คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

เจิ้ง หัวเชียน

นักแสดงและพรีเซนเตอร์ชาวฮ่องกง จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เจิ้ง หัวเชียน
Remove ads

"เจิง หัวเชี่ยน" (จีน:曾華倩) มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "มาร์กี้ เจิง" (Margie Tsang) เป็นอดีตนักแสดงหญิงยอดนิยมชาวฮ่องกง ที่เคยเป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งในฮ่องกง, ไต้หวัน, มาเลเซีย, และไทย อีกทั้งช่วงโด่งดังเคยเป็นอดีตแฟนของพระเอกชื่อดัง เหลียงเฉาเหว่ย อีกด้วย

ข้อมูลเบื้องต้น เจิง หัวเชี่ยน, สารนิเทศภูมิหลัง ...

ในช่วงที่เธอมีชื่อเสียงและได้รับความนิยม ด้วยความที่เธอสามารถเล่นบทบาทได้หลากหลายทั้งบทซุกซนแก่นแก้วน่ารักแบบ องเหม่ยหลิง หรือบทเย็นชานิ่งเฉย แบบ เฉินอวี้เหลียน และบทสาวสมัยใหม่แบบ จางม่านอวี้ ทำให้เธอได้รับการส่งเสริมผลักดันจากทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเป็นอย่างมาก ในช่วงที่เธออยู่กับทีวีบี (ค.ศ. 1983-1988) เธอมีผลงานละครมากมายกับทีวีบี เฉียด 30 เรื่อง ซึ่งมากกว่านักแสดงหญิงคนอื่น ๆ (ในช่วงเวลาเดียวกัน) รุ่นเดียวกันกับเธอ

เจิงหัวเชี่ยน มีผลงานละครที่ได้รับความนิยมมากมายหลายเรื่องด้วยกัน แต่บทบาทของเธอที่แฟน ๆ ละครชุดฮ่องกงจดจำได้มากที่สุด คือบท "เยี่ยเข่อหยี่" ในเรื่อง ขวัญใจโปลิศ ภาค 2 และบท "จางซุนอู๋โฮ้ว" ในเรื่อง "ศึกลำน้ำเลือด"

Remove ads

ประวัติ

สรุป
มุมมอง

เจิ้งหัวเชี่ยน เกิดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2508 ในครอบครัวที่ร่ำรวย มีพี่ชาย 2 คนและพี่สาว 1 คน พ่อของเธอเป็นแพทย์ตะวันตก และเปิดคลินิก แม่ของเธอเป็นแม่บ้าน เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมศึกษา Cuihua English College เนื่องจากผลการเรียนของเธอเป็นที่น่าพอใจพ่อของเธอจึงหวังว่าเมื่อเธอเรียนจบจะได้สืบทอดอาชีพเป็นหมอหญิงได้ แต่เธอกลับไม่มีความสนใจที่จะเรียนด้านการแพทย์เลย

ในปีพ.ศ. 2525 ตอนแรก เจิ้ง หัวเชี่ยน ได้มีโครงการว่า หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลายแล้ว จะเดินทางไปศึกษาต่อ ทางด้านแฟชั่นที่ประะเทศญี่ปุ่น แต่ทว่า...หลังจากเรียนจบ เธอกลับตัดสินใจไปกับเพื่อนเพื่อลงทะเบียนเรียนในโรงเรียนสอนการแสดงของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ในรุ่นที่ 12 ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับ หลิวเจียหลิง, อู๋ จวินหยู, หลันเจี๋ยอิง, ซังเทียนเอ๋อ, หลิวชิงหวิน, อู๋ฉีหัว และ เถาต้าหวี่ ตอนเรียนการแสดงเธอสนิทกับ อู๋จวินหยู และหลิวเจียหลิงเป็นอย่างมาก ทำให้พวกเธอกลายมาเป็นเพื่อนรักในเวลาต่อมา เธอเรียนการแสดงอยู่ประมาณหนึ่งปี จนจบหลักสูตรและเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ทันที[1][2][3][4][5][6][7][8][9]

ชีวิตในวงการบันเทิง

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2526 เจิ้งหัวเชี่ยน ซึ่งเข้าร่วมชั้นเรียนฝึกอบรมศิลปินมานานกว่าครึ่งปี ถูกส่งไปยังกลุ่มโปรแกรมรายการสำหรับเด็กเพื่อเป็นพิธีกร

ผลงานชิ้นแรกในวงการบันเทิงของเธอคือ การ เป็นพิธีกรรายการเด็กของ TVB รายการหนึ่ง ชื่อว่า "430 Space Shuttle" ซึ่งในรายการ เธอได้ทำหน้าที่ดำเนินรายการร่วมกับโจวซิงฉือ หลันเจี๋ยอิง ซึ่งรายการนี้ เหลียงเฉาเหว่ย ก็เคยเป็นพิธีกรในรายการมาก่อนเช่นกัน และในระหว่างที่ทำรายการนี้อยู่ เธอได้เริ่มมีงานละครเรื่องแรก ซึ่ง เป็นมินิละครสั้นๆเรื่อง The Nuts เล่นประกบโจวซิงฉือ

ต่อมาในปีพ.ศ. 2528 ทีวีบีได้ย้ายเธอจากพิธีกร ไปอยู่ฝ่ายละคร และให้เธอได้รับบทเด่นเรื่องแรก "จิ้งจอกภูเขาหิมะ" ซึ่งได้ประกบกับ หลี่ เหลี่ยงเหว่ย เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นการแจ้งเกิดของเธอในฐานะนักแสดงอย่างเต็มตัว และได้รับเสียงตอบรับจากผู้ชมเป็นอย่างดี ผลงานถัดมาที่สร้างชื่อให้เธอโด่งดังคือเรื่อง "ขวัญใจโปลิศ ภาค2" ที่เล่นประกบ เหลียงเฉาเหว่ย แฟนของเธอในขณะนั้น ละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และทำให้เธอขึ้นมาเป็นหนึ่ง ในนางเอกแถวหน้าของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ในปีเดียวกันเธอได้ร่วมแสดงในละครเรื่อง "ขุนศึกตระกูลหยาง" (The Yang's Saga) ซึ่งมีดาราดัง ๆ มาร่วมแสดงมากมาย และเธอก็ได้รับบทบาทเป็น "ตู้จินเอ๋อ" เล่นประกบคู่กับ เหลียงเฉาเหว่ย ตามเคย

ในปีพ.ศ. 2529 เธอมีผลงานตลกเรื่อง "เจ้าชายแฝด" (The Twin Heirs) เธอได้มีโอกาสร่วมงานกับ เยิ่นต๊ะหัว อีกครั้ง ในเรื่องนี้เยิ่นต๊ะหัวรับบทเป็นตัวละคร 2 ตัวที่หน้าตาเหมือนกัน และเธอรับบทบาทเป็นน้องสาวของเยิ่นต๊ะหัว นอกจากนั้นยังมีดาราอื่น ที่ร่วมแสดง อาทิเช่น เลี่ยวฉีจื้อ และ เส้า เหม่ยฉี ในปีเดียวกันเธอได้เล่นรับเชิญในบท ก๊วยเซียง ในละครเรื่อง ดาบมังกรหยก ตอน เทพบุตรมังกรฟ้า" ที่มี เหลียง เฉาเหว่ย รับบทเป็น เตียบ่อกี้

ต่อมาในช่วงปีพ.ศ. 2530 ละครฟอร์มใหญ่เรื่อง "ศึกลำน้ำเลือด" ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงในชีวิตการแสดงของเธอ ผลงานเด่นๆ ต่อมาคือเรื่อง กระบี่มังกรหยก นำแสดงโดย เหมียว เฉียวเหว่ย ในเรื่องจะมีนางเอกถึง 3 ภาค ได้แก่ เฉิน ซิ่วเหวิน ชีเหม่ยเจิน และเธอ ในปีเดียวกันละครเรื่อง พลังหนุ่มใจเพชร (The Turbulent Decade) ซึ่งเป็นซีรีส์เรื่องหนึ่งที่ได้รวมเอาดาราที่กำลังมีชื่อเสียงในสมัยนั้นเอาไว้อย่างคับคั่ง อาทิเช่น จางเจ้าฮุย, หลิวเจียหลิง, ชิเหม่ยเจิน จางเหว่ยเจี้ยน และ ซัง เทียนเอ๋อ เป็นผลงานเรื่องแรกที่เจิงหัวเชี่ยนได้แสดงคู่กับ จางเจ้าฮุย และละครเรื่อง "ยอดทรนง" ก็เป็นอีกผลงานที่น่าจดจำของเธอ นำแสดงโดย หลิวชิงหวิน, เฉินหมิ่นเอ๋อ และ โอวหยังเพ่ยซัน [10][11][12][13]

ในช่วงปีพ.ศ. 2531-2532 ละครเด่น ๆ ในช่วงนี้ คือเรื่อง "นักสู้ผู้พิทักษ์ ภาค3"(Police Cadet III) มีดาราสาว เติ้ง ชุ่ยเหวิน ร่วมแสดงเป็นตัวเอกส่วนเธอออกไม่กี่ฉากก็ตายสาเหตุที่ข่าวซุบซิบคือในช่วงนั้นเหลียงเฉาเหว่ยกับเธอได้เลิกรากันไปแล้วทางผู้เขียนบทเลยเขียนให้ตัวละคนที่เธอแสดงเสียชีวิตในเรื่องเพราะทั้งสองไม่อยากร่วมงานกัน ต่อมาละครเรื่อง "อิทธิฤทธิ์เจ้ายุทธภพ" ที่มี โจว ไห่เม่ย และ กัวจิ้นอัน ร่วมแสดง ต่อมาในปีพ.ศ. 2532 เป็นปีทองของเธอ เธอมีผลงานดัง ๆ และเรตติ้งสูง อยู่หลายเรื่อง อาทิเช่น เรื่อง "พี่น้องตระกูลโหด" นำแสดงโดย หลี่ เหลียงเหว่ย, หลิว เจียหลิง และ หลินจุ้นเสีย ถัดมาเรื่อง "ครอบครัวอลเวง" ที่มีเรตติ้งสูงอย่างมากในฮ่องกงของปีนั้น มีดาราชั้นนำร่วมแสดงมากมาย อาทิเช่น อู๋เจิ้นยี่, หลีหวั่นหัว, จางเจ้าฮุย และ กวนหลี่เจี๋ย นอกจากนั้นยังมีละครเด่น ๆ หลายเรื่องทั้งเรื่อง "เกิดมาเฮง" เป็นการร่วมงานครั้งแรกระหว่างเธอกับ เหวินเจ้าหลุน, ประชันบทบาทกับ เฉินหมิ่นเอ๋อ ในเรื่อง "เลือดรัก เลือดแค้น" (Forever Once in a Lifetime), "จอมดาบฟ้าคำรณ" ร่วมแสดงกับ "หลอ เจียเหลียง" และ เรื่อง "ดาบจอมภพ" ที่มี อู๋ไต้หย่ง, เซียะหนิง และ เหลียง เพ่ยหลิง ร่วมแสดง ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างดี .[14][15]

ช่วงปีพ.ศ. 2533-2534 เป็นช่วงท้าย ๆ ที่เธอเล่นละครให้กับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี ก่อนที่จะหันไปเล่นละครให้กับ คู่แข่งอย่าง สถานีโทรทัศน์เอทีวี ถึงแม้ว่าละครช่วงหลัง ๆ ของเธอมักจะได้รับบทเป็นตลก สลับ กับบทดราม่าหนักๆ แต่เธอก็สามารถเล่น บทบาทดังกล่าว ออกมาได้ดี เป็นช่วงที่เธอแสดงฝีมือการแสดงออกมาชัดเจน แต่ทว่าเรตติ้งกลับไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก อาทิเช่นละครตลกเรื่อง "ฟ้าสั่งให้รวย" เล่นคู่ กัวจิ้นอัน, ละครชีวิตเรื่อง "ชีวิตมืด" เป็นการพลิกบทบาทมารับบทดราม่า สาวเรียบร้อยผู้ทรนงและเย็นชา ร่วมแสดงกับ อู๋เจิ้นยี่ และ เฉินหมิ่นเอ๋อ แต่ละครตลกเรื่อง "เศรษฐีเมืองใหม่" ที่มีดาราร่วมแสดงอย่าง "เฉินถิงเว่ย" และ จางเหว่ยเจี้ยน กลับได้รับความนิยมขึ้นมา เพราะละครเรื่องนี้ทำให้เจิงหัวเชี่ยนพบรักใหม่กับ เฉินถิงเว่ย หลังจากที่เลิกรากับ เหลียงเฉาเหว่ยมาได้พักหนึ่ง และกลับมารับบทชีวิตหนัก ๆ ในเรื่อง "รอยรักรอยแค้น" ร่วมแสดงโดยหลอเจียเหลียง และ เจิ้งเฮ่าหนาน และละครชีวิต เรื่อง "อำนาจโหด" ที่มีโอกาสเล่นกับ ดาราสาว หลี เหม่ยเสียน และ เจิ้งเหว่ยฉวน หลังจากนั้น เธอก็หมดสัญญากับทางสถานีโทรทัศน์ทีวีบี และหันไปเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงกับทางสถานีโทรทัศน์เอทีวี แทนเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ ศ. 2534.

ชีวิตการแสดงกับสถานีโทรทัศน์เอทีวี

ในเดิอนตุลาคม พ.ศ. 2535 ละครเอทีวีเรื่องแรกของเธอ "คนเหนือเซียน ภาค 2" เป็นการเปิดตัว นักแสดงชื่อดังจากค่ายทีวีบี อย่างเธอได้อย่างสวยงาม แต่เพราะละครเรื่องนี้ได้รับผลกระทบจากการออกอากาศชนละครฟอร์มใหญ่ของทีวีบีเรื่อง เจ้าพ่อตลาดหุ้น จึงทำให้เรตติ้งเฉลี่ยในสัปดาห์แรกอยู่ที่ 12 คะแนน และเรตติ้งเฉลี่ยในสองสัปดาห์ต่อมายังคงอยู่ที่ 14 คะแนน โดยมีคะแนนสูงสุดอยู่ที่ 21 คะแนน ถือเป็นเรตติ้งที่ค่อนข้างดีสำหรับละครทางช่องเอทีวี โดยเธอเล่นคู่กับ "เฉินถิงเว่ย" แฟนของเธอในขณะนั้น แต่ต่อมาไม่นานทั้งสองก็เลิกกัน

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2536 ผลงานเรื่องที่ 2 เรื่อง "เฉือนคมจิ้งจอกเงิน" ถือเป็นเรื่องสุดท้ายของเธอกับค่าย ATV ได้ร่วมแสดงกับ หวง เย่อหัว พระเอกชื่อดังของค่าย TVB ที่ย้ายค่ายมารับงานเช่นกัน และหลังจากนั้น เธอก็หมดสัญญากับ เอทีวี

ในปีพ.ศ. 2537 เธอได้หันไปเอาดีทางด้านการแสดงที่ไต้หวัน ประเดิมเรื่องแรก "เมื่อรักสัมผัสไม่ได้" เป็นละครรักโรแมนติก และเรื่องต่อมา เป็นผลงานร่วมทุนสร้างระหว่าง TVB และไต้หวัน ในเรื่อง "วีรบุรุษใจเพชร" ร่วมนำแสดงโดย หลิวสงเหยิน, วั่นจื่อเหลียง, อู๋ฉีหัว, เยี่ยถง และ เถียนหนิว เรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในไต้หวัน[16]

ความนิยมลดลง

ในช่วงปีพ.ศ. 2537-2538 หลังจากรับงานแสดงที่ไต้หวัน อยู่พักหนึ่ง เธอก็ได้กลับมารับงานแสดง ที่ฮ่องกง กับค่าย "ทีวีบี" อีกครั้ง แต่ทว่า..กลับไม่ได้รับความนิยมเหมือนเคย ทั้งเรื่อง "หน่วยล่าไอซีเอซี" ร่วมแสดงโดย หลิวสงเหยิน กับ กัวจิ้นอัน และละครเรื่อง "รักข้ามศตวรรษ" ที่ได้แสดงร่วมกับ "ทัง เจิ้นจง" (พี่ชายของ ทังเจิ้นเยี่ย) ร่วมด้วย โอวหยังเจิ้นหัว และหลีเหม่ยฟ่ง ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนเธอได้ประกาศหยุดรับงานแสดง และหันไปทำหน้าที่เป็นพีธีกรแทน และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชื่อเสียงของเธอก็เริ่มห่างหายไปจากวงการละคร.[17][18] [19][20][21]

Remove ads

ชีวิตส่วนตัว

สรุป
มุมมอง

ในปีพ.ศ. 2525 เจิ้ง หัวเชี่ยน ได้พบกับนักแสดงเหลียงเฉาเหว่ย ที่ผับแห่งหนึ่ง ในตอนนั้นเธอยังเรียนการแสดงอยู่ที่สถานีโทรทัศน์ทีวีบี ทั้งคู่ถูกชะตากันมากและต่อมาก็คบกันเป็นแฟน ความรักของทั้งคู่มีสีสันมาก และมักเป็นข่าวฉาวทางหน้าหนังสือพิมพ์อยู่บ่อย ๆ ทั้งคู่รัก ๆ เลิก ๆ กันถึง 3 ครั้ง เพราะนิสัยขี้วีน เอาแต่ใจ ของเธอที่ทำให้ฝ่ายชายเอื่อมระอา อีกทั้งเหลียงเฉาเหว่ยเองก็มักมีข่าวพัวพันกับดาราสาวคนอื่นมากมาย ทั้งข่าวที่จริง และไม่จริง อาทิเช่น หลันเจี๋ยอิง, จางม่านอวี้, องเหม่ยหลิง แต่โดยเฉพาะข่าวฉาวกับดาราสาว หลี เหม่ยเสียน และ หลิวเจียหลิง นั้นโด่งดังสุดอื้อฉาวเป็นอย่างมาก จนในครั้งนั้นความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อน ระหว่าง เจิ้งหัวเชียน หลิวเจียหลิง และ หลีเหม่ยเสียน ถึงขั้นแตกร้าว จนในที่สุดความรักของคนทั้งคู่ก็จบลงอย่างถาวรประมาณกลางปีพ.ศ. 2531 เหลียงเฉาเหว่ยได้หันไปคบกับ หลิวเจียหลิง อย่างจริงจัง และ เจิ้งหัวเชี่ยน ได้ย้ายออกจากทีวีบี ไปสังกัด เอทีวี แทน

หลังจากนั้น ก็มีข่าวว่าเธอได้พบรักใหม่กับนักแสดงหนุ่ม "เฉินถิงเว่ย" ทั้งคู่เจอกันในกองถ่ายละครเรื่อง "เศรษฐีเมืองใหม่" เมื่อปลายปีพ.ศ. 2532 ทั้งคู่คบกันอย่างเปิดเผยและดูเหมือนว่าจะไปได้ดี และมีแรงเชียร์จากแฟนคลับของทั้งคู่ แต่แล้วก็มีข่าวว่าทั้งสองนิสัยเข้ากันไม่ค่อยได้ จนในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจเลิกกันหลังจากปิดกล้องละครที่ถ่ายด้วยกันเรื่อง "คนเหนือเซียน ภาค 2" ในปลายปีพ.ศ. 2535

เมื่อปีพ.ศ. 2538 หลังจากเลิกรากับนักแสดงหนุ่ม "เฉินถิงเว่ย" มาได้สักพัก เจิ้งหัวเชี่ยนได้พบรักกับ "หลินเชาจี้" ซึ่งเป็นประธานของบริษัท Hong Kong World Hair Products Co. ,Ltd. ต่อมาทั้งคู่แต่งงานกันที่อังกฤษ แบบเงียบ ๆ ในวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2539 หลังแต่งงานทั้งคู่ได้ไปฮันนีมูนที่ อิตาลี,สวิตเซอร์แลนด์ และเวนิส ต่อมาเธอก็คลอดลูกชาย เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2542 โดยตั้งชื่อว่า "หลินเฮ่าเสียน" แต่อีก 6 ปีต่อมา ทั้งคู่ก็หย่าร้างกันในปีพ.ศ. 2545 และลูกชายอยู่ในความดูแลของเธอ และอดีตสามีก็ยังคงส่งค่าเลี้ยงดูให้อย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2555 "เจิงหัวเชี่ยน" ได้เชิญเพื่อนรักอย่าง "หลิวเจียหลิง" มาเป็นแขกรับเชิญในรายการของเธอ เพื่อสัมภาษณ์พูดคุยกันอย่างเป็นกันเองในทุกซอกทุกมุมของชีวิต "หลิวเจียหลิง" โดยเฉพาะเรื่องราวชีวิตคู่ระหว่างเธอกับ "เหลียงเฉาเหว่ย" ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน และเมื่อ "หลิวเจียหลิง" ได้รับคำเชื้อเชิญจากเพื่อน เธอก็พร้อมมาให้เพื่อนรักสัมภาษณ์อย่างเปิดอกในทุกเรื่องจริง ทั้งสองได้พูดคุยรำลึกถึงอดีตกันอย่างสนุกสนาน คำพูดสุดท้ายที่หลิวเจียหลิง บอก เธอคือ "เจิ้งหัวเชี่ยน คือรักเดียวในใจของ เหลียงเฉาเหว่ย มาโดยตลอด"

ทุกวันนี้ เจิ้ง หัวเชี่ยน ยังครองตัวเป็นโสด แต่ว่า ก็ยังคงมีข่าวว่า ปิ๊งรักกับคนนั้นคนนี้อยู่เป็นช่วง ๆ ทั้งนักแสดงหนุ่ม "หม่ากั๊วหมิง" รุ่นน้องเธอหลายปีก็เคยตกเป็นข่าวกับเธอ แต่เธอได้ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง[22] [23][24][25][26]

Remove ads

ผลงาน

ละครโทรทัศน์(ของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี

ข้อมูลเพิ่มเติม 首播, 劇名 ...

อ้างอิง

แหล่งข้อมูล

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads