คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

พรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2550)

พรรคการเมืองไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

พรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2550)
Remove ads

พรรคชาติพัฒนา (อังกฤษ: Chart Pattana Party) หรือในชื่อเดิมว่า รวมใจไทยชาติพัฒนา[2] รวมชาติพัฒนา ชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และ ชาติพัฒนากล้า เป็นพรรคการเมืองก่อตั้งปี พ.ศ. 2550 โดยส่วนใหญ่เป็นสมาชิกจากพรรคการเมืองที่เคยมีอยู่แล้ว อาทิ กลุ่มของสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นต้น จัดตั้งเป็นพรรคการเมืองโดยรวมกลุ่มรวมใจไทยเข้ากับพรรคชาติพัฒนา และในปี พ.ศ. 2565 กรณ์ จาติกวณิช ได้นำสมาชิกส่วนหนึ่งจากพรรคกล้า เข้ามาสมัครสมาชิกพรรคชาติพัฒนา และกรณ์ก็ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และการประชุมใหญ่ในปี พ.ศ. 2567 พรรคชาติพัฒนากล้าได้กลับมาใช้ชื่อเดิมคือ พรรคชาติพัฒนา

ข้อมูลเบื้องต้น พรรคชาติพัฒนา, ประธาน ...
Remove ads

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

รวมใจไทยชาติพัฒนา เป็นพรรคการเมืองที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2550 โดยสมาชิกส่วนใหญ่ อาทิ กลุ่มของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นต้น จัดตั้งเป็นพรรคการเมืองโดยรวมกลุ่มรวมใจไทยเข้ากับพรรคชาติพัฒนา มีบุคคลสำคัญทางการเมืองหลายคนเข้าร่วม เช่น ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์, ดร.พิจิตต รัตตกุล, ศ.ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์, อุทัย พิมพ์ใจชน, สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นต้น

ในการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1/2550 วันที่ 15 ตุลาคม 2550 เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่ประชุมได้มีมติให้ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค มี นายเกษมสันต์ วีระกุล เป็นรองหัวหน้าพรรค และมีนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นเลขาธิการพรรค[3]

ต่อมาในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 พลเอก เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สัดส่วน และสมาชิกพรรค หลังจากที่ได้เลือก พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขัดกับมติของพรรคที่ให้เลือกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยเจ้าตัวยอมรับว่ารู้สึกไม่สบายใจ ที่มีความเห็นต่างจากพรรค แต่เห็นว่าบ้านเมืองขณะนี้แบ่งเป็น 2 ฝ่าย จึงอยากให้คนกลางเข้ามาบริหารประเทศ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก และเชื่อว่ารัฐบาลคงจะบริหารงานลำบาก แต่ก็ขอให้ ส.ส. ทำหน้าที่โดยยึดหลักของกฎหมาย[4][5] จากนั้นในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ในการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 3/2551 ที่ประชุมมีมติเลือก นายแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ [6]

ในการประชุมใหญ่สามัญของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ประจำปี 2553 เมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2553 พรรครวมใจไทยชาติพัฒนาได้เปลี่ยนชื่อพรรคเป็น "รวมชาติพัฒนา" พร้อมกับเปลี่ยนสัญลักษณ์พรรคใหม่ด้วยเป็นรูปรูปหัวช้างจรดปลายงวงช้าง ที่เป็นสัญลักษณ์คู่บ้านเมือง ประกอบขึ้นด้วยแถบสีธงไตรรงค์ ปลายงวงบรรจบด้วยรูปวงกลมสีทอง หมายถึงสุวรรณภูมิอันเป็นศูนย์รวมของชาติไทย[7]

ในการประชุมใหญ่ของพรรคชาติพัฒนากล้า ในปี พ.ศ. 2567 เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 พรรคชาติพัฒนากล้าได้เปลี่ยนชื่อเป็น ชาติพัฒนา แบบเดิม และกลับมาใช้โลโก้แบบเดิม

Remove ads

การสมัครรับเลือกตั้ง

สรุป
มุมมอง

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2550

ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (ในขณะนั้น) ได้รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 9 คน และได้ร่วมกับพรรคพลังประชาชนในการจัดตั้งรัฐบาลถึง 2 ครั้ง คือ รัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยมี วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

ต่อมาในในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 พรรครวมชาติพัฒนา ได้ร่วมสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคฯ ยังได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในตำแหน่งเดิมอีกด้วย

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2554

ในการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรครวมชาติพัฒนา ครั้งที่ 1/2554 เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554 พรรครวมชาติพัฒนา และพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ประกาศรวมตัวกันโดยใช้ชื่อพรรคใหม่ว่า "พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน"[8]โดยหลังจากมีการยุบสภาแล้ว สมาชิกของพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมชาติพัฒนา และดำเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยหลังจากนั้นอีก 3 วันคือในวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554 นายประดิษฐ์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคทำให้พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค ต่อมาอีก 1 อาทิตย์คือในวันที่ 19 เมษายนนาย เกษมสันต์ วีระกุล ได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคทำให้พ้นจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค[9]หลังจากนั้นได้มีการลาออกของกรรมการบริหารพรรคจำนวนมากทำให้เหลือกรรมการบริหารพรรคเพียง 2 คนจึงต้องพ้นจากตำแหน่ง[10]

ต่อมาในการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2/2554 เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554 ได้มีการเปลี่ยนชื่อพรรคอีกครั้งเป็น พรรคชาติพัฒนา พร้อมกับการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือก นายแพทย์วรรณรัตน์ ให้ดำรงตำแหน่งต่อไปส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคที่ประชุมมีมติเลือก ร้อยตรี ประพาส ลิมปะพันธุ์ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคนใหม่และย้ายที่ทำการพรรคมายังที่ทำการพรรคแห่งใหม่ที่ 357 ถนนสุโขทัย แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต [11]

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2557

พรรคชาติพัฒนา ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 ซึ่งกำหนดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 โดยมีพลเอก ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้สมัครบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ได้หมายเลขประจำพรรคคือ หมายเลข 1 แต่การเลือกตั้งในครั้งนี้ได้ถูกประกาศให้เป็นโมฆะ

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2562

ในการประชุมใหญ่สามัญพรรคชาติพัฒนาเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2561 ที่ประชุมมีมติให้เปลี่ยนแปลงข้อบังพรรคฉบับใหม่พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์พรรค[12] จากนั้นในการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แทนชุดเก่าจำนวน 27 คนซึ่งที่ประชุมมีมติเลือกนาย เทวัญ ลิปตพัลลภ และนาย ดล เหตระกูล ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคนใหม่[13]

ใน การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 พรรคชาติพัฒนาได้ที่นั่งในสภาทั้งสิ้น 3 ที่นั่งแบ่งเป็นบัญชีรายชื่อ 2 คนคือ นายเทวัญซึ่งได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายดล และแบบแบ่งเขต 1 คนคือนาย วัชรพล โตมรศักดิ์ ต่อมาทางพรรคได้ ส.ส. เพิ่มอีก 1 คนคือ นาย สมัคร ป้องวงศ์ ส.ส. สมุทรสาคร ซึ่งย้ายมาจาก พรรคอนาคตใหม่

ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2563 นายเทวัญได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคในเวลาต่อมา จากนั้นทางพรรคได้จัดการประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่แทนชุดเก่าที่พ้นจากตำแหน่งจำนวน 29 คนเมื่อวันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือกนายเทวัญให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไปส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคได้มีการเลือกนาย วัชรพล โตมรศักดิ์ ให้ดำรงตำแหน่งแทนนายดลที่ขยับขึ้นไปดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคพร้อมกับแก้ไขข้อบังคับพรรคโดยได้มีการเปลี่ยนแปลงที่ทำการพรรคจากที่เดิมไปอยู่ที่ 2222/2 ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา[14][15]

ในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีครั้งที่ 1/2565 ของพรรคชาติพัฒนาเมื่อวันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565 ที่ประชุมมีฉันทามติให้ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคให้ดำรงตำแหน่งประธานพรรค ขณะเดียวกัน พลเอกฐิติวัจน์ กำลังเอก ก็ได้ขอลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคเนื่องจากปัญหาสุขภาพ[16][17]

ต่อมาในการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปีครั้งที่ 2/2565 เมื่อวันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2565 ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่ประชุมมีมติเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค และชื่อพรรคเป็น พรรคชาติพัฒนากล้า[18] พร้อมกันนี้ยังได้มีมติเลือกนาย กรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคกล้าให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค[19] กระทั่งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมของปีเดียวกัน ได้มีมติเลือก กรณ์ จาติกวณิช เป็นหัวหน้าพรรค และเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นเลขาธิการพรรค[20] ปัจจุบันทางพรรคได้ใช้อาคารเลขที่ 86/12 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคกล้ามาใช้เป็นที่อยู่เพื่อติดต่อ

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2566

พรรคชาติพัฒนากล้าได้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสองรายได้แก่ ประสาท ตันประเสริฐและ นายแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล

ต่อมาในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 กรณ์ จาติกวณิช ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าทางเฟสบุ๊คของเขา[21][22] โดยทางพรรคชาติพัฒนากล้ามีกำหนดจัดประชุมใหญ่ในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566 เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่[23] จากนั้นในวันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม 2566 พรรคชาติพัฒนากล้าได้จัดการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2/2566 ที่โรงแรมเซ็นทาราโคราช เพื่อรายงานผลการเลือกตั้งทั่วไป รวมถึงเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือกนายเทวัญ ลิปตพัลลภ รักษาการเลขาธิการพรรค, อดีตหัวหน้าพรรคและอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นของนายประสาท ตันประเสริฐ ส.ส. นครสวรรค์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เป็นประธานพรรค ส่วนนายกรณ์อดีตหัวหน้าพรรคยังคงเป็นสมาชิกพรรค[24] จากนั้นในวันที่ 11 ตุลาคม 2566 นายอรรถวิชช์ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคโดยให้เหตุผลว่าเพื่อแก้ไขปัญหาเครดิตบูโรและผลักดันร่างกฎหมายเครดิตบูโรฉบับประชาชน[25] แต่ยังคงเป็นสมาชิกพรรค

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 วุฒิพงศ์ ทองเหลา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งถูกขับออกจากพรรคก้าวไกลกรณีคุกคามทางเพศ ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า[26] และในวันเดียวกัน นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรค ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า[27]

ในวันที่ 25 เมษายน 2567 พรรคชาติพัฒนากล้าได้จัดประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคที่ว่างลง 2 ตำแหน่ง ซึ่งที่ประชุมมีมติเลือก นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา ส.ส. ปราจีนบุรี และนายอรัญ พันธุมจินดา อดีตรองเลขาธิการพรรค เป็นรองหัวหน้าพรรค พร้อมกับการแก้ไขข้อบังคับพรรคเปลี่ยนแปลงชื่อพรรคกลับมาเป็น พรรคชาติพัฒนา รวมถึงเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์พรรค[28]

Remove ads

บุคลากร

หัวหน้าพรรค

ลำดับรูปภาพรายนามเริ่มวาระสิ้นสุดวาระ
1Thumbอานุภาพ นันทพันธุ์3 ตุลาคม พ.ศ. 255014 ตุลาคม พ.ศ. 2550
2Thumbเชษฐา ฐานะจาโร15 ตุลาคม พ.ศ. 255015 ธันวาคม พ.ศ. 2551
3Thumbวรรณรัตน์ ชาญนุกูล26 ธันวาคม พ.ศ. 255121 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
4
(1)
Thumbเทวัญ ลิปตพัลลภ21 พฤศจิกายน พ.ศ. 256116 ตุลาคม พ.ศ. 2565
5Thumbกรณ์ จาติกวณิช21 ตุลาคม พ.ศ. 256525 มิถุนายน พ.ศ. 2566
-Thumbวัชรพล โตมรศักดิ์
(รักษาการ)
25 มิถุนายน พ.ศ. 256621 สิงหาคม พ.ศ. 2566
4
(2)
Thumbเทวัญ ลิปตพัลลภ21 สิงหาคม พ.ศ. 2566ปัจจุบัน

เลขาธิการพรรค

ลำดับรูปรายนามเริ่มวาระสิ้นสุดวาระ
1Thumbวรรณรัตน์ ชาญนุกูล3 ตุลาคม พ.ศ. 255015 ตุลาคม พ.ศ. 2550
2Thumbประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์15 ตุลาคม พ.ศ. 255012 เมษายน พ.ศ. 2554
3Thumbร้อยตรี ประพาส ลิมปะพันธุ์18 กันยายน พ.ศ. 255430 ตุลาคม พ.ศ. 2555
4Thumbประเสริฐ บุญชัยสุข15 พฤศจิกายน พ.ศ. 255521 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
5Thumbดล เหตระกูล21 พฤศจิกายน พ.ศ. 256115 สิงหาคม พ.ศ. 2563
6Thumbวัชรพล โตมรศักดิ์15 สิงหาคม พ.ศ. 256316 ตุลาคม พ.ศ. 2565
7Thumbเทวัญ ลิปตพัลลภ16 ตุลาคม พ.ศ. 256521 สิงหาคม พ.ศ. 2566
8Thumbประสาท ตันประเสริฐ21 สิงหาคม พ.ศ. 2566ปัจจุบัน

การเลือกตั้ง

ผลการเลือกตั้งทั่วไป

ข้อมูลเพิ่มเติม การเลือกตั้ง, จำนวนที่นั่ง ...

ผลการเลือกตั้งท้องถิ่น

ข้อมูลเพิ่มเติม พื้นที่, การเลือกตั้ง ...
Remove ads

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads