คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

รายพระนามพระมหากษัตริย์สกอตแลนด์

บทความรายชื่อวิกิมีเดีย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

รายพระนามพระมหากษัตริย์สกอตแลนด์
Remove ads

พระมหากษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐแห่งราชอาณาจักรสกอตแลนด์ ตามธรรมเนียม พระมหากษัตริย์แห่งชาวสกอตพระองค์แรกคือ สมเด็จพระเจ้าเคนเนธ แม็คอัลปินที่ 1 (ซีเนียด แม็คอัลปิน) ผู้ทรงสถาปนารัฐเอกราชขึ้นในปีพ.ศ. 1386 ความแตกต่างระหว่างราชอาณาจักรสกอตแลนด์และราชอาณาจักรของชาวพิคท์เป็นผลผลิตมาจากความเชื่อในสมัยกลางยุคหลัง และความสับสนในความเปลี่ยนแปลงทางการเรียกชื่อ เช่น Rex Pictorum (พระมหากษัตริย์แห่งชาวพิคท์) ได้กลายเป็น ri Alban (พระมหากษัตริย์แห่งอัลบา) ภายใต้สมเด็จพระเจ้าโดนัลด์ที่ 2 เมื่อการบันทึกทางประวัติศาสตร์สลับจากภาษาละตินมาเป็นภาษาท้องถิ่นในรอบช่วงสิ้นสุดคริสต์ศตวรรษที่ 9 ซึ่งเมื่อคราวคำว่า อัลบา ในภาษาแกลิคสก็อต ได้มาถึงราชอาณาจักรของชาวพิคท์มากกว่าบริเตนใหญ่ (ความหมายเก่า)[1]

ข้อมูลเบื้องต้น พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรสกอตแลนด์, ปฐมกษัตริย์ ...

ราชอาณาจักรของชาวพิคท์เพิ่งกลายเป็นถูกเรียกว่า ราชอาณาจักรอัลบาในภาษาแกลิค ที่ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักในภาษาสกอตและภาษาอังกฤษว่า Scotland (สกอตแลนด์) คำนี้ยังคงอยู่ในภาษาทั้งสองจนกระทั่งทุกวันนี้ ด้วยช่วงยุคหลังคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในที่ช่วงหลังสุด พระมหากษัตริย์สกอตได้ใช้คำว่า rex Scottorum หรือ พระมหากษัตริย์แห่งชาวสกอต เพื่ออ้างอิงในภาษาละติน พระอิสริยยศ "พระมหากษัตริย์แห่งชาวสกอต" ได้สิ้นสุดในปี พ.ศ. 2250 เมื่อราชอาณาจักรสกอตแลนด์ถูกรวมเข้ากับราชอาณาจักรอังกฤษกลายเป็นราชอาณาจักรบริเตนใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ดังนั้นสมเด็จพระราชินีนาถแอนน์จึงทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชอาณาจักรสกอตแลนด์และอังกฤษและทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชอาณาจักรบริเตนใหญ่ ถึงแม้ว่าราชอาณาจักรทั้งสองจะมีพระมหากษัตริย์ร่วมกันตั้งแต่ พ.ศ. 2146 (ดูที่การรวมราชบัลลังก์) พระปิตุลาของพระนางคือ สมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 2 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายที่ทรงได้ประกอบพิธีราชาภิเษกในสกอตแลนด์ที่เมืองสโคนในปี พ.ศ. 2194

Remove ads

ตราแผ่นดิน

ราชวงศ์อัลปิน (พ.ศ. 1388 - พ.ศ. 1577)

สรุป
มุมมอง

รัชกาลของสมเด็จพระเจ้าเคนเนธ แม็คอัลปินได้เริ่มต้นขึ้นและเป็นถูกเรียกว่าราชวงศ์อัลปินตามแนวคิดโลกสมัยใหม่ สายพระราชสันตติวงศ์ของสมเด็จพระเจ้าเคนเนธ แม็คอัลปินได้ถูกแบ่งออกเป็นสองสาย พระมหามงกุฎจะถูกสลับกันระหว่างสายทั้งสอง การเสด็จสวรรคตของพระมหากษัตริย์ของสายหนึ่งๆมักจะผลุนผลันจากสงครามหรือถูกลอบปลงพระชนม์โดยผู้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ สมเด็จพระเจ้ามัลคอล์มที่ 2 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์อัลปิน ในรัชกาลของพระองค์ พระองค์ประสบความสำเร็จในการสู้รบกับฝ่ายต่อต้านและไม่ทรงมีพระราชโอรส แต่ก็ทรงสามารถผ่านราชบัลลังก์ไปยังพระราชโอรสของเจ้าหญิงบีท็อค ผู้เป็นพระราชธิดา ให้ขึ้นครองราชย์เป็น สมเด็จพระเจ้าดันแคนที่ 1 ที่ทรงประกาศเริ่มต้นราชวงศ์ดันคีลด์

ข้อมูลเพิ่มเติม พระปรมาภิไธย, พระราชสมภพ ...

* หลักฐานในรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าโอเชียดไม่เป็นที่แน่ชัด พระองค์อาจจะไม่เคยดำรงเป็นพระมหากษัตริย์จริงๆ ถ้าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ พระองค์จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ร่วมกับสมเด็จพระเจ้ากีริค ส่วนสมเด็จพระเจ้าอัมลีปทรงเป็นที่รู้จักโดยเฉพาะในการอ้างถึงการเสด็จสวรรคตของพระองค์ในปีพ.ศ. 1520 ที่ซึ่งมีการบันทึกว่าพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งอัลบา (ก่อนที่จะเรียกว่าสกอตแลนด์) นับตั้งแต่สมเด็จพระเจ้าเคนเนธที่ 2 ทรงเป็นที่รู้จักกันว่ายังคงเป็นพระมหากษัตริย์ในปีพ.ศ. 1515 ถึงพ.ศ. 1516 สมเด็จพระเจ้าอัมลีปต้องได้รับพระราชอำนาจในระหว่างปีพ.ศ. 1516 ถึงพ.ศ. 1520

สมเด็จพระเจ้าโอเชียดทรงเป็นพระโอรสใน รุน กษัตริย์แห่งสตรัทไคลเดอ แต่พระราชมารดาของพระองค์เป็นพระราชธิดาในสมเด็จพระเจ้าเคนเนธที่ 1

Remove ads

ราชวงศ์ดันคีลด์ (พ.ศ. 1577 - พ.ศ. 1829)

สรุป
มุมมอง

สมเด็จพระเจ้าดันแคนที่ 1 ทรงสืบราชบัลลังก์ต่อจากสมเด็จพระเจ้ามัลคอล์มที่ 2 ผู้เป็นพระอัยกาฝ่ายพระราชมารดา (พระองค์ยังทรงเป็นรัชทายาทที่สืบสายสัตติวงศ์มาจากสมเด็จพระเจ้ามัลคอล์มที่ 1 ในฐานะที่ทรงเป็นพระอัยกาฝ่ายพระราชบิดาของพระองค์คือ ดันแคนแห่งอโทลล์ซึ่งเป็นพระราชโอรสพระองค์ที่สามในสมเด็จพระเจ้ามัลคอล์มที่ 1[15] ราชวงศ์ดันคีลด์มีความสืบเนื่องมาจากราชวงศ์อัลปิน) หลังจากภายในรัชกาลที่ไม่ประสบความสำเร็จ สมเด็จพระเจ้าดันแคนทรงถูกปลงพระชนม์ในสนามรบโดยสมเด็จพระเจ้าแม็คเบ็ธ ผู้ทรงครองราชย์อย่างยาวนานและค่อนข้างประสบความสำเร็จ ในช่วงการต่อสู้ระหว่าง พ.ศ. 1600 และ พ.ศ. 1601 พระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าดันแคนที่ 1 คือ สมเด็จพระเจ้ามัลคอล์มที่ 3 ได้กำจัดและปลงพระชนม์สมเด็จพระเจ้าแม็คเบ็ธและพระราชโอรสเลี้ยงซึ่งเป็นองค์รัชทายาทของพระเจ้าเม็คเบ็ธคือ สมเด็จพระเจ้าลูลาช และทรงทำการอ้างสิทธิในราชบัลลังก์ ความขัดแย้งของพระราชวงศ์ยังไม่จบสิ้น สมเด็จพระเจ้ามัลคอล์มที่ 3 เสด็จสวรรคตในสมรภูมิ เจ้าชายโดนัลด์ แบน พระอนุชาของพระองค์ได้อ้างสิทธิในราชบัลลังก์ในฐานะ สมเด็จพระเจ้าโดนัลด์ที่ 3 ทรงขับไล่พระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้ามัลคอล์มที่ 3 ออกไปจากสกอตแลนด์ สงครามกลางเมืองในพระราชวงศ์ได้เกิดขึ้น ด้วยสมเด็จพระเจ้าโดนัลด์ที่ 3 และเจ้าชายเอ็ดมันด์ พระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้ามัลคอล์มที่ 3 ถูกต่อต้านโดยพระโอรสชาวอังกฤษของสมเด็จพระเจ้ามัลคอล์มที่ 3 นำโดยเจ้าชายดันแคน ซึ่งตั้งตนเป็น สมเด็จพระเจ้าดันแคนที่ 2 และต่อมาคือเจ้าชายเอ็ดการ์ ซึ่งตั้งตนเป็น สมเด็จพระเจ้าเอ็ดการ์ ในที่สุดพระเจ้าเอ็ดการ์ทรงได้รับชัยชนะ พระองค์ได้ส่งพระปิตุลาและพระเชษฐาไปยังสำนักสงฆ์ หลังจากรัชกาลของสมเด็จพระเจ้าเดวิดที่ 1 ราชบัลลังก์สกอตแลนด์ได้เปลี่ยนผ่านไปตามกฏของบุตรหัวปี ย้ายจากบิดาถึงโอรสหรือที่เป็นไปไม่ได้จากเชษฐาสู่อนุชา

ข้อมูลเพิ่มเติม พระปรมาภิไธย, พระราชสมภพ ...
Remove ads

ราชวงศ์สแวร์ (พ.ศ. 1829 - พ.ศ. 1833)

ข้อมูลเพิ่มเติม พระปรมาภิไธย, พระราชสมภพ ...
Remove ads

ราชวงศ์เบลเลียล

ข้อมูลเพิ่มเติม พระปรมาภิไธย, พระราชสมภพ ...
Remove ads

ราชวงศ์บรูซ (1306–1371)

สรุป
มุมมอง
ข้อมูลเพิ่มเติม พระปรมาภิไธย, พระราชสมภพ ...

การอ้างสิทธิเป็นที่ถกเถียง

ราชวงศ์เบลเลียล (1332–1356)

ข้อมูลเพิ่มเติม พระนาม, พระรูป ...
Remove ads

ราชวงศ์สทิวเวิร์ต (1371–1651)

สรุป
มุมมอง

โรเบิร์ตแห่งสทิวเวิร์ตเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระเจ้าโรเบิร์ตที่ 1 ผ่านทางพระราชธิดาคือเจ้าหญิงมาจอรี ประสูติ ค.ศ. 1316, พระองค์มีพระชนม์มากกว่าสมเด็จพระเจ้าเดวิดที่ 2 พระมาตุลาของพระองค์ ดังนั้น, พระองค์จึงเสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว ขณะนั้นมีพระชนม์ 55 พรรษาทำให้ไม่ทรงสามารถทำให้ราชบัลลังก์เข้มแข็งได้ ปัญหาดังกล่าวยังเกิดขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าโรเบิร์ตที่ 3 พระราชโอรสแห่งพระองค์ ซึ่งครองราชย์ขณะมีพระชนมายุ 53 พรรษาในค.ศ. 1390 และทรงทุกข์ทรมานในวาระสุดท้ายจากพระอาการบาดเจ็บในอุบัติเหตุขณะทรงม้า ทั้ง 2 พระองค์จึงตามด้วยคณะผู้สำเร็จราชการเนื่องมาจากการทรงพระเยาว์ของพระมหากษัตริย์ที่ทรงรับราชสมบัติต่อ ๆ มารวม 5 พระองค์ ดังนั้น สมัยราชวงศ์สทิวเวิร์ตจึงถูกมองว่าเป็นสมัยที่เฉื่อยชา ในระหว่างที่ขุนนางแย่งชิงอำนาจจากพระมหากษัตริย์ตามด้วยช่วงเวลาแห่งการปกครองโดยกษัตริย์ ในระหว่างพระองค์พยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่สร้างขึ้นโดยชนกลุ่มน้อยของตัวเองและผลกระทบระยะยาวของการปกครองในรัชกาลก่อน การปกครองสก็อตแลนด์เริ่มยุ่งยากยิ่งขึ้น ในขณะที่ขุนนางมีอำนาจจนเริ่มคุมยากขึ้นเรื่อย ๆ ความพยายามในสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ที่จะหยุดยั้งความวุ่นวายในสิ้นสุดลงในการที่พระองค์ถูกปลงพระชนม์ สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 3 สวรรคตในสงครามกลาเมืองกับพวกขุนนาง นำโดนพระราชโอรสพระองค์เดียวของพระองค์ สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 4 ผู้ปกครองอย่างเข้มงวดและปราบปรามพวกขุนนาง สวรรคตในยุทธการที่ฟลอตเดน พระชายา พระนางมาการ์เร็ต ทิวดอร์ ได้รับการแต่งตั้งให้สำเร็จราชการแทนพระราชโอรสที่ยังทรงพระเยาว์ สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 5 ผู้ถูกปลดโดยกลุ่มขุนนางที่เคียดแค้น และพระชายาในพระองค์แมรี่แห่งกิส, รับช่วงในการปกครองสก็อตแลนด์โดยสำเร็จราชการแทนพระราชธิดา สมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 เท่านั้น โดยการแบ่งและเอาชนะกลุ่มขุนนาง โดยการแจกจ่ายสินบนฝรั่งเศสด้วยข้างเสรีนิยม ในที่สุดสมเด็จพระราชินีนาถแมรี่ที่ 1 พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 5 พบว่าพระนางไม่สามารถปกครองสกอตแลนด์ด้วยต้องเผชิญกับความเหนือชั้นของชนชั้นสูงและความดื้อรั้นของประชากร, ผู้นับถือนิกายคัลแวง และไม่ชื่นชอบนิกายคาทอลิกที่พระนางนับถือ พระนางถูกบังคับให้สละราชสมบัติและลี้ภัยไปอังกฤษ ตลอด 18 ปีทรงถูกคุมขังในที่ต่าง ๆ และถูกประหารชีวิตที่สุด ด้วยการต่อต้านสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ หลังการสละราชสมบัติ พระราชโอรสในพระนางกับ เฮนรี สจวต ลอร์ดดาร์นลีย์ พระอนุวงศ์ในราชวงศ์สทิวเวิร์ต ครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 6

พระเจ้าเจมส์ที่ 6 เสด็จขึ้นครองราชสมบัติอังกฤษและไอร์แลนด์ในพระนามสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ในค.ศ. 1603, เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 พระญาติสวรรคต นับแต่นั้น, แม้ว่ามงกุฎทั้ง 2 ของอังกฤษและสก็อตแลนด์จะถือว่าถูกรวมกัน พระราชบัลลังก์ยังมีรากฐานสำคัญอยู่ที่อังกฤษ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 พระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 6 ทำให้พระองค์ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกลางเมือง เป็นเห็นให้เกิดความขัดแย้งยาวนานถึง 8 ปีและจบโดยการสำเร็จโทษพระองค์ จากนั้นรัฐสภาอังกฤษได้กำหนดให้สถาบันกษัตริย์สิ้นสุดลง รัฐสภาสก็อตแลนด์หลังจากใคร่ครวญได้ปฏิเสธความผูกพันกับอังกฤษและประกาศว่า และประกาศสถาปนาพระราชโอรสและรัชทายาทในสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 เป็นสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ขึ้นครองราชย์ จนกระทั่ง ค.ศ.1651 เมื่อกองทัพของโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ผนวกสก็อตแลนด์และขับไล่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ออกไป

ข้อมูลเพิ่มเติม พระนาม, พระรูป ...
Remove ads

ราชวงศ์สทิวเวิร์ต (ฟื้นฟู) (ค.ศ. 1660-1707)

สรุป
มุมมอง

หลังจากการฟื้นฟูราชวงศ์อังกฤษราชวงศ์สทิวเวิร์ตก็ได้กลับมาเป็นพระมหากษัตริย์แห่งสกอตแลนด์อีกครั้งหนึ่ง แต่สิทธิของสกอตแลนด์ไม่เป็นที่นับถือเมื่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ทรงยุบรัฐสภาแห่งสกอตแลนด์และแต่งตั้งพระอนุชาเจมส์ ดยุคแห่งยอร์คขึ้นไปเป็นข้าหลวงแห่งสกอตแลนด์ ต่อมาเจมส์ ดยุคแห่งยอร์คก็ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษในปี ค.ศ. 1685 แต่ความเป็นโรมันคาทอลิกของพระองค์ไม่เป็นที่ยอมรับกันในอังกฤษและพระองค์ทรงถูกโค่นราชบัลลังก์สามปีต่อมา เมื่อรัฐบาลอังกฤษอัญเชิญพระราชธิดาของพระองค์สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 2 และพระสวามีวิลเลิมที่ 3 แห่งออเรนจ์จากเนเธอร์แลนด์มาครองราชย์แทน หลังจากนั้นทั้งสองพระองค์ก็ได้เป็นพระมหากษัตริย์คู่แห่งสกอตแลนด์ในพระนามสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 2 และสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 2 แห่งสกอตแลนด์

เมื่อความพยายามในการแสวงหาอาณานิคมของสกอตแลนด์ภายใต้แผนการแดเรียน (Darien Scheme) ในการโต้ตอบความพยายามของอังกฤษ ประสบความล้มเหลวและทิ้งสกอตแลนด์ให้อยู่ในฐานะล้มละลาย ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่สมเด็จพระราชินีนาถแอนน์พระราชธิดาองค์ที่สองของสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 7 (เจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ) ขึ้นครองราชย์ สมเด็จพระราชินีนาถแอนน์มีพระราชโอรสธิดาหลายพระองค์แต่ก็ไม่มีผู้ใดที่มีพระชนมายุยืนกว่าพระองค์ ถ้าเสด็จสวรรคตผู้ที่ใกล้ราชบัลลังก์ที่สุดก็คือเจมส์ ฟรานซิส เอ็ดเวิร์ด สจวตพระอนุชาต่างพระมารดาผู้เป็นโรมันคาทอลิกผู้ลี้ภัยอยู่ในฝรั่งเศสก็จะได้ขึ้นครองราชสมบัติต่อจากพระองค์ รัฐสภาแห่งอังกฤษจึงหันไปสนับสนุนเจ้าหญิงโซเฟียแห่งฮาโนเวอร์ผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ ทางพระราชธิดาเจ้าหญิงอลิซาเบ็ธ สทิวเวิร์ตให้เป็นรัชทายาท แต่รัฐสภาแห่งสกอตแลนด์สนับสนุนเจ้าชายเจมส์ และขู่อังกฤษว่าจะเพิกถอนตัวจากสหภาพเพื่อจะได้เลือกประมุขของตนเอง เพื่อที่จะรักษาความเป็นสหภาพอังกฤษก็วางแผนรวมสองอาณาจักรเข้าด้วยกันอย่างเป็นทางการเป็นราชอาณาจักรแห่งเกรตบริเตนโดยมีพระมหากษัตริย์ร่วมกันเพียงองค์เดียว ในที่สุดทั้งสองรัฐสภาก็อนุมัติข้อตกลง (ฝ่ายสกอตแลนด์จำยอมเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจจากความพยายามในการแสวงหาอาณานิคมที่ประสบความล้มเหลว) หลังจากนั้นพระมหากษัตริย์ก็เป็นพระมหากษัตริย์ของสหราชอาณาจักร

ข้อมูลเพิ่มเติม ภาพ, พระนาม ...

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1707 หลังจากสกอตแลนด์รวมกับอังกฤษเป็นบริเตนใหญ่ บรรดาศักดิ์ พระมหากษัตริย์แห่งชาวสกอต และ พระมหากษัตรีย์แห่งชาวสกอต ก็กลายเป็นบรรดาศักดิ์ที่ไม่ถูกต้อง ฉะนั้นพระมหากษัตริย์ของสกอตแลนด์หลังจากนั้นจึงรวมอยู่ในรายพระนามพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ

Remove ads

อ้างอิง

ดูเพิ่ม

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads