คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา ปกมนตรี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา ปกมนตรี (ราชสกุลเดิม ไชยันต์; 3 กันยายน พ.ศ. 2476 – 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561) [1] เป็นพระธิดาในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย กับหม่อมเจ้าพัฒน์คณนา ไชยันต์
Remove ads
ประวัติ
หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา ปกมนตรี หรือ คุณหญิงแก้มพวง เป็นพระธิดาในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย กับหม่อมเจ้าพัฒน์คณนา ไชยันต์ (ราชสกุลเดิม กิติยากร) ประสูติวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2476 เป็นอดีตรองประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมป์ จบการศึกษาชั้นต้นจากโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ จบชั้นมัธยมจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย แล้วไปศึกษาต่อด้านภาษาและสังคมศึกษาที่ Ahridge House of Citizenship แคว้นเฮิร์ทฟอร์ดไชร์ และวิชาการละครที่Royal Academy of Dramatic Art (RADA) กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ [2]
หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนาสมรสกับวุธจิระ ปกมนตรี[2] มีธิดาคือ อวัสดา ปกมนตรี อดีตผู้ประกาศข่าว ช่อง 9 และกีรดี ปกมนตรี[3] ต่อมาหม่อมราชวงศ์กิติวัฒนาและสามี ได้หย่ากัน[4]
หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา ปกมนตรี ถึงแก่อนิจกรรมด้วยอาการหลอดเลือดสมองตีบ เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2561 สิริอายุ 85 ปี[5] ต่อมาวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2562 เวลา 17.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานเพลิงศพหม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา ปกมนตรี ณ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ในการนี้สมเด็จพระราชาธิบดีเลตซีที่ 3 แห่งเลโซโท และ สมเด็จพระราชินีมาเซเนต โมฮาโต เซเอโซ แห่งราชอาณาจักรเลโซโท เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมพิธีด้วย[6]
Remove ads
การทำงาน
หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนาเริ่มรับราชการที่โรงเรียนนาฏศิลป์ กรมศิลปากร แล้วลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว และทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ ต่อมาในการเลือกตั้ง สส. ปี พ.ศ. 2550 จึงได้เข้ามาทำงานการเมืองโดยการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบสัดส่วน เขต 6 กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน โดยหม่อมราชวงศ์กิติวัฒนา เป็นกลุ่มที่สนับสนุนพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก เป็นนายกรัฐมนตรี ในการลงมติเมื่อปลายปี พ.ศ. 2551[ต้องการอ้างอิง]
ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำตัดสินให้หม่อมราชวงศ์กิติวัฒนาพ้นจากสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากถือครองหุ้นภายหลังจากที่ กกต. ประกาศรับรองสภาพการเป็น สส. แล้ว[7]
Remove ads
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2552 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[8]
- พ.ศ. 2551 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)[9]
- พ.ศ. 2546 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายใน)[10]
ลำดับสาแหรก
Remove ads
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads