คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ฮาเมส โรดริเกซ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ฮาเมส ดาบิด โรดริเกซ รูบิโอ (สเปน: James David Rodríguez Rubio; เกิด 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1991) เป็นนักฟุตบอลชาวโคลอมเบีย ซึ่งเล่นได้ทั้งในตำแหน่งกองกลางตัวรุกและปีก ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสรฟุตบอล ราโย บาเยกาโน่ ใน ลาลิกา และเป็นกัปตันของ ทีมชาติโคลอมเบีย เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นโคลอมเบียที่ดีที่สุดตลอดกาล โดยได้รับการยกย่องในเรื่องเทคนิค วิสัยทัศน์ และทักษะการเล่น เขามักถูกมองว่าเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก การ์โลส บัลเดร์รามา เพื่อนร่วมชาติของเขา[2][3]
ฮาเมสเริ่มต้นอาชีพกับเอนบิกาโดและย้ายไปบันฟิลด์ในอาร์เจนตินา เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในยุโรปช่วงที่เล่นให้กับโปร์ตูซึ่งเขาพาทีมคว้าแชมป์หลายรายการและเขาก็ได้รับรางวัลส่วนตัวตลอดสามปีที่เล่นให้กับสโมสร ใน ค.ศ. 2014 ฮาเมสย้ายจากมอนาโกไปเรอัลมาดริดด้วยค่าตัว 63 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวที่สูงกว่าราดาเมล ฟัลกาโอ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นชาวโคลอมเบียที่มีค่าตัวแพงที่สุดและเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก ณ ตอนนั้น[4] ในฤดูกาลแรกของเขากับสโมสร เขาติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของลาลิกาและได้รับรางวัลกองกลางยอดเยี่ยมของลาลิกา ใน ค.ศ. 2017 เขาถูกปล่อยยืมตัวให้กับไบเอิร์นมิวนิกด้วยสัญญาสองปี ในช่องฤดูร้อนของ ใน ค.ศ. 2020 เขาเซ็นสัญญากับเอฟเวอร์ตัน สโมสรในพรีเมียร์ลีกด้วนการย้ายทีมแบบไม่มีค่าตัว [5] และอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล ก่อนจะย้ายไปไปร่วมทีมอัลรายยานในกาต้าร์และโอลิมเปียกอสที่กรีซ ในปี ค.ศ.2021 และ 2022 ตามลำดับ ในปี ค.ศ.2023 ซึ่งเป็นเวลา 13ปี หลังออกจากทวีปอเมริกาใต้ เขากลับมายังทวีปโดยร่วมทีมเซาเปาโลของบราซิล
ฮาเมสเริ่มเล่นในระดับทีมชาติกับทีมชาติรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี โดยเขาพาทีมชนะเลิศตูลงทัวร์นาเมนต์ 2011 ต่อมา เขาเป็นกัปตันของทีมชาติรุ่นอายุนี้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี 2011 ผลงานของเขาในรายการนี้ ทำให้เขาถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ในวัยเพียง 20 ปี เขาได้เล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ในฟุตบอลโลก 2014 และ 2018 โดยในฟุตบอลโลก 2014 นั้นเอง เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำและถูกรวมในทีมออลสตาร์ของฟุตบอลโลก[6][7] เขายังเป็นตัวแทนของชาติในการแข่งขันโกปาอาเมริกา 2015, โกปาอาเมริกาเซนเตนาริโอ (2016) และโกปาอาเมริกา 2019 และ โกปาอาเมริกา 2024 เขาพาโคลอมเบียจบอันดับที่สามในโกปาอาเมริกาเมื่อ ค.ศ. 2016 และเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในปี ค.ศ. 2024 ซึ่งในปีหลัง เขาได้ร้บรางวัลลูกบอลทองคำในฐานะผู้เล่นที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์
Remove ads
สโมสรอาชีพ
สรุป
มุมมอง
ฮาเมส โรดริเกซ เกิดที่เมืองกูกูตา ประเทศโคลอมเบีย เป็นบุตรชายของวิลซอน ฮาเมส โรดริเกซ เบดอญญา และมาริอา เดล ปิลาร์ รูบิโอ ชื่อ "ฮาเมส" หรือ "เจมส์" ตามการอ่านออกเสียงแบบสำเนียงอังกฤษ มาจากชื่อเจมส์ บอนด์
โรดริเกซมีแรงบันดาลใจที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลจากเหตุการณ์ที่อันเดรส เอสโกบาร์ กองหลังของทีมชาติโคลอมเบียที่ทำเข้าประตูตัวเองในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา ทำให้โคลอมเบียที่ถูกจัดให้หนึ่งในทีมเต็งทีมหนึ่งต้องตกรอบแรก และเมื่อกลับไปที่โคลอมเบีย เอสโกบาร์ก็ถูกยิงเสียชีวิตจากคำสั่งของนักค้ายาเสพติดที่เสียเงินพนัน
โรดริเกซเริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรเอนบิกาโดในโคลอมเบีย และย้ายไปที่อาร์เจนตินากับสโมสรบันฟิลด์ ในปี ค.ศ. 2006 พร้อมทำสถิติเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่อายุน้อยที่สุดในอาร์เจนตินา ก่อนจะย้ายมาที่ทวีปยุโรปในประเทศโปรตุเกสกับสโมสรโปร์ตู ด้วยค่าตัว 2.1 ล้านยูโรในปีถัดมา ซึ่งโรดริเกซคว้าแชมป์ลีกกับโปร์ตู 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ด้วยวัยเพียงแค่ 21 ปี
ต่อมาได้ย้ายไปอยู่กับอาแอ็ส มอนาโก ในลีกเอิงของฝรั่งเศส ด้วยค่าตัวแพงถึง 45 ล้านยูโร ในช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 2013 ทำให้โรดริเกซลกายเป็นนักฟุตบอลโคลอมเบียที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ รองจากราดาเมล ฟัลกาโอ โดยในมอนาโก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แชมป์ แต่โรดริเกซก็สามารถแสดงผลงานได้อย่างดีเยี่ยม
ฮาเมส โรดริเกซ เคยมีปัญหาอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าในนัดที่เรอัลมาดริดชนะเซบิยา 2-1 ซึ่งใช้เวลา 2 เดือนในการรักษา จนเขาสามารถลงเล่นในนัดที่เรอัลมาดริดถล่มกรานาดาไป 9-1
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เอฟเวอร์ตัน
ฮาเมสย้ายร่วมเอฟเวอร์ตันในพรีเมียร์ลีกในเดือนกันยายน ค.ศ. 2020 ด้วยสัญญาสองปีและมีตัวเลือกในการเพิ่มฤดูกาลที่สาม[8][9][10] การย้ายตัวครั้งนี้ทำให้เขาได้กลับมาร่วมงานอีกครั้งกับผู้จัดการทีมอย่างการ์โล อันเชลอตตี[11] เขาลงเล่นนัดแรกในเดือนเดียวกันในนัดที่บุกเอาชนะทอตนัมฮอตสเปอร์ 1–0 ในนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020–21[12]
ฮาเมสทำประตูและแอสซิสต์แรกในลีกช่วยให้เอฟเวอร์ตันเปิดบ้านเอาชนะเวสต์บรอมมิชอัลเบียน 5–2 เมื่อวันที่ 19 กันยายน[13]
Remove ads
ทีมชาติ
ในฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล เป็นเจ้าภาพ ฮาเมส โรดริเกซ แสดงผลงานได้อย่างโดดเด่นมาก โดยเป็นนักฟุตบอลแรกคนแรกที่ยิงประตูได้ทุกนัดที่ลงแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายติดต่อกันถึง 4 นัด นับจากกริสเตียน วีเอรี ของอิตาลี ทำได้ในฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกยิงในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่โคลอมเบียเอาชนะอุรุกวัยไปได้ 2-0 โดยโรดริเกซกลับตัวยิงด้วยเท้าซ้ายแบบวอลเลย์ ลูกฟุตบอลย้อยเสียบใต้คานเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ลูกนี้ทำให้ได้รับคำชมอย่างมาก และต่อมาได้รับการเลือกจากแฟนฟุตบอลให้เป็นลูกที่สวยที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ นอกจากนี้ประตูดังกล่าวยังได้รับรางวัล FIFA Puskas Award 2014 อีกด้วย[14]
หลังจบฟุตบอลโลก 2014 แล้ว โรดริเกซได้ย้ายไปเรอัลมาดริด ในลาลิกา ของสเปน ด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ โดยได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ซึ่งเป็นหมายเลขเก่าของเมซุท เออซิล[15]
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
Remove ads
ชีวิตส่วนตัว
ในปี ค.ศ. 2015 นิตยสาร Forbes ประมาณการว่ารายได้ประจำาปีของฮาเมส อยู่ที่ 29ล้านเหรียญสหรัฐ [16] ฮาเมส โรดริเกซ ได้สมรสกับดานิเอลา โอสปินา ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของดาบิด โอสปินา ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมชาติโคลอมเบีย โดยทั้งคู่สมรสกันตั้งแต่ ค.ศ. 2011 และทั้งสองมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน มีชื่อว่า ซาโลเม เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2013[17] เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2017 มีการประกาศว่าฮาเมสและดาเนียลาทั้งคู่อยู่ในขั้นตอนการหย่าร้าง [18] และเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ฮาเมสได้ลูกชายคนแรกและลูกคนที่สองของเขา มีชื่อว่า ซามูเอล โดยเกิดจากการอุ้มบุญ ไปรับอุ้มบุญที่เมืองเมเดยิน[19]
เกียรติประวัติ
สรุป
มุมมอง
เอนบิกาโด
- กาเตโกริอาปริเมรา เบ: 2007[22]
บันฟิลด์
- ปริเมราดิบิซิออน: อาเปอร์ตูรา 2009[23]
โปร์ตู
- ปรีไมราลีกา: 2010–11, 2011–12, 2012–13[24]
- Taça de Portugal: 2010–11[24]
- Supertaça Cândido de Oliveira: 2012[24]
- ยูฟ่ายูโรปาลีก: 2010–11[24]
เรอัลมาดริด[25]
- ลาลิกา: 2016–17, 2019–20[26]
- ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา: 2019–20[27]
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2015–16, 2016–17
- ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2014, 2016
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก: 2014, 2016
ไบเอิร์นมิวนิก[25]
โคลอมเบีย
- โกปาอาเมริกา อันดับที่สาม: 2016
รางวัลส่วนตัว
- แอสซิสต์สูงสุดในฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี: 2011[28]
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมของตูลงทัวร์นาเมนต์: 2011[29]
- ผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปีของปรีไมราลีกา: 2011–12[30]
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของปรีไมราลีกา: สิงหาคม 2012, กันยายน 2012[31]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของเรคอร์ด: 2012[32]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของอูฌูกู: 2012, 2013[33][34]
- ลูกบอลทองคำโปรตุเกส: 2012
- แอสซิสต์สูงสุดในลีกเอิง: 2013–14[35]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเอิง: 2013–14[36]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของอาแอ็ส มอนาโก: 2013–14[37]
- รองเท้าทองคำฟุตบอลโลก: 2014[38]
- ทีมออลสตาร์ฟุตบอลโลก: 2014[7]
- ทีมในฝันฟุตบอลโลก: 2014[39]
- ประตูยอดเยี่ยมในฟุตบอลโลก: 2014[40]
- ฟีฟ่าปุสกัส: 2014[41]
- เพลย์เมกเกอร์ยอดเยี่ยมของโลกโดย IFFHS เหรียญทองแดง: 2014 [42]
- ทีมฟิฟโปรเวิลด์ ทีมที่ 4: 2014, 2015[43][44]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของลาลิกา: 2014–15[45]
- กองกลางยอดเยี่ยมของลาลิกา: 2014–15[46]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า: 2015
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2017–18[47]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของบุนเดิสลีกา: 2017–18[48]
- ประตูยอดเยี่ยมเฟซบุ๊คลาลิกา: 2016[49]
- แอสซิสต์สูงสุดในโกปาเดลเรย์: 2016–17[50]
- ปะการังสายพันธุ์ใหม่ Paragorgia jamesi ตั้งชื่อตามเขา[51]
- ทีมยอดเยี่ยมในโกปาอาเมริกา: 2019[52]
Remove ads
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads