คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

พระราชพิธีสมมงคล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Remove ads

พระราชพิธีสมมงคล ("สมมงคล" อ่านว่า สะ-มะ-มง-คน[1]) เป็นพระราชพิธีที่พระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงราชย์ในขณะนั้น ๆ จะทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน ถวายแด่พระมหากษัตริย์หรือสมเด็จพระบรมราชบูรพการีในอดีต เพื่อทรงน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์และแสดงความกตัญญูกตเวที เนื่องในโอกาสที่ทรงมีวาระเสมอด้วยพระมหากษัตริย์หรือสมเด็จพระบรมราชบูรพการีพระองค์นั้น ๆ โดยมักทรงปฏิบัติเนื่องใน 2 วาระ ดังนี้[2]

  • วันที่ทรงครองราชสมบัติเสมอกับพระมหากษัตริย์ในอดีต เรียกว่า "สมภาคา" เช่น พระราชพิธีสมภาคาภิเษก หรือหากทรงครองราชสมบัติเป็นระยะเวลา 2 เท่าของพระมหากษัตริย์พระองค์ใด จะเรียกว่า "ทวิภาคา" เช่น พระราชพิธีทวีธาภิเษก หรือหากทรงครองราชสมบัติเท่าพระมหากษัตริย์ที่ทรงครองราชสมบัติยาวนานที่สุด จะเรียกว่า พระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก
  • วันที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาเสมอกัน และวันที่ทรงเจริญพระชนมพรรษามากกว่าพระมหากษัตริย์ในอดีต หรือสมเด็จพระบรมราชบูรพการีของพระองค์

แนวปฏิบัติเกี่ยวกับพระราชพิธีนี้ปรากฏมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จนถึงปัจจุบัน ในที่นี้จะระบุเฉพาะพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุ พระราชพิธีสมภาคาภิเษก พระราชพิธีทวีธาภิเษก และพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษกในพระมหากษัตริย์เท่านั้น ดังนี้

ข้อมูลเพิ่มเติม รัชสมัย, วาระ ...
Remove ads

พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พ.ศ. 2568

สรุป
มุมมอง
ข้อมูลเบื้องต้น พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พุทธศักราช ๒๕๖๘, วันที่ ...

พระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พ.ศ. 2568 (อังกฤษ: The Auspicious Occasion of His Majesty King Vajiralongkorn Attaining the Same Age as His Majesty King Buddha Yodfa Chulalok the Great (Rama I)) เป็นชื่องานเฉลิมพระเกียรติที่ประกอบด้วยพระราชพิธีสมมงคล รัฐพิธี กิจกรรม และโครงการเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ 26,469 วัน เป็นวาระสมมงคลเท่าพระชนมายุของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของราชวงศ์จักรี ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568 โดยเป็นพระราชพิธีสมมงคลครั้งแรกในรัชกาลที่ 10 และเป็นพระราชพิธีสมมงคลที่จัดขึ้นครั้งแรกในรอบ 25 ปี หลังจากครั้งหลังสุดจัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2543 ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเจริญพระชนมายุสมมงคลเท่าพระชนมายุของรัชกาลที่ 1 เช่นกัน ร่วมกันจัดขึ้นโดยรัฐบาลของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และประชาชนชาวไทย

พระราชพิธี (วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2568)

เวลา 17.04 น. พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังหมู่พระมหามณเฑียร ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568

เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง เสด็จเข้าท้องพระโรงพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 1 ทรงกราบ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีสมมงคลฯ แด่พระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์จำนวน 5 รูป ต่อจากนั้น เสด็จเข้าห้องพระบรรทม พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะเทวดารักษาพระมหาเศวตฉัตร และถวายราชสักการะพระแท่นราชบรรจถรณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระสยามเทวาธิราช

จากนั้นเสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารคู่พระบรมอัฐิรัชกาลที่ 1, พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 และพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่หน้าพระที่นั่งบุษบกมาลา จากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิรัชกาลที่ 1 ที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารอง และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีสมมงคลฯ แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร), สมเด็จพระราชาคณะ, พระราชาคณะเจ้าคณะรอง, พระราชาคณะ และพระสงฆ์ถวายพระธรรมเทศนา จนครบ 74 รูป เสร็จแล้ว พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปปักที่จงกลธรรมาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร สำหรับพระบรมอัฐิทรงธรรม ทรงศีล

พระราชญาณวัชรชิโนภาส (ทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ) ประธานสำนักศึกษาธรรมดอยธรรมนาวา ถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนา เรื่อง ติรตนกถา จบแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ ทรงทอดผ้าไตร เที่ยวแรก 19 ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์พระบรมอัฐิ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา ต่อจากนั้น ทรงทอดผ้าไตรจนครบ 60 รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบพระพุทธรูปประจำพระชนมวารคู่พระบรมอัฐิรัชกาลที่ 1, พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9, พระพุทธรูปประจำพระชนมวารรัชกาลที่ 9 และทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิรัชกาลที่ 1 ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ[7]

รัฐพิธี

โดยรัฐพิธีที่รัฐบาลจัดขึ้นในวาระดังกล่าว ประกอบด้วย พิธีทําบุญตักบาตรและเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีมหามงคลของทั้ง 5 ศาสนา[6] และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ดังนี้[8]

นอกจากนี้ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารยังมีแผนจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขึ้นในพื้นที่ของวัดในโอกาสดังกล่าวอีกด้วย[9]

สิ่งที่ระลึก

เหรียญกษาปณ์และเหรียญที่ระลึก

Remove ads

อ้างอิง

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads