คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ (อังกฤษ: Star Wars: The Bad Batch) เป็นแอนิเมชันชุดอเมริกัน สร้างโดยเดฟ ฟิโลนี ออกอากาศบนบริการสตรีมมิงดิสนีย์+ แอนิเมชันชุดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชส์ สตาร์ วอร์ส เป็นทั้งภาคต่อและภาคแยกของแอนิเมชันชุด สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส โดยต่อเนื่องจากตอนจบของแอนิเมชันชุดนั้นที่บรรยายเหตุการณ์ต่อเนื่องหลังคำสั่งที่ 66 และจุดจบของสงครามโคลน ทีมโคตรโคลนมหากาฬ ติดตามหน่วยโคลนทรูปเปอร์ที่มีการกลายพันธุ์และต้านทานต่อคำสั่งที่ 66 และต้องหลบหนีไปในช่วงเริ่มต้นของจักรวรรดิกาแลกติก พวกเขาถูกร่วมโดยโอเมก้าซึ่งเป็นโคลนเด็กหญิง
ดี แบรดลีย์ เบเกอร์ ให้เสียงเป็น แบดแบทช์ กลุ่มทหารโคลนที่มีความสามารถพิเศษจากการกลายพันธุ์ นอกจากนี้ยังให้เสียงทหารโคลนคนอื่น ๆ ในเรื่อง ซึ่งเป็นการกลับมารับบทเดิมของเขาจาก เดอะ โคลน วอร์ส มิเชลล์ แอง ให้เสียงเป็นโอเมก้า โคลนเด็กหญิงที่เข้าร่วมกับกลุ่มนี้ แอนิเมชันชุดนี้ได้รับคำสั่งให้สร้างอย่างเป็นทางการหลังจากที่ซีซันสุดท้ายของ เดอะ โคลน วอร์ส แนะนำกลุ่มแบดแบทช์จากแนวคิดของผู้สร้าง สตาร์ วอร์ส จอร์จ ลูคัส ทีมโคตรโคลนมหากาฬ นั้นผลิตโดยลูคัสฟิล์มแอนิเมชัน โดยมี เจนนิเฟอร์ คอร์เบตต์ เป็น หัวหน้าผู้เขียนบท และแบรด ราว เป็น ผู้กำกับดูแล; ฟิโลนี, คอร์เบตต์และราว ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างพร้อมกันกับอะทีนา อีเวตต์ พอร์ทิลโอ
สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม จนถึง 13 สิงหาคม ค.ศ. 2021 มีจำนวน 16 ตอน[1] แอนิเมชันชุดได้รับการสร้างต่อในซีซันสอง ออกอากาศวันที่ 4 มกราคม จนถึง 29 มีนาคม ค.ศ. 2023 และซีซันสามซึ่งเป็นซีซันสุดท้าย มีจำนวนตอน 15 ตอน ออกอากาศวันที่ 21 กุมภาพันธ์ จนถึง 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 แอนิเมชันชุดนี้ได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์โดยเฉพาะในเรื่องแอนิเมชันและการพากย์เสียง
Remove ads
เรื่องย่อ
สรุป
มุมมอง
ในจักรวาล สตาร์ วอร์ส สงครามโคลนเป็นชุดของข้อพิพาทระหว่างสาธารณรัฐกาแลกติกและขบวนการแบ่งแยกดินแดน โดยได้ชื่อมาจากกองทัพของสาธารณรัฐซึ่งประกอบไปด้วยโคลนทรูปเปอร์ที่สร้างจากชิ้นส่วนพันธุกรรมของนักล่าเงินรางวัล แจงโก้ เฟทท์ หน่วยโคลน 99 หรือที่รู้จักในชื่อ แบดแบทช์ เป็นกลุ่มทหารโคลนที่มีความสามารถพิเศษจากการกลายพันธุ์ที่ปรากฏตัวครั้งแรกใน สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส[2][3] การกลายพันธุ์นี้ทำให้สมาชิกส่วนใหญ่ของแบดแบทช์ต้านคำสั่งที่ 66 ซึ่งเป็นคำสั่งที่จบสงครามโคลน โดยการกระตุ้นโปรแกรมลับในโคลนทรูปเปอร์ที่ทำให้โคลนทรูปเปอร์เหล่านั้นสำเร็จโทษเจไดและเชื่อฟังคำสั่งจากจักรพรรดิพัลพาทีนและจักรวรรดิกาแลกติก สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ ดำเนินเรื่องเกี่ยวกับทีมโคลนที่มีชื่อเสียงนี้ โดยรับภารกิจเป็นทหารรับจ้างที่กล้าหาญหลังพลพวงของสงครามโคลนในช่วงเริ่มต้นของจักรวรรดิ โดยมีโอเมก้าซึ่งเป็นโคลนเด็กหญิงของแจงโก้ เฟทท์เข้าร่วมกลุ่มนี้ด้วย[2][4]
นอกจากนี้ แอนิเมชันชุดนี้ยังเล่าถึงเรื่องราวของโคลนทรูปเปอร์นายอื่น ๆ หลังการสิ้นสุดสงครามโคลน ประกอบด้วย บางส่วนนั้นตั้งคำถามต่อคำสั่งที่ 66 ได้อย่างไร, จักรวรรดิปลดระวางกองทัพโคลน และแทนที่ด้วยทหารเกณฑ์สตอร์มทรูปเปอร์ได้อย่างไร, และทรัพยาการเกี่ยวกับการโคลนของจักรวรรดิถูกนำไปใช้ใน "โปรเจ็กต์เนโครแมนเซอร์" —โปรเจ็กต์ลับเพื่อสร้างโคลนของพัลพาทีนซึ่งสามารถอธิบายการกลับมาจากความตายของพัลพาทีนในภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส: กำเนิดใหม่สกายวอล์คเกอร์ (ค.ศ. 2019)[5][6][7]
Remove ads
ตอน
ซีซัน 1 (ค.ศ. 2021)
ซีซัน 2 (ค.ศ. 2023)
ซีซัน 3 (ค.ศ. 2024)
Remove ads
นักแสดงและตัวละคร
นักแสดงนำ
- ดี แบรดลีย์ เบเกอร์ เป็น แบดแบทช์:
หรือที่รู้จักกันในนาม หน่วยโคลน 99 แบดแบทช์เป็นหน่วยของโคลนทรูปเปอร์ที่เป็นเอกลักษณ์โดยมีการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม[8] จอร์จ ลูคัส ผู้เป็นผู้ให้นำเกิด สตาร์ วอร์ส ต้องการให้พวกเขามีความสามารถพิเศษที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากโคลนอื่น ๆ แต่เขาไม่ได้ต้องการให้พวกเขาเป็นซุปเปอร์ฮีโร่[9] แบดแบทช์ประกอบด้วย: ฮันเตอร์ หัวหน้าทีมซึ่งมีการรู้สัมผัสที่เพิ่มขึ้นจากปกติและถูกเรียกว่า "ปรมาจารย์ในการติดตาม"; เร็กเกอร์ ผู้มีกล้ามเนื้อที่ดีกว่าปกติและมีโครงกระดูกที่เสริมความแข็งแรง ทำให้เขาแข็งแรงมาก; ครอสแฮร์ นักซุ่มยิงที่มีฝีมือ; เทค อัจฉริยะผู้เก่งในเรื่องเทคโนโลยี; และเอคโค่ อดีตโคลนธรรมดา หรือ "พวกกาก" ผู้ถูกเปลี่ยนเป็นไซบอร์กผ่านการทดลองที่น่าสะพรึงกลัว และในตอนนี้สามารถเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ได้[10] ถึงแม้ว่าจะเป็นโคลน เบเกอร์ทำให้แน่ใจว่าทีมนี้มีเสียงที่ต่างกันและสามารถแยกออกจากกันได้ในแต่ละคน เช่น ความแม่นยำของเทค และการที่ครอสแฮร์เสียงเหมือน "งูที่กำลังขดตัว"[11]- ดังเช่นที่เขาทำใน สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส เบเกอร์ยังให้พากย์เสียงโคลนนายอื่น ๆ ในแอนิเมชันชุดนี้อีกด้วย[11] ประกอบด้วย: เกรย์ กัปตันภายใต้ปรมาจารย์เจได เดปา บิลลาบา ในช่วงคำสั่งที่ 66;[12] คัท ลอว์เควน ผู้ละทิ้งสงครามโคลนและหนีไปซ่อนตัวกับครอบครัวของเขา;[13] เร็กซ์ อดีตกัปตันผู้ถูกเชื่อว่าตายไปในตอนจบของสงครามโคลนและตอนนี้ทำปฏิบัติการลับเพื่อช่วยเหลือโคลนนายอื่น ๆ และต่อต้านจักรวรรดิ;[14][15] ฮาวเซอร์ กัปตันโคลนบนดาวไรลอธผู้สนับสนุนนักสู้เพื่ออิสรภาพในการสู้กับจักรวรรดิ;[16] เกรเกอร์ คอมมานโดผู้ทำงานร่วมกับเร็กซ์;[17] วิลโค กัปตันผู้ประจำบนดาวเซเรนโนและถูกฆ่าโดยพลเรือโทแรมพาร์ทในฐานปฏิเสธการปลอมแปลงเอกสารรายงาน;[18] โคดี ผู้บัญชาการที่ละทิ้งการทำงานหลังจากเริ่มตั้งคำถามต่อจักรวรรดิในระหว่างภารกิจที่ทำร่วมกับครอสแฮร์;[19] เคดและสลิป โคลนผู้ถูกฆ่าโดยแรมพาร์ทเพราะเป็นส่วนหนึ่งของผู้แพร่ข่าวลือเรื่องการปิดบังการทำลายเมืองทิโพก้า;[20] สกอร์ช คอมมานโดผู้นำกองกำลังของแผนกวิทยาศาสตร์ขั้นก้าวหน้า;[21] เมย์เดย์ ผู้บัญชาการของค่ายทหารไร้ผู้คนบนดาวบาร์ทอน โฟ ผู้ซึ่งความตายของเขานั้นเป็นตัวเร่งให้ครอสแฮร์หักหลังให้จักรวรรดิ;[22] ฟายบอลล์และเนเมค สมาชิกกลุ่มโคลนแปรพักตร์ของเร็กซ์;[23] เหล่านักฆ่า โคลนเอ็กซ์;[24] และวูล์ฟ ผู้บัญชาการที่ถูกส่งมาเพื่อจับกุมตัวโอเมก้าและถูกเจรจาโดยเร็กซ์;[25] เบเกอร์เพิ่มความแตกต่างเล็กน้อยในเสียงของโคลนแต่ละนาย[11]
- เบเกอร์กลับมารับบทเป็นบาร์ทัน โคเบิร์น พลเรือเอกแห่งจักรวรรดิผู้เข้าร่วมการประชุมของทาร์คิน โดยเป็นตัวละครจาก เดอะ โคลน วอร์ส[26] นอกจากนี้เขายังให้เสียงของแบดเชอร์ สุนัขเลอร์คาที่โอเมก้าสนิทด้วย[27]
- มิเชลล์ แองก์ เป็น โอเมก้า:
โคลนเด็กหญิงผู้เข้าร่วมแบดแบทช์[28] เธอเป็นโคลนของแจงโก้ เฟทท์ที่ไม่ได้รับการปรับแต่ง ทำให้เธออายุเพิ่มขึ้นตามปกติต่างจากแบดแบทช์และโคลนนายอื่น ๆ ที่อายุเพิ่มขึ้นเร็วเป็นสองเท่าของความเร็วปกติ ดังนั้น ในทางเทคนิคแล้ว โอเมก้าจึงแก่กว่าโคลนเกือบทั้งหมดถึงแม้ว่าจะมีรูปร่างหน้าตาที่เด็กกว่า[29] ชื่อของเธออ้างอิงถึงโคลนที่ไม่ได้รับการปรับแต่งโคลนแรกของแจงโก้ เฟทท์ "แอลฟ่า" หรือที่รู้จักกันในฐานะลูกชายของแจงโก้ โบบา[3] ในการให้เสียงโอเมก้า แองก์ใช้สำเนียงนิวซีแลนด์ของเธอเองแต่ปรับความสูงต่ำของเสียงและความรู้สึกนึกคิดเพื่อให้ "ความเยาว์วัย" แก่ตัวละคร แองก์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการดูการที่ลูกชายของเธอได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ[30]
นักแสดงสมทบ
ตัวละครจากสื่อ สตาร์ วอร์ส อื่น ๆ
- เบน ดิสกิน เป็น เอซี-3: ดรอยด์ทางการแพทย์จากดาวคามิโน่ ผู้ให้ความช่วยเหลือแบดแบทช์[31]
- บ็อบ เบอร์เก็น เป็น ลามา ซู: นายกรัฐมนตรีของดาวคามิโน่[31]
- เกวนโดลิน ยีโอ เป็น นาลา เซ: นักวิทยาศาสตร์ชาวคามิโน่ผู้รับผิดชอบกระบวนการโคลน[31]
- สตีเฟน สแตนตัน เป็น
- เจนนิเฟอร์ เฮล เป็น ไรโย ชูชี: สมาชิกวุฒิสภาชาวแพนทอร่า ผู้แก้ต่างเพื่อโคลน[33]
ตัวละครใหม่ในซีซัน 1
- โนเชียร์ ดาลาล เป็น แรมพาร์ท: พลเรือโทของจักรวรรดิผู้รับผิดชอบในโครงการทหารเกณฑ์ใหม่สตอร์มทรูปเปอร์[31]
- เลียม โอ'ไบรอัน เป็น โบโล: ชาวอิโธเรียนธรรมดาในบาร์ของซิด[ต้องการอ้างอิง]
- แซม ไรเจล เป็น เคทช์: ชาววีเคยธรรมดาในบาร์ของซิด[ต้องการอ้างอิง]
- เรีย เพิร์ลแมน เป็น ซิด: ชาวแทรนโดเชน อดีตผู้แจ้งเรื่องเจได และผู้หางานทหารรับจ้างให้แก่แบดแบทช์[31]
- เชลบี ยัง เป็น
- แบรกก์: กัปตันของจักรวรรดิที่ประจำการอยู่บนดาวแรซัส เซคันดัส[ต้องการอ้างอิง]
- ยานนา: วูกีเฒ่า[ต้องการอ้างอิง]
- แบร์น: เด็กที่เป็นตัวอย่างทดลองในโปรเจ็กต์เนโครแมนเซอร์ ซึ่งมีค่าเอ็ม-เคานต์สูง[ต้องการอ้างอิง]
- เฮเลน แซดเลอร์ เป็น สแคลเดอร์: แพทย์ในแผนกวิทยาศาสตร์ขั้นก้าวหน้าของจักรวรรดิ[34]
ตัวละครใหม่ในซีซัน 2
ตัวละครใหม่ในซีซัน 3
- ไอแวน ไซนิตซิน เป็น แจ็กซ์: เด็กที่เป็นตัวอย่างทดลองในโปรเจ็กต์เนโครแมนเซอร์ ซึ่งมีค่าเอ็ม-เคานต์สูง มีเลขประจำตัวคือ เอสพี-32[ต้องการอ้างอิง]
- ออลวีน เอ็ม. เวแลน เป็น เอวา: เด็กที่เป็นตัวอย่างทดลองในโปรเจ็กต์เนโครแมนเซอร์ ซึ่งมีค่าเอ็ม-เคานต์สูง มีเลขประจำตัวคือ เอสพี-54[ต้องการอ้างอิง]
- ไนยา ซิงห์ พาดิลลา เป็น แซมี: เด็กที่เป็นตัวอย่างทดลองในโปรเจ็กต์เนโครแมนเซอร์ ซึ่งมีค่าเอ็ม-เคานต์สูง มีเลขประจำตัวคือ เอสพี-39[ต้องการอ้างอิง]
นักแสดงรับเชิญ
ตัวละครจากสื่อ สตาร์ วอร์ส อื่น ๆ
- อาร์ชี ปัญจาบี เป็น เดปา บิลลาบา: ปรมาจารย์เจไดผู้ถูกฆ่าในคำสั่งที่ 66 ความตายของเธอนั้นถูกแสดงออกมาต่างจากที่ระบุไว้ในหนังสือการ์ตูน เคนัน[38]
- แมทธิว วูด เป็น
- แบทเทิลดรอยด์แห่งกองทัพของฝ่ายแบ่งแยก[39]
- บิบ ฟอร์ทูนา: หัวหน้าคนใช้และมือขวาของเจ้าพ่อมาเฟีย แจบบา เดอะ ฮัทท์[40]
- เฟรดดี พรินซ์ จูเนียร์ เป็น เคเลป ดูม: พาดาวันของเดปา บิลลาบา ผู้หลีบหนีจากคำสั่งที่ 66 เหตุการณ์นี้ถูกแสดงออกมาต่างจากที่ระบุไว้ในหนังสือการ์ตูน เคนัน[38]
- เอียน แม็คเดียร์มิด เป็น พัลพาทีน: จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิ และเป็นลอร์ดมืดแห่งซิธ [41]
- แอนดรูว์ คิชิโน เป็น ซอว์ เกอร์เรร่า: นักสู้เพื่ออิสรภาพชาวออนเดรอน[42]
- ทอม เคน เป็น นักบรรยายฉากเปิดในรูปแบบของ เดอะ โคลน วอร์ส ด้วยเหตุที่ว่าสงครามโคลนนั้นจบลงในตอนแรกของซีรีสนี้ การบรรยายจึงไม่ถูกนำมาใช้ในตอนอื่น ๆ[43]
- นิกา ฟัตเทอร์แมน เป็น
- เชเอีย ลอว์เควน: ลูกสาวของโคลนผู้ละทิ้งสงครามโคลน คัท ลอว์เควน[44]
- อาซาจ เวนเทรส:
ลูกศิษย์ของเคานต์ดูกู ในช่วงสงครามโคลน ผู้ผันตัวกลายเป็นนักล่าเงินรางวัล[45] การปรากฏตัวครั้งล่าสุดของตัวละครนี้นั้นอยู่ในนิยายปี ค.ศ. 2015 เรื่อง ดาร์ก ดิสซิเพิล ซึ่งดัดแปลงมาจากบทของ เดอะ โคลน วอร์ส ที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้และสตอรีบอร์ดของเรื่องนั้น ในหนังสือ เวนเทรสตกหลุมรักกับเจได ควินแลน วอส และเสียสละตัวเธอเองเพื่อช่วยเขา[45][46] ในตอนที่ผู้อำนวยการผลิต เดฟ ฟิโลนี ต้องการให้ตัวละครนี้กลับมามีบทบาทในซีซัน 3 ของ ทีมโคตรโคลนมหากาฬ ฝ่ายผลิตต้องพยายามในการหาทางให้เวนเทรสสามารถรอดจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพวกเขาวางแผนที่จะเปิดเผยในเรื่องราวของ สตาร์ วอร์ส ในอนาคต[47] การรูปร่างหน้าตาของเธอใน ทีมโคตรโคลนมหากาฬ นั้นได้ต้นแบบมาจากงานออกแบบที่ทำไว้สำหรับตอนของ เดอะ โคลน วอร์ส ที่ไม่ได้ถูกนำมาใช้ ประกอบด้วยผมที่ยาวขึ้นและกระบี่แสงใหม่ซึ่งมีใบดาบสีเหลือง[45][46] ฟัตเทอร์แมนนั้นตื่นเต้นที่จะได้แสดงเป็นเวนเทรสในรูปแบบที่อ่อนโยนขึ้น[47]
- แคธ ซูชี เป็น เจค ลอว์เควน: ลูกชายของโคลนผู้ละทิ้งสงครามโคลน คัท ลอว์เควน[44]
- คารา พิฟโก เป็น ซู ลอว์เควน: ภรรยาของโคลนผู้ละทิ้งสงครามโคลน คัท ลอว์เควน[44]
- หมิง-นา เหวิน เป็น เฟนเนค แชนด์: ทหารรับจ้างและนักซุ่มยิงที่มีความสามารถ[48]
- บริจิทท์ คาลี เป็น เทรซ มาร์เทซ: อดีตนักลับลอบขนของเถื่อนที่ผันตัวเป็นนักสู้เพื่ออิสรภาพและเป็นน้องสาวของราฟา[49]
- อลิซาเบธ โรดริเกซ เป็น ราฟา มาร์เทซ: อดีตนักลับลอบขนของเถื่อนที่ผันตัวเป็นนักสู้เพื่ออิสรภาพและเป็นพี่สาวของเทรซ[49]
- โครีย์ เบอร์ทัน เป็น
- เซ็ธ กรีน เป็น โทโด 360: ดรอยด์ผู้ช่วยของแคด เบน[50]
- รีนา โอเวน เป็น ทอน วี: ชาวคามิโน่ซึ่งเป็นผู้ช่วยของลามา ซู[52]
- โรบิน แอทคิน ดาวนส์ เป็น ชาม ซินดูลลา: นักสู้เพื่ออิสรภาพชาวทวิเล็กผู้โด่งดัง และเป็นพ่อของเฮรา ซินดูลลา[51]
- วาเนสซา มาร์แชล เป็น เฮรา ซินดูลลา:
ลูกสาวของชาม ซินดูลลา ผู้เป็นนักบินที่มีความสามารถและเป็นนักสู้เพื่ออิสรภาพ ก่อนหน้านี้มาร์แชลเคยรับบทเป็นเฮราในแอนิเมชันชุด สตาร์ วอร์ส เรเบลส์ ซึ่งเธอใช้ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันเป็นส่วนใหญ่สำหรับตัวละครนี้ แต่กระนั้น ในแอนิเมชันชุดนั้นได้เปิดเผยฉาดว่าเฮราเคยมีสำเนียงฝรั่งเศสมาก่อน—แสดงถึงสำเนียงท้องถิ่นของดาวไรลอธ —ดังเช่นชามและตัวละครทวิเล็กคนอื่น ๆ นั้นมี แต่เธอสูญเสียสำเนียงนี้ไปเมื่อเธออกเดินตามทางของเธอเอง มาร์แชลซึ่งสามารถพูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่อง จึงสามารถให้เสียงเฮราด้วยสำเนียงท้องถิ่นได้ใน ทีมโคตรโคลนมหากาฬ และยังปรับความสูงต่ำของเสียงของเธอเพื่อแสดงเป็นเฮราในช่วงวัยรุ่น[53] - ฟีล ลามาร์ เป็น
- ออร์น ฟรี ทา: สมาชิกวุฒิสภาของจักรวรรดิ จากดาวไรลอธ ผู้ประพฤติมิชอบ[51]
- เบล ออร์กานา: สมาชิกวุฒิสภาดาวอัลเดอราน ผู้ต่อต้านจักรวรรดิอย่างลับ ๆ[32]
- เดฟ ฟิโลนี เป็น ช็อปเปอร์: แอสโทรเม็คดรอยด์ที่น่ารำคาญของเฮรา แอนิเมชันชุดนี้ยังคงทำตามธรรมเนียมเดิมจาก สตาร์ วอร์ส เรเบลส์ ที่ใส่เครดิตว่าช็อปเปอร์เล่นเป็น “ตัวเขาเอง”[54]
- ชารอน ดันแคน-บรูว์สเตอร์ เป็น ทินนรา พามโล: สมาชิกวุฒิสภาของจักรวรรดิจากดาวทาริส[55]
- จามีลาห์ แม็คมิลแลน เป็น เฮลล์ เบอร์โทนี: อดีตสมาชิกวุฒิสภาจากดาวคามิโน่[56]
- แอนดี เดอ ลา ทูร์ เป็น เฮิร์สท์ โรโมดี: พลเรือเอกของจักรวรรดิ ผู้เข้าร่วมการประชุมของทาร์คิน[26]
- เบน เมนเดลโซห์น เป็น ออร์สัน เครนนิก: ผู้บัญชาการของจักรวรรดิผู้เข้าร่วมการประชุมของทาร์คิน และเป็นผู้ดูแล “โปรเจ็คสตาร์ดัสท์”[26]
- ดาเนียล โลแกน เป็น ม็อกซ์ และ จูเลียน เดนนิสัน เป็น ดีคและสแตก: สามโคลนหนุ่มของแจงโก้ เฟทท์ ผู้ถูกทิ้งโดยจักรวรรดิ[57][58]
ตัวละครใหม่ในซีซัน 1
- เอมีลีโอ การ์เซีย-แซนเชส เป็น อีเอส-01: สมาชิกกลุ่มทหารเกณฑ์ยอดฝีมือของครอสแฮร์[ต้องการอ้างอิง]
- ดาเฮลี ฮอลล์ เป็น อีเอส-04: สมาชิกกลุ่มทหารเกณฑ์ยอดฝีมือ[ต้องการอ้างอิง]
- ทีนา ฮวง เป็น อีเอส-02: สมาชิกกลุ่มทหารเกณฑ์ยอดฝีมือของครอสแฮร์[ต้องการอ้างอิง]
- เนสส์ บอทิสตา เป็น อีเอส-03: สมาชิกกลุ่มทหารเกณฑ์ยอดฝีมือของครอสแฮร์[ต้องการอ้างอิง]
- อเล็กซานเดอร์ ซิดดิก (ซีซัน 1) และ แดนนี เจคอบส์ (ซีซัน 3) เป็น อาวี ซิงห์: สมาชิกวุฒิสภาดาวแรซัส เซคันดัส[ต้องการอ้างอิง]
- เฟเรลิธ ยัง เป็น เอเลนี ซินดูลลา: ภรรยาของชาม และเป็นแม่ของเฮรา[51]
- ทอม เทย์เเลอร์สัน เป็น โรแลนด์ ดูแรนด์: ชาวดีวาโรเนียน และเป็นสมาชิกระดับสูงของครอบครัวกลุ่มอาชญากรดูแรนด์[ต้องการอ้างอิง]
ตัวละครใหม่ในซีซัน 2
- เออร์นี ฮัดสัน เป็น กรีนี มิลเลกี: นักเลงชาวดาวูทิน และเป็นคู่ปรับทางธุรกิจของซิด ผู้ซึ่งคอยดูแลการแข่งบนดาวซาฟา โทมา[ต้องการอ้างอิง]
- เบน ชวาร์ตซ์ เป็น เทย์-โอ: ดรอยด์นักแข่งของซิดบนดาวซาฟา โทมา[ต้องการอ้างอิง]
- โจนาธาน ลีโพ เป็น
- กันจี: เจไดเด็กชาววูกี ผู้หลบหนีจากจักรวรรดิ[ต้องการอ้างอิง]
- ม็อกโก: เจ้านายผู้ใจดำแห่งศูนย์เหมืองแร่[ต้องการอ้างอิง]
- ยูรี โลเวนธัล เป็น เบ็นนี บาโร: เด็กหนุ่มนักค้นซากผู้ทำงานในเหมืองของม็อกโก[59]
- คริสพิน ฟรีแมน เป็น โนแลน: ร้อยโทของจักรวรรดิผู้ไม่ชื่นชอบโคลนและถูกฆ่าโดยครอสแฮร์[60]
- แอนดี อัลโล เป็น ไลอานา ฮาซาร์ด: ลูกสาวของนายกเทศมนตรีแห่งพาบู เชป ผู้ซึ่งสนิทกับโอเมก้า[ต้องการอ้างอิง]
- อิมารี วิลเลียมส์ เป็น เชป ฮาซาร์ด: นายกเทศมนตรีแห่งพาบู พ่อของไลอานา และผู้เป็นเพื่อนของฟี[ต้องการอ้างอิง]
ตัวละครใหม่ในซีซัน 3
- แองเจลิกา ฮัสตัน เป็น อิซา ดูแรนด์: หัวหน้าของครอบครัวกลุ่มอาชญากรดูแรนด์ [61]
- แฮร์รี ลอยด์ เป็น มานน์: เจ้าหน้าที่จักรวรรดิที่ประพฤติมิชอบบนดาวลอ ผู้พนันกับโอเมก้า[ต้องการอ้างอิง]
- เจฟ โบห์ม เป็น โนวิทซ์: เจ้าหน้าที่จักรวรรดิที่บัญชาการยานขนส่งสินค้าที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ของแผนกวิทยาศาสตร์ขั้นก้าวหน้า[ต้องการอ้างอิง]
Remove ads
การผลิต
สรุป
มุมมอง
ภูมิหลัง
หลังจากที่ดิสนีย์เข้าซื้อกิจการลูคัสฟิล์มในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012 นั้น ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2013 ภาพยนตร์แอนิเมชันชุด สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส ได้ถูกยกเลิกไป[62] โดยให้ความสำคัญกับแอนิเมชันชุดใหม่ สตาร์ วอร์ส เรเบลส์ แทน[63] ลูคัสฟิล์มกล่าวว่าตอนบางส่วนที่ยังทำไม่เสร็จของ เดอะ โคลน วอร์ส นั้น จะยังถูกนำไปปล่อยเป็น "เนื้อหาเสริม"[62] ประกอบด้วยโครงเรื่องที่มีสี่ตอนซึ่งแนะนำหน่วยโคลนทรูปเปอร์ที่มีการกลายพันธุ์หรือที่รู้จักกันในนาม แบดแบทช์ แนวคิดสำหรับเรื่องราวนี้มาจากผู้ให้กำเนิด สตาร์ วอร์ส จอร์จ ลูคัส โดยตรง[9] ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2015 ตอนทั้งหมดสี่ตอนนี้ถูกนำมาแสดงในรูปแบบของชุดวิดีโอสตอรีบอร์ดที่ไม่สมบูรณ์ในงาน Star Wars Celebration Anaheim[64] ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2016 หัวหน้าผู้กำกับการสร้าง เดอะ โคลน วอร์ส และ เรเบลส์ เดฟ ฟิโลนี ได้ถอยออกจากตำแหน่งนั้นในแอนิเมชันชุด เรเบลส์ เพื่อให้เขาสามารถตั้งใจเขียนและพัฒนาแอนิเมชันชุดต่าง ๆ ในอนาคตให้กับลูคัสแอนิเมชัน[65] ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2018 ฟิโลนีประกาศว่าซีซันสุดท้ายของ เดอะ โคลน วอร์ส กำลังอยู่ระหว่างการสร้างเพื่อปล่อยบนบริการสตรีมมิ่งใหม่ ชื่อ ดิสนีย์+ ในปี ค.ศ. 2020[66] หลังจากนั้นตอนที่เกี่ยวกับแบดแบทช์ทั้งสี่ตอนได้ผลิตเสร็จสมบูรณ์สำหรับซีซันสุดท้าย โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย[9]
การพัฒนา
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2020 ดิสนีย์+ ประกาศให้มีการสร้าง สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ ซึ่งเป็นแอนิเมชันชุดที่แยกจากซีซันสุดท้ายของ เดอะ โคลน วอร์ส แอนิเมชันชุดนี้จะดำเนินเรื่องเกี่ยวกับแบดแบทช์ในผลกระทบที่ตามมาหลังจากสงครามโคลน การประกาศนี้เรียกแอนิเมชันชุดนี้ว่าเป็นวิสัยทัศน์ของฟีโลนี และเขาเป็นผู้อำนวยการสร้างคู่กับอะทีนา พอร์ทิลโอจากลูคัสฟิล์ม, หัวหน้าผู้กำกับการสร้าง แบรด ราว, และหัวหน้าผู้เขียนบท เจนนิเฟอร์ คอร์เบตต์, พร้อมกับคาร์รี เบ็ค และจอร์ช รามส์ ในฐานะผู้ช่วยผู้อำนวยการสร้างและผู้สร้างตามลำดับ[2] ฟีโลนีเรียกแอนิเมชันชุดนี้ว่า "มีความเป็น" เดอะ โคลน วอร์ส และกล่าวว่าแอนิเมชันชุดนี้จะยังคงเป็นแอนิเมชันชุดที่ตรงตามวิสัยทัศน์ของลูคัสในความต้องการแอนิเมชันชุดที่มีเรื่องราวผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและยิ่งใหญ่[67] ในปีค.ศ. 2021 ก่อนที่แอนิเมชันชุดนี้จะฉายตอนสุดท้ายของซีซันแรกนั้น แอนิเมชันชุดนี้ได้รับการไปต่อในซีซัน 2[68] ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2023 ใน Star Wars Celebration London นั้น ได้มีการประกาศซีซัน 3 ซึ่งเป็นซีซันสุดท้าย[69] ฝ่ายการสร้างได้ตั้งใจไว้ว่าจะเล่าเรื่องแบบ 3 ซีซันตั้งแต่แรก และดีใจที่สามารถจบแผนที่พวกเขาตั้งใจไว้ได้ ราวกล่าวว่าแอนิเมชันชุดนี้จะจบเรื่องราวของแบดแบทช์แต่ไม่ใช่สำหรับ "จักรวาล โคลน วอร์ส"[46]
การคัดเลือกนักแสดง และการพากย์เสียง

ตัวอย่างแรกของซีรีส์ซึ่งปล่อยออกมาในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2020 เป็นสิ่งยืนยันว่า ดี แบรดลีย์ เบเกอร์ กลับมาจาก เดอะ โคลน วอร์ส เพื่อให้เสียงแก่โคลนทรูปเปอร์ทุกนายซึ่งประกอบด้วย สมาชิกของแบดแบทช์, กัปตันเร็กซ์ และคนอื่น ๆ อีกมากมาย[8][14] เบเกอร์ได้มาแทนนักแสดงชาวนิวซีแลนด์ เทมูเอรา มอร์ริสัน ผู้เคยเล่นเป็นโคลน—รวมถึงนักล่าเงินรางวัล แจงโก้ เฟทท์ ซึ่งเป็นต้นแบบของโคลน—ในภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ไตรภาคต้น[70] นอกจากนี้ใน ทีมโคตรโคลนมหากาฬ ยังมีมิเชลล์ แอง รับบทเป็นโอเมก้า โคลนเด็กหญิงของแจงโก้ เฟทท์[28] เหตุผลบางส่วนที่แองได้รับการคัดเลือกเป็นเพราะภาษาอังกฤษสำเนียงนิวซีแลนด์ของเธอที่ตรงกับของมอร์ริสัน และเธอดีใจที่ได้รับโอกาสในการน้อมรับด้านนั้นของเธอ ด้วยเหตุที่ว่าเธอหน้าตาไม่เหมือนกับ "สิ่งที่คนทั่วโลกคิดไว้เมื่อนึกถึงชาวนิวซีแลนด์" ด้วยความเป็นผู้สืบเชื้อสายจีนและมาเลเซีย เบเกอร์และแองพากย์เสียงตอนแรกของแอนิเมชันชุดนี้ด้วยกัน แต่ด้วยภาระงานอื่น ๆ ทำให้แองต้องเดินทางกลับบ้านที่นิวซีแลนด์ และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เธอไม่สามารถกับมาพากย์เสียงร่วมกับเบเกอร์ในหลายตอนหลังจากนั้น ด้วยเหตุนี้แองพากย์เสียงของเธอเองผ่านวิดีโอคอลแทน[30]
เอเมอรี คาร์ ซึ่งเป็นโคลนหญิงโตเต็มวัย ได้ปรากฏตัวครั้งแรกในซีซัน 2 ในตอนแรกนั้นนักพากย์ เคชา แคสเซิล-ฮิวจญส์ ไม่ได้รู้ว่าเอเมอรีเป็นโคลนแต่เธอรู้สึกสงสัยว่าตัวละครนี้เกี่ยวข้องกับโอเมก้าหลังจากที่ทางผู้สร้างขอให้เธอใช้สำเนียงนิวซีแลนด์ของเธอในบทบาทนี้ แคสเซิล-ฮิวจญส์ เคยรับบทที่ไม่มีการพูดมาก่อน โดยเป็นราชินีอาไพลานาในภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส: เอพพิโซด 3 – ซิธชำระแค้น (ค.ศ. 2005)[37] ดาเนียล โลแกน ผู้แสดงเป็นโบบา เฟทท์ และโคลนหนุ่มรายอื่น ๆ ในหนังไตรภาคต้นและ เดอะ โคลน วอร์ส กลับมาให้เสียงโคลนหนุ่มชื่อม็อกซ์ ในซีซัน 3 ของ ทีมโคตรโคลนมหากาฬ[57] ม็อกซ์มีเพื่อนโคลนอีกสองนายที่เด็กยิ่งกว่าม็อกซ์ ชื่อดีคและสแตก ซึ่งได้รับการพากย์โดยเพื่อนนักแสดงชาวนิวซีแลนด์ของโลแกน จูเลียน เดนนิสัน[58][71]
ในตอนที่ตัวอย่างแรกของแอนิเมชันชุดนี้ปล่อยออกมา ตัวละครสาวของเฟนเนค แชนด์ จาก เดอะ แมนดาลอเรียน ได้ถูกเปิดเผยว่าจะมีการปรากฏตัวในแอนิเมชันชุดนี้ และหลังจากนั้นไม่นาน นักแสดงหญิง หมิง-นา เหวิน ได้ยืนยันว่าเธอจะกลับมารับบทเป็นแชนด์[48] ตัวอย่างนี้ยังเปิดเผยอีกว่า สตีเฟน สแตนตันและแอนดรูว์ คิชิโนจะกลับมารับบทเป็นตัวละครของพวกเขาใน เดอะ โคลน วอร์ส โดยเป็นทาร์คินและซอว์ เกอร์เรร่า ตามลำดับ[14][42] ตัวละครอื่น ๆ ใน เดอะ โคลน วอร์ส ที่กลับมาในซีซัน 1 ของแอนิเมชันชุดนี้ประกอบด้วย เบน ดิสกิน เป็น เอซี-3;[31] แมทธิว วูด เป็น แบทเทิลดรอยด์;[39] บ็อบ เบอร์เก็น เป็น ลามา ซู;[31] เกวนโดลิน ยีโอ เป็น นาลา เซ;[31] นากา ฟัตเทอร์แมน, แคธ ซูชี, และคารา พิฟโก เป็นสมาชิกในครอบครัวของโคลนผู้ละทิ้งสงครามโคลน คัท ลอว์เควน;[44] บริจิทท์ คาลี และอลิซาเบธ โรดริเกซ เป็น พี่น้องมาเทซ;[49] โครีย์ เบอร์ทัน เป็น แคดเบน และ เซธ กรีน เป็น ดรอย์ของเบน โทโด 360;[50] และทอม เคน ผู้เป็นผู้บรรยายฉากเปิดในแต่ละตอนของ เดอะ โคลน วอร์ส กลับมาให้การบรรในรูปแบบเดียวกันสำหรับตอนแรกของ ทีมโคตรโคลนมหากาฬ[43]
นักแสดงที่กลับมาจากภาพยนตร์ สตาร์ วอร์ส ในซีซันแรกประกอบด้วย เอียน แม็คเดียร์มิด เป็น จักรพรรดิพัลพาทีน,[41] วูด เป็น บิบ ฟอร์ทูนา,[40] และ เรนา โอเวน เป็น ทอน วี[52] ผู้สร้างรู้ตั้งแต่ช่วงแรกของการสร้างว่าตอนแรกจะต้องเริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องราวของคำสั่งที่ 66 อีกครั้ง โดยผ่านมุมมองของแบดแบทช์ และตัดสินใจที่จะใส่เจได เดปา บิลลาบาและเคเลป ดูม เนื่องด้วยผู้ชมหลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับเคเลปจาก เรเบลส์ ซึ่งเขาถูกรู้จักในชื่อ เคนัน จาร์รัส ตัวละครสองตัวนี้มีการปรากฏตัวแบบไม่มีบทพูดในซีซันสุดท้ายของ เดอะ โคลน วอร์ส ก่อนที่จะมาปรากฏตัวใน ทีมโคตรโคลนมหากาฬ โดยมีอาร์ชี ปัญจาบีให้เสียงเป็นบิลลาบา ผู้สร้างเคยคิดที่จะคัดเลือกนักแสดงเด็กมาพากย์เป็นเคเลป ก่อนที่ฟิโลนีจะติดต่อไปยังนักแสดงผู้ให้เสียงเคนัน เฟรดดี พรินซ์ จูเนียร์ ให้เข้ากลับมารับบท ราวรู้สึกว่าพรินซ์น่าจะนำพาความกระฉับกระเฉงมาใส่ในตัวละครที่เด็กลงได้อย่างเหมาะสม รวมถึงเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกด้วยความสัมพันธ์ที่เขามีต่อเคนัน[72] ในตอนหลัง ๆ ของซีซัน มีการแนะนำตัวละครจากแอนิเมชันชุด เรเบลส์ ที่เด็กลง เฮรา ซินดูลลา โดยมีวาเนสซา มาร์แชล กลับมารับบท[53] เส้นเรื่องนี้มีตัวละครหลายตัวที่เกี่ยวข้องกับเธอ ทั้งที่มาจาก เดอะ โคลน วอร์ส และ/หรือ เรเบลส์: โรบิน แอทคิน ดาวนส์ เป็น พ่อของเฮรา ชาม, เบอร์ทัน เป็น โกบี กลี, ฟีล ลามาร์ เป็น ออร์น ฟรี ทา, และฟิโลนี เป็นดรอยด์ของเฮรา ช็อปเปอร์ ซึ่งโผล่ในเครดิตว่าเล่นเป็น "ตัวเขาเอง" และแม่ของเฮรา เอเลนี ผู้เคยถูกกล่าวถึงแค่ใน เรเบลส์ ปรากฏตัวครั้งแรกใน ทีมโคตรโคลนมหากาฬ พากย์เสียงโดยเฟเรลิธ ยัง[51][54] นอกจากนี้ยังมีตัวละครที่ปรากฏตัวครั้งแรกในซีซันนี้อีก ได้แก่ โนเชียร์ ดาลาล รับบทเป็น พลเรือโทแรมพาร์ท และเรีย เพิร์ลแมน รับบทเป็น ซิด[31]
ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2022 แวนดา ไซกส์ ได้เปิดเผยว่าเธอได้รับคัดเลือกให้เป็นนักแสดงสมทบรับบท ฟี เจนัว ในซีซัน 2[35] ซีซันนี้ยังมีการปรากฏตัวครั้งแรกของ จิมมิ ซิมสัน รับบท ดร. เฮมล็อก ผู้เข้ามาแทนแรมพาร์ทในการเป็นตัวร้ายหลักของแอนิเมชันชุดนี้[36] นักแสดงรับเชิญที่กลับมาจาก เดอะ โคลน วอร์ส ในซีซัน 2 ได้แก่ สแตนตัน ในบทของ เมส อาเมดดา,[32] เจนนิเฟอร์ เฮล ในบทของ ไรโย ชูชี,[33] ลามาร์ ในบทของ เบล ออร์กานา,[32] และจามีลาห์ แม็คมิลแลน ในบทของ เฮลล์ เบอร์โทนี[56] นอกจากนี้ซีซันนี้ยังมีนักแสดงสมทบหลายคนจากภาพยนตร์ โร้ค วัน: ตำนานสตาร์ วอร์ส (ค.ศ. 2016): ชารอน ดันแคน-บรูว์สเตอร์ เป็น ทินนรา พามโล,[55] แอนดี เดอ ลา ทูร์ เป็น เฮิร์สท์ โรโมดี, และ เบน เมนเดลโซห์น เป็น ออร์ซัน เครนนิก[26] สำหรับซีซัน 3 ฟัตเทอร์แมนกลับมารับบทเป็นตัวละครจาก เดอะ โคลน วอร์ส อาซาจ เวนเทรส[45]
Remove ads
ดนตรี
สรุป
มุมมอง
เควิน ไคเนอร์ได้รับการยืนยันว่าจะประพันธ์เพลงประกอบสำหรับแอนิเมชันชุดนี้ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2021 หลังจากที่เคยประพันธ์เพลงประกอบสำหรับ เดอะ โคลน วอร์ส และ เรเบลส์[73] เขาแต่ง ธีมของทีมโคตรโคลนมหากาฬ สำหรับซีซันสุดท้ายของ เดอะ โคลน วอร์ส[74] และอธิบายเพลงของเขาสำหรับ ทีมโคตรโคลนมหากาฬ ว่าถือเป็นวิวัฒนาการจากเพลงก่อนหน้าโดยใช้การผสมเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และองค์ประกอบของออเคสตราเข้าไป ไคเนอร์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแพลงประกอบภาพยนตร์ ป้อมปืนนาวาโรน (ค.ศ. 1961) และ 12 เดนตาย (ค.ศ. 1967) ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้นั้นมีกลุ่มของตัวละครที่คล้ายคลึงกับ ทีมโคตรโ๕ลนมหากาฬ[73]
เพลงประกอบของไคเนอร์สำหรับซีซันแรกนั้นได้รับการเผยแพร่ในรูปแบบดิจิทัลโดยวอลต์ดิสนีย์เรคอร์ดส์ ในรูปแบบสองชุด โดยมีเพลงจากแปดตอนแรกเผยแพร่วันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2021 และเพลงจากแปดตอนหลังเผยแพร่วันที่ 20 สิงหาคม เพลงหนึ่งจากซีซันแรก ชื่อ "Enter the Bad Batch" นั้นได้เผยเพร่เป็นซิงเกิลในรูปแบบดิจิตัลในวันที่ 13 พฤษภาคม[75] เพลงสำหรับซีซันสองของ ทีมโคตรโคลนมหากาฬ นั้นเผยแพร่ในรูปแบบกำหนดการที่คล้ายกับเพลงประกอบในซีซันแรก โดยมีเพลงจากแปดตอนแรกเผยแพร่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023[76] และเพลงจากแปดตอนหลังเผยแพร่วันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 2023[77] เพลงสำหรับซีซันสามซึ่งเป็นซีซันสุดท้ายเผยแพร่ในรูปแบบสองชุด โดยมีเพลงจากแปดตอนแรกเผยแพร่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2024[78] และเพลงจากเจ็ดตอนหลังนั้นคาดการณ์ว่าจะเผยแพร่ในช่วงเดือนพฤษภาคม[79]
Remove ads
การตลาด
ประธานลูคัสฟิล์ม เคธลีน เคนเนดี โปรโมตแอนิเมชันชุดนี้ที่งานดิสนีย์ส อินเวสเตอร์เดย์ ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2020 โดยเปิดเผยตัวอย่างแรกสำหรับแอนิเมชันชุดนี้ เจคอบ ออลเลอร์จาก Syfy Wire รู้สึกว่าตัวอย่างนี้นั้นทำให้แอนิเมชันชุดนี้ดูเหมือน เดอะ โคลน วอร์ส ในรูปแบบที่หนักไปทางโลดโผนมากกว่า และเปรียบเทียบแอนิเมชันชุดนี้กับละครโทรทัศน์ช่วงทศวรรษที่ 1980 ชื่อ หน่วยพิฆาตเดนตาย[8] ก่อนที่จะมีการเผยแพร่รอบปฐมทัศน์ ตัวละครจากแอนิเมชันชุดนี้ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในเกมเล่นตามบทบาท สตาร์ วอร์ส: กาแลกซีออฟฮีโร่ส์ ในรูปแบบตัวละครที่สามารถปลดล็อกและเล่นได้[80]
Remove ads
การเผยแพร่
สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ เผยแพร่รอบปฐมทัศน์บนดิสนีย์+ ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 ซึ่งเป็นวันสตาร์ วอร์ส[81] โดยเป็นตอนพิเศษที่มีความยาว 70 นาที[14] ตอนอื่น ๆ ที่เหลืออีกสิบหกตอนของซีซันแรกนั้นเผยแพร่จนถึงวันที่ 13 สิงหาคม[14][28] ซีซันสองซึ่งมีสอบหกตอนนั้นเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม จนถึง 29 มีนาคม ค.ศ. 2023[82][35] หลังจากที่เคยมีการคาดการณ์ว่าจะเผยแพร่ตอนแรกในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2022[83] ซีซันสุดท้ายซึ่งมีสิบห้าตอนเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ จนถึง 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2024[84]
Remove ads
การตอบรับ
สรุป
มุมมอง
การรับชมของผู้ชม
ตามแอปติดตามการรับชมของวิปมีเดีย ทีวีไทม์ สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ เป็นละครโทรทัศน์ที่ผู้คนตั้งหน้าตั้งตารอมากที่สุดเป็นอันดับแรกในช่วงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2021[85] และเป็นละครโทรทัศน์ที่ผู้คนตั้งหน้าตั้งตารอมากที่สุดเป็นอันดับที่สี่ในช่วงเดือนกันยายน ค.ศ. 2022[86] ตามนีลเซน สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ เป็นละครชุดดังเดิมที่ได้รับการสตรีมมากที่สุดเป็นอันดับที่เจ็ดตลอดทุกแพลตฟอร์ม ในระหว่างช่วงสัปดาห์ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2021 จนถึง 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2021[87][88]
ตามแอปติดตามการรับชมของวิปมีเดีย ทีวีไทม์ สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ เป็นละครชุดดั้งเดิมที่ได้รับการสตรีมมากที่สุดเป็นอันดับที่สามตลอดทุกแพลตฟอร์ม ในระหว่างช่วงสัปดาห์ 8 มกราคม ค.ศ. 2023,[89] 15 มกราคม ค.ศ. 2023,[90] 22 มกราคม ค.ศ. 2023,[91] 29 มกราคม ค.ศ. 2023,[92] 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023,[93] เป็นอันดับที่ห้าในช่วงสัปดาห์ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023[94], 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023,[95] เป็นอันดับที่หกในช่วงสัปดาห์ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023,[96] เป็นอันดับที่เจ็ดในช่วงสัปดาห์ 5 มีนาคม ค.ศ. 2023,[97] เป็นอันดับที่หกในช่วงสัปดาห์ 12 มีนาคม ค.ศ. 2023,[98] เป็นอันดับที่เจ็ดในช่วงสัปดาห์ 19 มีนาคม ค.ศ. 2023,[99] เป็นอันดับที่หกในช่วงสัปดาห์ 26 มีนาคม ค.ศ. 2023,[100] และเป็นอันดับที่ห้าในช่วงสัปดาห์ 2 เมษายน ค.ศ. 2023[101]
การวิพากษ์วิจารณ์
เว็บไซต์รวบรวมคำวิจารณ์ รอตเทนโทเมโทส์ ซีซันแรกได้รับคะแนนความนิยม 86% โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.3/10 ยึดจากบทวิจารณ์จากนักวิจารณ์ 92 บทความสำหรับซีซันแรก ความเห็นร่วมกันของนักวิจารณ์บนเว็บไซต์นั้นระบุไว้ว่า "แอนิเมชันการผจญภัยที่แสนสวยงามของ ทีมโคตรโคลนมหากาฬ อาจจะเน้นไปทางตำนานของ สตาร์ วอร์ส สำหรับผู้ชมทั่วไป แต่สำหรับแฟน ๆ นั้น จะเพลิดเพลินไปกับการดำลึกเข้าไปในตัวละครเหล่านี้"[102] บนเมทาคริติก ซีซันแรกนี้ได้รับคะแนนเฉลี่ยเมื่อถ่วงน้ำหนักแล้วอยู่ที่ 67 จาก 100 ยึดตามบทวิจารณ์จากนักวิจารณ์ 9 บทความซึ่งระบุว่า "บทวิจารณ์โดยทั่วไปเป็นที่ชื่นชอบ"[103] ซีซันสองได้รับคะแนนความนิยม 90% บนรอตเทนโทเมโทส์ โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 7.2/10 ยึดจากบทวิจารณ์จากนักวิจารณ์ 21 บทความสำหรับซีซันแรก ความเห็นร่วมกันของนักวิจารณ์บนเว็บไซต์นั้นระบุไว้ว่า "ชุดที่สองของ ทีมโคตรโคลนมหากาฬ นั้นยังคงรักษาความดีและความชั่วเหมือนซีซันแรกได้: การผจญภัยของ สตาร์ วอร์ส ที่ยอดเยี่ยม และมุ่งไปที่แฟน ๆ ตัวยงแลกกับผู้ชมทั่วไป"[104] ซีซันสามได้รับคะแนนความนิยม 87% บนรอตเทนโทเมโทส์ โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 8.0/10 ยึดจากบทวิจารณ์ 15 บทความ ความเห็นร่วมกันของนักวิจารณ์บนเว็บไซต์นั้นระบุไว้ว่า "การระดมส่งเสียงไชโยครั้งสุดท้ายพร้อมด้วยอีสเตอร์เอกมากมายและการโลดโผนที่เร้าใจที่ยังคงอยู่ในคลัง ทีมโคตรโคลนมหากาฬ นั้นจบลงด้วยดี"[105] บนเมทาคริติก ซีซันสามได้รับคะแนน 68 จาก 100 ยึดตามบทวิจารณ์จากนักวิจารณ์ 4 บทความ ซึ่งระบุว่า "บทวิจารณ์โดยทั่วไปเป็นที่ชื่นชอบ"[106]
โจล เคลเลอร์จาก ดีไซเดอร์ เรียกแอนิเมชันชุดนี้ว่าเป็นภาคแยกที่ "คู่ควร" ของ สตาร์ วอร์ส: เดอะ โคลน วอร์ส และชื่นชมการแนะนำตัวโอเมก้าในการเป็นตัวละครหญิงหลัก โดยเขียนไว้ว่า "สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ น่าจะทำให้แฟน ๆ สงครามโคลนนั้นพึงพอใจ และให้แฟน ๆ ของแฟรนไชส์เห็นว่าอะไรเกิดขึ้นบ้างในช่วงต้นของจักรวรรดิ"[107] โจชัว ริเวราจาก โพลีกอน ให้บทวิจารณ์ทางบวกแก่รายการนี้ และกล่าวว่า "ไตรภาคต้นนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นไปได้มากมายดังเช่นในไตรภาคเดิมของ สตาร์ วอร์ส และ ทีมโคตรโคลนมหากาฬ นั้นก็มีหน้าที่เดินเรื่องอย่างช้า ๆ และระมัดระวัง เพื่อให้สามารถดึงความเป็นไปได้เหล่านั้นออกมา ดั่งเช่นที่ เดอะ โคลน วอร์ส เคยทำไว้"[108] เวนเลย มา จาก News.com.au ให้บทวิจารณ์ทางบวกแก่รายการนี้ และกล่าวว่า "สตาร์ วอร์ส: ทีมโคตรโคลนมหากาฬ นั้นเป็นเหมือนหญ้าแมวสำหรับแฟน ๆ สตาร์ วอร์ส ที่ทุ่มเท โดยแอนิเมชันชุดนี้นั้นเป็นแอนิเมชันชุดแนวโลดโผน-ผจญภัยที่มีทั้งความตื่นเต้นเร้าใจ มีตัวละครที่สามารถเชื่อมโยงได้และอยู่ฝั่งที่ถูกของสงคราม มีปืนบลาสเตอร์ และเรื่องเกี่ยวกับตำนานและอีสเตอร์เอกมากพอที่จะทำให้สามารถกรี๊ดด้วยความตื่นเต้นได้"[109]
วินเซนต์ ชิลลิงจาก อินเดียนคันทรีทูเดย์ ให้รายการนี้ 8.5 จาก 10 ดาว และกล่าวว่า "ผมไม่ใช่ซุปเปอร์แฟนของแอนิเมชันชุดของ สตาร์ วอร์ส แต่ผมประทับใจกับเรื่องนี้ โดยกลุ่มของข้อตำหนิที่ได้รับการอนุมติ ที่แต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกัน เป็นสูตรที่ชนะใจผมมาก – ดีเยี่ยมซะด้วยซ้ำไป"[110] เจสซี ชาดีนจาก ไอจีเอ็น ให้ตอนปฐมทัศน์ 8 จาก 10 และกล่าวว่าแอนิเมชันชุดนี้นั้นเป็น "ผู้สืบทอดของ เดอะ โคลน วอร์ส ที่คู่ควร มากขนาดขั้นที่ว่าเรื่องนี้อาจถูกรีแบรนด์ให้เป็นซีซันที่แปดได้เลย" และ "เรื่องนี้ใช้ประโยชน์จากการที่เรื่องนั้นจบลงแบบหลวม ๆ เพื่อสร้างเรื่องราวใหม่เกี่ยวกับสภาพของโคลนหลังจากที่สงครามจบ และมันเป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาได้ในทันที" เขายังเพิ่มเติมว่ารายการนี้ "เก็บหลายสิ่งที่ทำให้ เดอะ โคลน วอร์ส นั้นดีมาก (เช่นรูปแบบแอนิเมชันที่ยอดเยี่ยม และความสามารถในการพากย์เสียงของเบเกอร์) แต่ก็ไม่ได้ทำให้รายการนี้หลุดพ้นของของติต่าง ๆ เช่นกัน"[111] จูเลียน ไลเติลจาก idobi.com ให้แอนิเมชันชุดนี้ 8 จาก 10 ดาวและระบุว่า "ทีมโคตรโคลนมหากาฬ นั้นรู้สึกคุ้นเคยแต่ก็เป็นการเริ่มการผจญภัยใหม่ พร้อมด้วยตัวละครใหม่ ๆ ในพื้นหลังที่เจ๋ง ฉันรอไม่ไหวที่จะได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับกลุ่มนี้ในจักรวรรดิ"[112] มาร์ตี บราวน์จาก คอมมอนเซนส์มีเดีย ให้รายการนี้ 4 จาก 5 ดาวพร้อมกับจำแนกภาพยนตร์เป็นช่วงอายุ '10+' โดยระบุว่า "แอนิเมชันชุดนี้มอบสิ่งที่แฟน ๆ น่าจะคาดหวังจากเรื่องราวของ สตาร์ วอร์ส อย่างละเอียด: การวางพล็อต, ตัวละครใหม่ที่โดดเด่น, และฉากโลดโผนที่ยิ่งใหญ๋ พร้อมด้วยเรื่องศีลธรรมเป็นแกนกลาง"[113]
โจนาธาน โรเบิร์ตส์จาก เดอะนิวเปเปอร์ ให้รายการนี้ 2.5 จาก 5 ดาว และระบุว่า "ทีมโคตรโคลนมหากาฬ นั้นเหมาะที่จะดู แต่อาจจะหนักไปสำหรับผู้ชมบางคน"[114] นิฟ เอ็ม. ซุลทานจาก สแลนต์แมกาซีน ให้รายการนี้ 1.5 จาก 4 ดาว และระบุว่า "ความพยายามของรายการนี้ในการทำให้ตัวละครหลักแต่ละตัวแตกต่างกันนั้นทำให้พวกเขาเดาทางได้ง่ายดายและซ้ำซาก"[115]
คิมเบอร์ลี เทราซากิจาก เดอะแมรีซู เป็นห่วงว่าแอนิเมชันชุดนี้จะทำให้โคลนทรูปเปอร์นั้นกลายเป็น "ผิวขาว" โดยเขียนว่า "งานออกแบบของบางตัวละครนั้นดูเหมือนจะทำให้หลาย ๆ คนนั้นดูจะผิวอ่อนลง และ/หรือ มีลักษณะของคนเชื้อชาติยุโรป...โดยสรุปคือ: โคลนของตัวละครที่เล่นโดยชาวเมารีกลายเป็นตัวละครผิวขาว" เรื่องนี้ก็ได้รับการสังเกตโดยเแฟน ๆ เช่นกัน ทำให้เกิดเพจทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และแคมเปญใน เชนจ์.โออาร์จี[116] เพื่อตอบกลับเรื่องนี้ ผู้กำกับดูแล แบรด ราว บอกว่าทีมแอนิเมชันนั้นได้กลับยังตอนที่สร้างเสร็จแล้วและปรับผิวสีของโคลนให้ใกล้เคียงกับของเทมูเอรา มอร์ริสัน ขึ้น[117]
รายการนี้ได้รับเสียงชื่นชมเรื่องมีตัวละครที่เป็นตัวแทนของผู้พิการ เอมิลี สมิธจาก เรดีโอไทมส์ ชี้ว่าก่อนที่จะมี ทีมโคตรโคลนมหากาฬ ตัวละครที่พิการส่วนใหญ่ในจักรวาล สตาร์ วอร์ส นั้นเกี่ยวข้องกับด้านลบ เช่นตัวร้าย ดาร์ธ เวเดอร์ และดาร์ธ มอล ซึ่งพิการหลังจากการต่อสู้ ตัวละครอื่น ๆ เช่น ลุค สกายวอล์คเกอร์ และเคนัน จาร์รัส ได้รับผลกระทบทางลบหลังจากได้รับบาดเจ็บจากการสู้กับตัวร้าย กลับกัน ตัวละครดั้งเดิมทั้งสี่คนจาก ทีมโคตรโคลนมหากาฬ นั้นเกิดมาพร้อมกับความพิการ ซึ่งสมิธเรียกว่าการปลดปล่อยความพิการออกจากความหมายแฝงใด ๆ[118] โจชัว แพตทอนจาก ซีบีอาร์ ชมรายการนี้เรื่องการแสดงบทพูดที่ดูเป็นมิตรต่อเด็กเกี่ยวกับความหลากหลายทางประสาท โดยเน้นคำพูดจากเทคในซีซันสอง ตอนที่เก้า "ข้าอาจจะทำตัวและคิดต่างไปในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้แปลว่าข้ารู้สึกถึงมันน้อยกว่าเจ้า"[119]
รางวัล
ซีซันแรกเป็นหนึ่งใน 200 ซีรีส์โทรทัศน์ที่ได้รับรีเฟรมสแตมป์สำหรับปี ค.ศ. 2021 ถึง 2022 สแตมป์นี้ได้รับจากแนวร่วมความเท่าเทียมทางเพศ รีเฟรม และฐานข้อมูลอุตสาหกรรม อินเทอร์เน็ตมูวีเดตาเบสโปร สำหรับโปรเจ็กต์ภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่ได้รับการยืนยันว่ามีจ้างงานที่เท่าเทียมทางเพศ เนื่องด้วยสแตมป์นี้มอบให้แก่โปรเจ็กต์ต่าง ๆ ที่จ้างคนที่ระบุเพศตอนเองว่าเป็นเพศหญิง โดยเฉพาะหญิงผิวสี โดยมีถึงสี่ในแปดบทบาทสำคัญในงานสร้างของพวกเธอ[120]
Remove ads
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads