คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ลูซิเฟอร์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ลูซิเฟอร์ (อังกฤษ: Lucifer) เป็นคำคำหนึ่งจากการถอดเสียงคำภาษาฮีบรู הֵילֵל ในหนังสืออิสยาห์ บทที่ 14 ข้อที่ 12 คำนี้สามารถถอดเสียงออกมาได้ว่า เฮเลล [1] คำนี้ปรากฏเพียงครั้งเดียวในคัมภีร์ฮีบรู[1] ซึ่งมีความหมายว่า "ผู้ส่องแสง"[2] คำว่าลูซิเฟอร์ปรากฏครั้งแรกใน ค.ศ. 382 เมื่อคัมภีร์ไบเบิลฉบับวัลเกต[3] แปล הֵילֵל เป็นภาษาละตินว่า Lucifer [4][5] หลังจากนั้น คำนี้เริ่มแพร่หลายในเกาะอังกฤษเมื่อคัมภีร์ไบเบิลฉบับพระเจ้าเจมส์ (ค.ศ. 1604) รับเอาคำว่า Lucifer ตามฉบับวัลเกต

คริสตชนโบราณยุคหลัง มักจะใช้คำในภาษาละตินว่า ลูซิเฟอร์ ในฐานะมารก่อนตกสวรรค์[6] เพื่อแทนตัวตนของมาร/ซาตาน ทำให้ลูซิเฟอร์ในภาพลักษณ์ปีศาจถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในวิหารและวรรณกรรมนิยมมากมาย[3] มหากาพย์ที่โด่งดังของอังกฤษเรื่อง สวรรค์ลา โดยจอห์น มิลตัน ตั้งชื่อตัวเอกว่าลูซิเฟอร์ก่อกบฏต่อพระเจ้าจนตกจากสวรรค์ และความคิดนี้ก็แพร่หลายไปในคนทั่วไปโดยเฉพาะชาวคริสต์
หากยึดตามพระคัมภีร์ คำว่าลูซิเฟอร์คือฉายาหนึ่งของซาตาน แต่ซาตานไม่ใช่คนเดียวที่ได้ฉายาลูซิเฟอร์ ดังนั้นการสรุปว่าลูซิเฟอร์กับซาตานคือบุคคลเดียวกันจึงถูกต้องเพียงส่วนเดียว
Remove ads
การตีความเปรียบเทียบของคริสเตียน
นอกเหนือจากคำว่า "เจ้าผู้ส่องแสง" ที่ปรากฏในหนังสืออิสยาห์ บท 14 หมายถึงพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 แห่งบาบิโลน (634 ก่อนค.ศ. – 562 ก่อนค.ศ.)[7][8] นักประพันธ์ชาวคริสต์ได้นำคำนี้มาใช้สื่อถึงซาตาน ซึ่งรองศาสตราจารย์ ไซกีฟ เค. ทันสเตด ได้โต้แย้งว่าในพันธสัญญาใหม่ ประเด็นที่ปรากฏในหนังสือวิวรณ์ บทที่ 12 ซึ่งเป็นตอนสงครามบนสวรรค์ กล่าวว่าพญานาคที่เข้าสู้รบกับกองทัพพระเจ้านี้ "คืองูดึกดำบรรพ์ที่เรียกกันว่า มาร หรือ ซาตาน...ถูกเหวี่ยงลงมาบนโลกพร้อมกับทูตสวรรค์ของมัน" ข้อความนี้ถูกนำไปเชื่อมกับอิสยาห์บท 14:12[9] ออริเจน นักโหราศาสตร์ชาวกรีก ก็ตีความข้อความในพันธสัญญาเก่านี้ว่าเป็นการปรากฏของมาร แต่แน่นอนว่าเขาเขียนเป็นภาษากรีก ไม่ใช่ละติน เขาจึงไม่ได้แทนคำว่าปีศาจนี้ด้วยคำว่า "ลูซิเฟอร์" [10][11][12][13]
เทอร์ทัลเลียน นักเขียนชาวคริสต์ผู้ใช้ภาษาละติน ถึงแม้เขาจะเข้าใจข้อความในหนังสืออิสยาห์ บท 14:14 ("ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะกระทำตัวของข้าเหมือนองค์ผู้สูงสุด") ว่าเป็นคำพูดของจอมมาร[14] แต่เขาก็ไม่ได้ใช้คำที่แทนถึงจอมมารนั้นว่า "ลูซิเฟอร์"[15] แม้กระทั่งในยุคของออกัสตินแห่งฮิปโป นักเขียนละติน คำว่า "ลูซิเฟอร์" ก็ยังไม่ถูกใช้ในฐานะจอมมาร [10]
Remove ads
พันธสัญญาเดิม
สรุป
มุมมอง
แนวความคิดเรื่องชื่อ "ลูซิเฟอร์" มีนักวิชาการให้ข้อสันนิษฐานไว้ 2 แบบด้วยกัน โดยแนวทางแรกยกมาจากหนังสืออิสยาห์ที่ยืนยันว่า ลูซิเฟอร์ หมายถึง พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 แห่งบาบิโลน เพราะพระองค์ทรงทนงตนและยกตนเทียบเคียงพระเจ้า และแนวทางที่สองยกมาจากหนังสือเสเคียล ที่ยืนยันว่า ลูซิเฟอร์ หมายถึง ทูตสวรรค์ที่ถูกพระเจ้าขับออกจากสวรรค์ เพราะเป็นทูตสวรรค์ที่ถูกขับไล่โดยพระเจ้าและเคยเฝ้าศิลาเพลิงกับเครูปมาก่อน มีการกล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกับการสร้างทูตสวรรค์ตนนั้น
หนังสืออิสยาห์

ชาวอิสราเอลในเยรูซาเลมไม่ได้เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระเจ้าอีก พระเจ้าจึงต้องการลงโทษพวกเขา โดยอาศัยการเรืองอำนาจของจักรวรรดิบาบิโลนเข้าทำลายกรุงเยรูซาเล็ม เมื่อเยรูซาเลมถูกทำลายลง ชาวยิวผู้เป็นผู้พยากรณ์ของพระเจ้า คือดาเนียลและเพื่อนถูกจับพร้อมเหล่าเชลยไปยังบาบิโลน ดาเนียลมีโอกาสทำนายนิมิตที่แปลกประหลาดให้แก่ พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 แห่งบาบิโลน ดาเนียลสามารถทำนายได้อย่างถูกต้อง ดาเนียลอธิบายว่าเดชานุภาพอันเกรียงไกรของพระองค์มาจากพรของพระผู้เป็นเจ้า และเมื่อดาเนียลทูลคำอธิบายจบแล้ว พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ทรงหมอบกราบดาเนียล และหันไปนับถือพระยาห์เวห์ ทรงตั้งดาเนียลให้ปกครองบาบิโลนทั้งมณฑล ภายหลังมีเหตุการณ์ที่สหายของดาเนียลทำให้พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์พิโรธจึงถูกโยนเข้าเตาไฟ แต่ก็ไม่เป็นอะไรเลย พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ยิ่งศรัทธาในองค์พระยาห์เวห์
อาณาจักรของพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 ยิ่งใหญ่มาก จนวันหนึ่งพระองค์กล่าวชื่นชมความยิ่งใหญ่ของตนเอง พระเจ้าจึงทำการลงโทษพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ โดยการริบรอนราชอำนาจสติปัญญา และถูกขับไล่จากมวลมนุษย์ให้ใช้ชีวิตเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน กินหญ้า เนื้อตัวเปียกชุ่ม เป็นเวลาเจ็ดกาล (มักถูกตีความว่าหมายถึงเจ็ดปี) ดังที่ปรากฏในหนังสืออิสยาห์ ว่า
...โอ เจ้าร่วงลงจากฟ้าสวรรค์อย่างไรหนอ เจ้าผู้ส่องแสง คือโอรสแห่งรุ่งอรุณ เจ้าถูกเหวี่ยงลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ เจ้าผู้ทำให้ประชาชาติทั้งหลายตกต่ำ เจ้าเองรำพึงในใจของเจ้าว่า...ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ ข้าจะทำให้ตัวของข้าเองเหมือนองค์ผู้สูงสุด ’แต่เจ้าถูกนำลงมาสู่แดนคนตายยังก้นบาดาล บรรดาผู้เห็นเจ้าจะจ้องมองเจ้าและจะคิดพิจารณาตัวเจ้าว่า‘ ชายคนนี้หรือที่ทำให้โลกสั่นสะเทือน? ที่เขย่าอาณาจักรทั้งหลาย?[16]
— หนังสืออิสยาห์ 14:12-16
เมื่อผ่านไปเจ็ดกาล พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ทรงได้สติสัมปัญญาคืนมา เนบูคัดเนซซาร์กล่าวสรรเสริญพระยาห์เวห์ เหล่าขุนนางมาตามพระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่บัดนี้ได้ละทิ้งบาป ให้กลับไปครองราชบัลลังก์ตามเดิม
ดังนั้น "ผู้ส่องแสง" ในหนังสืออิสยาห์นี้จึงหมายถึงพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ที่ 2 แห่งบาบิโลน หาได้หมายถึงทูตสวรรค์ที่มีอำนาจมากและคิดกบฎต่อพระเจ้าจนถูกขับไล่ออกจากสวรรค์ไม่
หนังสือเอเสเคียล
ในด้านของหนังสือเอเสเคียลยังคงมีการยืนยันถึง "ลูซิเฟอร์" ว่ายังคงหมายถึงชื่อของทูตสวรรค์ที่ถูกพระเจ้าขับออกจากสวรรค์ โดยมีการกล่าวถึงกษัตริย์เมืองไทระ ว่า
...บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวบทคร่ำครวญเพื่อกษัตริย์ไทระ และจงกล่าวกับเขาว่า พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้ว่า เจ้าเป็นแบบอย่างของความสมบูรณ์ เต็มด้วยสติปัญญาและมีความงามพร้อม เจ้าอยู่ในสวนเอเดน อุทยานของพระเจ้า อัญมณีทุกอย่างเป็นเครื่องแต่งกายของเจ้า คือคาร์เนเลียน เพอริโด เพชร เบริล โอนิกซ์ และแจสเพอร์ ไพลิน เทอร์คอยซ์ และมรกต อัญมณีเหล่านี้ฝังในทองคำ ที่แกะสลักเป็นลวดลาย สิ่งเหล่านั้นจัดเตรียมไว้แล้ว ในวันที่เจ้าถูกสร้างขึ้นมา เราแต่งตั้งเจ้าไว้โดยมีเครูบเป็นผู้พิทักษ์ เจ้าอยู่บนภูเขาบริสุทธิ์ของพระเจ้า และเจ้าเดินอยู่ท่ามกลางศิลาเพลิง เจ้าปราศจากตำหนิในวิถีทางของเจ้า ตั้งแต่วันที่เจ้าถูกสร้างขึ้น จนเมื่อพบบาปชั่วในตัวเจ้า ในการค้ามากมายของเจ้านั้น เจ้าเต็มไปด้วยการทารุณ และเจ้าทำบาป เราขับเจ้าไปจากภูเขาของพระเจ้าอย่างไร้เกียรติ และเครูบผู้พิทักษ์นั้นก็ขับเจ้าออกไป จากท่ามกลางศิลาเพลิง ใจเจ้าผยองขึ้นเพราะความงามของเจ้า เจ้าทำให้ปัญญาของเจ้าวิปริตไป เนื่องด้วยความสง่างามของเจ้า เราเหวี่ยงเจ้าลงบนดินแล้ว เราให้เจ้าถูกกษัตริย์ทั้งหลายมองอย่างดูแคลน[17]
— หนังสือเอเสเคียล 28:12-17
"เจ้า" คำนี้ หมายถึง ทูตสวรรค์ที่ถูกขับไล่จากสวรรค์ โดยในภาษาละตินใช้คำว่า "ลูซิเฟอร์" ในการกล่าวถึงทูตสวรรค์ตนนี้
Remove ads
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads