือในเดือนมกราคม ค.ศ. 2004 แม้ว่ามิวสิกวิดีโอจะออกใน 6 เดือนถัดมา[20] "ดิสเลิฟ" ขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ขึ้นถึงอันดับที่ 5[21] เพลงฉบับรีมิกซ์โดยจูเนียร์ แวสเคซ ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอตแดนซ์มิวสิก/คลับเพลย์[22] เพลงยังขึ้นชาร์ตฮอตแดนซ์แอร์เพลย์ที่อันดับ 18 ด้วย[23] "ดิสเลิฟ" ขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดท็อป 40 เมนสตรีม[11] เพลงยังขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอตอะดัลต์ท็อป 40 แทร็กส์[11][22] และค้างอยู่ตรงนั้นนาน 10 สัปดาห์ เพลงมียอดดาวน์โหลดสูงสุดใน ค.ศ. 2004 ใน ค.ศ. 2007 เพลงกลับเข้าชาร์ตบิลบอร์ดฮอตดิจิตอลซองส์ที่อันดับ 36[23] นับถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 เพลงขายได้ 2,120,000 ชุดในสหรัฐอเมริกา[24]
"ดิสเลิฟ" ขึ้นสิบอันดับแรกใน 12 ประเทศ ในสหราชอาณาจักร เพลงขึ้นอันดับ 3 ในชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2004[25][26] เพลงขึ้นสิบอันดับแรกในฝรั่งเศส เบลเยียม และออสเตรเลีย[27][28] ขึ้นถึงห้าอันดับแรกในนอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย และนิวซีแลนด์[27] นอกจากนี้ "ดิสเลิฟ" ยังเข้าชาร์ตในชาร์ตเพลงของประเทศอิตาลี สวิส เยอรมนี และไอร์แลนด์ด้วย[28]
Remove ads
มิวสิกวิดีโอ
มิวสิกวิดีโอเพลง "ดิสเลิฟ" กำกับโดยโซฟี มุลเลอร์ วิดีโอรวมฉากร้องเพลงจากวงในสวนที่สร้างขึ้นในสตูดิโอแม็ก เซ็นเน็ต และฉากแอดัม เลอวีนแยกทางกับผู้หญิงคนหนึ่ง[1] เลอวีนกล่าวว่า แนวคิดของมิวสิกวิดีโอยึดแบบจากศิลปินพรินซ์ "เรื่องเพศสัมพันธ์ทำให้คนสับสนเช่นกัน วิดีโอตัวนั้นเป็นอะไรที่ป็อปสตาร์มาก ๆ"[29]
มิวสิกวิดีโอเพลง "ดิสเลิฟ" มีเลอวีน กับเคลลี แม็กคี คนรักของเขาขณะนั้น ร่วมแสดงในฉากดูดดื่มหลายฉาก วิดีโอมีมุมกล้องที่สร้างสรรค์ โดยเลี่ยงการตรวจสอบจากคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (Federal Communications Commission)[30] จากนั้นจึงเกิดวิดีโอฉบับที่ปกปิดฉากดังกล่าวด้วยกลุ่มดอกไม้ที่สร้างจากคอมพิวเตอร์เผยแพร่สู่ตลาดที่อนุรักษ์นิยมมากขึ้น[31] เมื่อมีคนถามเลอวีนเกี่ยวกับวิดีโอ เลอวีนตอบว่า "มันไม่แปลกนัก และไม่เกี่ยวกับเพศอย่างน่าประหลาดใจ มันดูสะดวกสบายดี ผมไม่ได้เต็มไปด้วยราคะหรืออะไร ซึ่งมันแปลกเพราะผมถ่ายทำร่วมกับแฟนของผม"[32]
วิดีโอเป็นที่ถกเถียงจนทำให้นักวิจารณ์ออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้[32] ซิลเวีย แพตเทอร์สัน จากหนังสือพิมพ์เดอะเดลีเทเลกราฟ บรรยายถึงวิดีโอว่า "วิดีโดป็อปโป๊" (porno-pop video)[29] เมื่อไมเคิล แมดเดน มือเบส ได้มีโอกาสออกความเห็นต่อข้อถกเถียงนี้ เขากล่าวว่ามันเป็น "ปฏิกิริยาเกินเหตุที่ไร้สาระ" (an absurd over-reaction)[33]
Remove ads
การแสดงสดและการนำมาทำใหม่
มารูนไฟฟ์แสดงเพลง "ดิสเลิฟ" สดในรายการแซตเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์ ("SNL")[34] เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 วงชนะรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอร์ด สาขา ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากมิวสิกวิดีโอเพลง "ดิสเลิฟ" ใน ค.ศ. 2004[35][36] ในปีเดียวกันนั้น เพลงได้เข้าชิงรางวัลชอยส์ร็อกแทร็ก ในงานประกาศรางวัลทีนชอยส์อะวอดส์[37] จากระบบนีลเซน บีดีเอส "ดิสเลิฟ" ถูกเปิดมากเป็นอันดับที่สามใน ค.ศ. 2004 ทั้งหมด 438,589 ครั้ง[38] ในงานประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 48 เพลงชนะรางวัลแกรมมีสาขาขับร้องป็อปยอดเยี่ยมโดยศิลปินคู่หรือกลุ่มที่มีนักร้องนำ[39][40]
เพลงดังกล่าวปรากฏเป็นแทร็กในวิดีโอเกม กีตาร์ฮีโร: ออนทัวร์ สำหรับเครื่องนินเทนโด ดีเอส รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาดาวน์โหลดเสริมสำหรับเกมกีตาร์ฮีโร 5 (ร่วมกับเกม แบนด์ฮีโร เนื่องจากใช้แคตาล็อกเดียวกัน)
Remove ads
รายชื่อแทร็ก
ชาร์ตเพลงและการรับรอง
สรุป
มุมมอง
Remove ads
เพลงในรูปแบบอื่น ๆ
- เพลงฉบับรีมิกซ์ผลิตโดยคานเย เวสต์ และมิรี เบนอารี ขับร้องโดยจอห์น เลเจนด์
- นักร้องชาวเกาหลีใต้ จี-ดรากอน ซื้อลิขสิทธิ์เพลง นำมาเขียนเนื้อเพลงใหม่ แล้วนำไปร้องในภาษาเกาหลี มิวสิกวิดีโอออกอากาศวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ทางช่องวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ในยูทูบ[84]
- ใน ค.ศ. 2013 นักร้องชาวอเมริกัน มาร์โลว์ โรซาโด นำเพลงมาร้องใหม่ในแนวซัลซา และออกเป็นซิงเกิล[85] ขึ้นอันดับ 36 ในชาร์ตบิลบอร์ดทรอปิคัลซองส์[86]
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads