คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2013

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Remove ads

ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2013 เป็นนัดชิงชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2012–13 และเป็นครั้งที่ 58 ของการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรในทวีปยุโรปโดยยูฟ่า และเป็นฤดูกาลที่ 21 ตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อ จากยูโรเปียนแชมเปียนคลับ เป็นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก โดยการแข่งขันนัดนี้ จะมีขึ้นที่สนามกีฬาเวมบลีย์ ชานกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 ซึ่งสนามนี้เป็นสนามเหย้าของทีมชาติอังกฤษ

ข้อมูลเบื้องต้น รายการ, โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ ...

ในฐานะทีมชนะเลิศ, บาเยิร์นมิวนิกจะต้องไปพบกับเชลซี ในยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2013 และจะเป็นทีมของยูฟ่า เข้าแข่งขันในรอบรองชนะเลิศของ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2013

Remove ads

สถานที่แข่งขัน

สรุป
มุมมอง

สนามเวมบลีย์ หรือ สนามกีฬาเวมบลีย์ ถูกยืนยันให้เป็นสนามแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554 โดยเคยจัดการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ 2011 (พ.ศ. 2554) มาแล้ว โดยเวมบลีย์จะสร้างประวัติศาสตร์โดยการเป็นสนามแรกี่ได้จัดการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ 2 ครั้งภายในเวลา 3 ปี[7] ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาที่สั้นที่สุดในการจัดการแข่งขัน 2 ครั้ง โดยมิเชล พลาตินี่ ประธานยูฟ่า จัดให้มีการแข่งขันที่สนามนี้ เพื่อฉลอง 150 ปีของ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ[8] และจะเป็นครั้งที่ 7 ที่จะจัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปที่เวมบลีย์ นับตั้งแต่ 1963, 1968, 1971, 1978, 1992 และ 2011

โดยสนามกีฬาเวมบลีย์ ก่อนที่จะมีการปรับปรุงสร้างใหม่ ได้จัดการแข่งขัน 5 ครั้ง โดยปี 1968 และ 1978 เป็นทีมจากประเทศอังกฤษ ที่แข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งปี 1968 เป็น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่สามารถเอาชนะ ไบฟีกา 4–1 และต่อมาในปี 1978 ลิเวอร์พูล ก็ชนะ คลับบรูจ 1–0 ต่อมาในปี 1971 อาแจ็กซ์ ก็ทำสำเร็จในการคว้าแชมป์ติดต่อกัน 3 ครั้งที่เวบลีย์ ซึ่งเอาชนะ พานาธีไนกอส 2–0 ในปี 1992 บาร์เซโลนา ชนะ ซัมป์โดเรีย 1–0 โดยเป็นฤดูกาลสุดท้ายก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นแชมเปียนส์ลีก

เมื่อมีการเปิดงาน บริติชเอ็มไพร์เอ็กซ์ฮิบีชัน ในปี ค.ศ. 1923 สนามนี้จึงรู้จักกันในชื่อ เอ็มไพร์สเตเดียม โดยปีนั้นมีการจัดการแข่งขัน รอบชิงชนะเลิศของเอฟเอคัพ โดยมีผู้ชมประมาณ 120,000 คน ระหว่างโบลตันวันเดอเรอส์ กับ เวสต์แฮมยูไนเต็ด และต่อมาก็ได้เป็นสนามเหย้าของ ทีมชาติอังกฤษ ใน ฟุตบอลโลก 1966 รวมถึงรอบชิงชนะเลิศที่อังกฤษได้ชนะ เยอรมนี 4–2 และ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1996 ต่อมาสนามถูกปิดในปี ค.ศ. 2000 และถูกสร้างใหม่ใน 3 ปีต่อมา โดยมีความจุประมาณ 90,000 ที่นั่ง และเปิดครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2007[9] และสนามใหม่แห่งนี้ได้ถูกจัดการแข่งขัน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบชิงนะเลิศ 2011 โดย บาร์เซโลนา พบกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นรีแมตซ์ของการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศใน 2 ปีก่อนหน้านี้ โดยเป็นบาร์เซโลนาที่คว้าแชมป์สมัยที่ 4 ด้วยการชนะ 3–1

Remove ads

การแข่งขัน

สรุป
มุมมอง

รายละเอียด

ข้อมูลเพิ่มเติม โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์, 1–2 ...
ผู้ชม: 86,298 คน
ผู้ตัดสิน: นิโกลา ริซโซลี (อิตาลี)
โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์
บาเยิร์นมิวนิก
GK1ประเทศเยอรมนี โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ (c)
RB26ประเทศโปแลนด์ วูกัช ปิชต์แชก
CB4ประเทศเซอร์เบีย เนเวน ซูบอติช
CB15ประเทศเยอรมนี มัทส์ ฮุมเมิลส์
LB29ประเทศเยอรมนี มาร์เซล ชเมลเซอร์
DM8ประเทศเยอรมนี อิลคาย กุนโดแกน
DM6ประเทศเยอรมนี ซเฟิน เบนเดอร์Substituted off in the 90+1 นาที 90+1'
RW16ประเทศโปแลนด์ ยากุป บวัชต์ชือกอฟสกีSubstituted off in the 90+1 นาที 90+1'
AM11ประเทศเยอรมนี มาร์โค รอยส์
LW19ประเทศเยอรมนี เควิน กรอสส์ครอยซ์โดนใบเหลือง ใน 73 นาที 73'
FW9ประเทศโปแลนด์ โรเบิร์ต เลวันดอฟสกี
ตัวสำรอง:
GK20ประเทศออสเตรเลีย มิตเชล แลนเกอร์รัค
DF27ประเทศบราซิล เฟลิเป ซานตานา
MF21ประเทศเยอรมนี โอลิเวอร์ เคิร์ช
MF5ประเทศเยอรมนี เซบัสเทียน เคห์ล
MF7ประเทศเยอรมนี โมริทซ์ ไลท์เนอร์
MF18ประเทศตุรกี นูรี ชาฮินSubstituted on in the 90+1 minute 90+1'
FW23ประเทศเยอรมนี จูเลียน ซีเบอร์Substituted on in the 90+1 minute 90+1'
ผู้จัดการทีม:
ประเทศเยอรมนี เยือร์เกิน คลอพพ์
Thumb
GK1ประเทศเยอรมนี มานูเอล นอยเออร์
RB21ประเทศเยอรมนี ฟิลิปป์ ลาห์ม (c)
CB17ประเทศเยอรมนี เชโรม โบอาเทง
CB4ประเทศบราซิล ดังชีโดนใบเหลือง ใน 29 นาที 29'
LB27ประเทศออสเตรีย ดาวิด อลาบา
DM31ประเทศเยอรมนี บัสเตียน ชไวน์ชไตเกอร์
DM8ประเทศสเปน คาบี มาร์ตีเนซ
RW10ประเทศเนเธอร์แลนด์ อาร์เยิน โรบเบิน
AM25ประเทศเยอรมนี โทมัส มึลเลอร์
LW7ประเทศฝรั่งเศส ฟร็องก์ รีเบรีโดนใบเหลือง ใน 73 นาที 73'Substituted off in the 90+1 นาที 90+1'
CF9ประเทศโครเอเชีย มารีออ มันจูคิชSubstituted off in the 90+4 นาที 90+4'
ตัวสำรอง:
GK22ประเทศเยอรมนี ทอม สตาร์ค
DF5ประเทศเบลเยียม ดาเนียล ฟาน บุยเต็น
MF11ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แจร์ดัน ชาชีรี
MF30ประเทศบราซิล ลูอิส กุสตาวูSubstituted on in the 90+1 minute 90+1'
MF44ประเทศยูเครน อนาโตลี ทีโมชุค
FW14ประเทศเปรู คลาวดีโอ ปีซาร์โร
FW33ประเทศเยอรมนี มารีโอ โกเมซSubstituted on in the 90+4 minute 90+4'
ผู้จัดการทีม:
ประเทศเยอรมนี ยุพพ์ ไฮน์เคส

ยูฟ่าแมนออฟเดอะแมตช์:
ประเทศเนเธอร์แลนด์ อาร์เยิน โรบเบิน (บาเยิร์นมิวนิก)[2]
แฟนส์แมนออฟเดอะแมตช์:
ประเทศเยอรมนี มานูเอล นอยเออร์ (บาเยิร์นมิวนิก)[3]

ผู้ช่วยผู้ตัดสิน :
ประเทศอิตาลี เรนาโต ฟาเวรานี
ประเทศอิตาลี อันเดรีย สเตฟานี
ผู้ตัดสินที่สี่ :
ประเทศสโลวีเนีย ดาเมียร์ ชโกมีนา
ผู้ช่วยผู้ตัดสินเพิ่มเติม :
ประเทศอิตาลี กีอานลูคา รอชชี
ประเทศอิตาลี ปาโอโล ทากลีอาเวนโต

ข้อมูลในการแข่งขัน[10]

  • แข่งขันครบ 90 นาที (นับช่วงทดเวลาบาดเจ็บ)
  • ต่อเวลาพิเศษไปอีก 30 นาที เมื่อทั้งสองทีมเกิดผลการแข่งขันเสมอกัน
  • ตัดสินด้วยการดวลลูกจุดโทษ เพื่อหาผู้ชนะ
  • รายชื่อนักฟุตบอล 7 คนที่จะต้องยิงจุดโทษ
Remove ads

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads