คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ชื่อเล่น: ต้อย) เป็นนักธุรกิจด้านสื่อและนักเคลื่อนไหวการเมืองชาวไทย หนึ่งในแกนนำคนสำคัญของ กปปส.[1] ก่อตั้งสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น., สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน, ทีนิวส์[2], ท็อปนิวส์ และสถาบันทิศทางไทย
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม มีชื่อเดิมว่า สนธิญาณ หนูแก้ว[1] ชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างมีความลำบากอยู่พอสมควรเนื่องจากถูกพ่อแม่ทิ้งแต่แต่เล็ก โดยเขาได้อยู่กับยายและผู้เป็นลุงที่เลี้ยงดูและส่งเสียเรียนหนังสือจนจบมัธยมปลาย แต่เอ็นทรานซ์ไม่ติดเลยไปเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงจนจบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ระหว่างศึกษาเขาก็กลายเป็นนักกิจกรรมตัวยงของมหาวิทยาลัย เขาเริ่มทำงานเป็นนักข่าวที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกไทยทีวีสีช่อง 3 อสมท ททบ. ในปี พ.ศ. 2529 ก่อนที่จะออกมาในตำแหน่งบรรณาธิการบริหาร[ต้องการอ้างอิง] และจากนั้นได้จัดตั้งสำนักข่าวไอ เอ็น เอ็น ร่วมกับสมชาย แสวงการ และได้จัดตั้งบริษัท สยามทีวี แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ประมูลโครงการสถานีโทรทัศน์ทีวีเสรี ในฐานะผู้บริหารบริษัทฯ ในเครือของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)[ต้องการอ้างอิง] แต่ต่อมาได้ถอนตัวกลับไปบริหารสำนักข่าว ไอ เอ็น เอ็น ตามเดิม
เขาเคยประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และอีกหลายสาขา จนกระทั่งรู้จักกับบุญชัย เบญจรงคกุล และได้ร่วมเป็นฝ่ายบริหารธุรกิจในเครือยูคอม และดีแทค[ต้องการอ้างอิง] และหลังจากวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 สนธิญาณได้หันมาศึกษาธรรมะอย่างจริงจังกับพระครูเมตตากิตติคุณ (สมหมาย อัตตมโน) วัดป่าสันติกาวาส จังหวัดอุดรธานี จนได้จัดตั้งมูลนิธิชื่นฤทัยในธรรม และสร้างสถานปฏิบัติธรรมชื่นฤทัยในธรรมที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อมากลายเป็นวัดชื่อ วัดป่าพุทธเมตตาศรีธรรมราม[ต้องการอ้างอิง]
ในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2550 สนธิญาณได้ก่อตั้งสำนักข่าวทีนิวส์ (TNews) เพื่อรายงานข่าวผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบบริการสารสั้นเป็นรายแรกของประเทศไทย และได้ก่อตั้ง ทีนิวส์ ทีวี (TNews TV) เป็นสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2553 ซึ่งมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จนประสบความสำเร็จทางธุรกิจได้รับความนิยมเป็นสถานีโทรทัศน์ข่าวผ่านดาวเทียมอันดับที่ 1 จากการวัดอันดับของนิลเส็น[3]
และต่อมาในปี พ.ศ. 2560 สนธิญาณได้รับเชิญจากฉาย บุนนาค ให้เข้ามาร่วมบริหารเครือเนชั่นเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน ทำให้ช่องเนชั่นทีวีได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนกลับมาทำกำไรให้กับช่อง[4] ระหว่างนี้สนธิญาณยังได้ก่อตั้งสถาบันทิศทางไทยขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562[5] แต่เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 สนธิญาณลาออกจากทุกตำแหน่งในเครือเนชั่น[6] เพื่อไปเคลื่อนไหวในสถาบันทิศทางไทย[7] ก่อนที่ในวันที่ 18 ธันวาคม จะก่อตั้ง บริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด และเปิดตัวสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ โดยดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหารด้วยตัวเอง และนำผู้ประกาศข่าวและผู้บริหารที่ลาออกจากเนชั่นทีวีก่อนหน้านี้มาร่วมงานทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา[8] แต่ภายหลัง สนธิญาณมีทิศทางการทำธุรกิจที่ขัดแย้งกับผู้บริหาร ทำให้เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 สนธิญาณได้เขียนจดหมายลาออกจากทุกตำแหน่งในท็อปนิวส์ โดยมีผลในวันที่ 15 พฤศจิกายน[9]
Remove ads
บทบาททางการเมือง
ในปี พ.ศ. 2556 เขาจัดตั้งองค์กร "สันนิบาตประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย"[10]
ในห้วงวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 เขาเข้าร่วมกับ "กลุ่มสยามสามัคคี" มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เป็นแกนนำ กปปส. ลำดับที่สอง รองจาก สุเทพ เทือกสุบรรณ[1] ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวในข้อหาฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน)[11] อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องในคดีเกี่ยวกับ กปปส.[12] แต่เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้เป็นจำคุกสนธิญาณเป็นเวลา 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี[13]
Remove ads
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads