คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์

พระราชโอรสองค์โตและพระรัชทายาทในสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์
Remove ads

สมเด็จเจ้าฟ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ (อังกฤษ: His Royal Highness The Prince William, Prince of Wales) หรือ วิลเลียม อาร์เธอร์ ฟิลิป หลุยส์ (อังกฤษ: William Arthur Philip Louis; พระราชสมภพ 21 มิถุนายน ค.ศ. 1982)[1] เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ[2] และรัชทายาทแห่งสหราชณาจักรและเครือจักรภพ เจ้าชายทรงอยู่ลำดับที่ 1 ของการสืบสันตติวงศ์สหราชอาณาจักรและประเทศต่าง ๆ ในเครือจักรภพอีก 15 ประเทศ หลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระอัยยิกาธิราชเมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 2022

ข้อมูลเบื้องต้น เจ้าชายวิลเลียม, พระราชสมภพ ...

ใน ค.ศ. 2007 เจ้าชายวิลเลียมทรงเข้าร่วมกองพันทหารม้า บลูส์แอนด์รอยัลส์ (Blues and Royals) ของกรมทหารม้ารักษาวังแห่งกองทัพบกอังกฤษ เช่นเดียวกับเจ้าชายแฮร์รีพระอนุชาของพระองค์ และทรงสถานะเป็นทหารยศร้อยตรี (Second Lieutenant) ในกองทัพนับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งนามของพระองค์ในกองพันคือร้อยตรีวิลเลียม เวลส์[3]

เจ้าชายถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 1 ของราชนิกุลรุ่นเยาว์ที่เซ็กซี่มากสุดในโลก[ต้องการอ้างอิง]

Remove ads

พระราชประวัติ

สรุป
มุมมอง
Thumb
เจ้าชายวิลเลียม (ที่สองจากซ้าย) ทรงฉลองพระองค์เต็มพระยศในพระราชวังบักกิงแฮม

เจ้าชายวิลเลียมเสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2525 ณ โรงพยาบาลเซนต์มารีส์ เขตแพดดิงตัน ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน พระบิดาของพระองค์คือเจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ พระราชอิสริยยศในขณะนั้น ซึ่งเป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ ส่วนพระมารดาคือเลดีไดอานา สเปนเซอร์ อดีตเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ธิดาคนเล็กของจอห์น สเปนเซอร์ เอิร์ลสเปนเซอร์ที่ 8 และฟรานเซส รูธ เบิร์ค-รอช[2] ในฐานะพระราชนัดดาในพระประมุขแห่งอังกฤษและพระโอรสของเจ้าชายแห่งเวลส์ เจ้าชายทรงดำรงพระอิสริยยศ เจ้าชายวิลเลียมแห่งเวลส์ (His Royal Highness Prince William of Wales) ทรงมีหมายเลขบัตรประชาชน คือ I00000172[4]

วิลเลียมรับบัพติศมาจากศาสนาจารย์ ดร.โรเบิร์ต รันซี อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีในขณะนั้น เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2525 ณ ห้องทรงดนตรี พระราชวังบักกิงแฮม อันเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี พระปัยยิกา (ย่าทวด) ของพระองค์พระชนมายุครบ 82 พรรษา โดยมีพระบิดาและพระมารดาอุปถัมภ์คือสมเด็จพระราชาธิบดีกอนสตันดีโนสที่ 2 แห่งกรีซ เซอร์ลอเรนซ์ ฟอน แดร์ โพสต์ เจ้าหญิงอเล็กซานดรา ดัชเชสแห่งเวสต์มินสเตอร์ ลอร์ดบราเบิร์น และเลดี้ ซูซาน ฮูสซีย์[5]

เจ้าชายวิลเลียมทรงมีเชื้อสายจากแมรี โบลีน (Mary Boleyn) ซึ่งเป็นพี่สาวของแอนน์ โบลีน พระราชินีพระมเหสีองค์ที่สองในพระเจ้าเฮนรีที่ 8 และพระราชมารดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ เชื้อสายดังกล่าวสืบทอดผ่านสายสตรีในตระกูลขุนนางหลายสาย จนมาถึงตระกูลสเปนเซอร์ (Spencer) ซึ่งเป็นตระกูลฝ่ายพระมารดาของเจ้าชายวิลเลียมคือไดอาน่าเจ้าหญิงแห่งเวลส์ แมรี โบลีน มีลูกหลานผ่านธิดาของตนคือแคทเธอรีน แครี (Catherine Carey) ซึ่งบางแหล่งเชื่อว่าอาจเป็นพระธิดานอกสมรสของพระเจ้าเฮนรีที่ 8 อย่างไรก็ตาม เชื้อสายของแคทเธอรีนและลูกหลานได้สืบต่อเข้าสู่ตระกูลโนลิส (Knollys), เดเวอเรอ (Devereux), และในที่สุดคือ ตระกูลสเปนเซอร์ ด้วยเหตุนี้ เจ้าชายวิลเลียมจึงทรงมีเชื้อสายจากตระกูลโบลีน แม้จะเป็นสายหญิงและห่างไกล หากพระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ ก็จะถือเป็นพระมหากษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกในยุคปัจจุบันที่มีเชื้อสายสืบเนื่องจากแมรี โบลีน ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลใกล้ชิดกับราชสำนักอังกฤษในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16


เมื่อครั้นยังทรงพระเยาว์ วิลเลียมมีพระนามเรียกเล่นว่า "วอมแบ็ต" (มาร์ซูเปียเลียในออสเตรเลีย) หรือ"วิลส์" (ชื่อย่อของ "วิลเลียม" ในภาษาอังกฤษ) และมีพระอนุชาหนึ่งพระองค์คือเจ้าชายแฮร์รี ซึ่งประสูติตามหลังพระองค์ 2 ปี

เจ้าชายวิลเลียมเคยทูลพระมารดา (เจ้าหญิงไดอานา) ว่าพระองค์อยากเป็นตำรวจเมื่อพระองค์โตขึ้น เพื่อที่จะได้ปกป้องพระมารดาของพระองค์ แต่พระอนุชา (เจ้าชายแฮร์รี่) กลับบอกพระองค์ว่า "พี่เป็นมิได้หรอก พี่จะต้องเป็นกษัตริย์"[6] การปรากฏตัวของพระองค์ต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกคือเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2534 (วันเซนต์เดวิดส์) ในระหว่างการเสด็จเยี่ยมเมืองคาร์ดิฟฟ์ แคว้นเวลส์ กับพระบิดาและพระมารดา หลังจากที่พระองค์เสด็จถึงแคว้นเวลส์ พระองค์เสด็จต่อไปที่มหาวิหารลันดาฟฟ์ พระองค์ทรงลงพระนามในสมุดบันทึกผู้เดินทาง ซึ่งเป็นที่ปรากฏว่าทรงใช้พระหัตถ์ด้านซ้ายเขียนหนังสือ

วันที่ 3 มิถุนายนของปีเดียวกัน วิลเลียมทรงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลรอยัลเบิร์กเชอร์ หลังจากที่ทรงถูกตีที่พระนลาฏ อย่างไรก็ตามพระองค์มิได้ทรงหมดสติ แต่มีรอยร้าวที่พระเศียรของพระองค์ และทรงเข้ารักษาพระวรกายที่โรงพยาบาลเกรตออร์มอนด์สตรีท โดยมีผลให้ทรงมีแผลนั้นตลอดพระชนม์ชีพ[7]

ในปี 2554 เจ้าชายวิลเลียมได้รับสถาปนาเป็นดยุกแห่งเคมบริดจ์ก่อนการเสกสมรสกับเคท มิดเดิลตัน เจ้าชายวิลเลียมทรงเป็นดยุกแห่งรอธซีและดยุกแห่งคอร์นวอลล์ภายหลังการเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าชาลส์ที่ 3 พระบิดาของพระองค์เมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2565 ในวันต่อมา พระองค์ได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าชายแห่งเวลส์และเอิร์ลแห่งเชสเตอร์ พระอิสริยยศซึ่งสงวนไว้สำหรับ รัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรง ของพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ และเคทยังได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ในระหว่างการพระราชทานพระราชดำรัสเป็นครั้งแรกของพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แก่ประชาชน[8] ทั้ง 2 พระองค์มีพระโอรส-ธิดา 3 พระองค์คือ เจ้าชายจอร์จ, เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และ เจ้าชายหลุยส์

Remove ads

การศึกษา

  • ทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยอีตันในสาขาวิชาภูมิศาสตร์ ชีววิทยาและประวัติศาสตร์ศิลป์ (ผลการทรงศึกษาทั้งหมดด้วยลำดับขั้น A)
  • พ.ศ. 2544 – ทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ จากมหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ ในสกอตแลนด์ ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2
  • พ.ศ. 2553 – ฝึกนักบินเฮลิคอปเตอร์ซี คิงของหน่วยค้นหาและกู้ภัยของกองทัพอากาศ

พระราชกรณียกิจ

พระชายาและพระโอรสธิดา

กลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 มีข่าวคราวพระองค์จะทรงหมั้นกับแคเธอริน มิดเดิลตัน ทายาทบริษัทจิ๊กซอว์ ก่อนที่จะมีการประกาศเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 ว่าวิลเลียมได้ทรงหมั้นกับมิดเดลตันแล้ว โดยพระราชพิธีเสกสมรสกับแคเธอริน มิดเดิลตันได้มีขึ้นในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554 อย่างยิ่งใหญ่อลังการและสมเกียรติ ณ เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ในกรุงลอนดอน[9]

Remove ads

ฐานันดรและพระอิสริยยศ

สรุป
มุมมอง
ข้อมูลเบื้องต้น ธรรมเนียมพระยศของ เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายเเห่งเวลส์, การทูล ...
  • 21 มิถุนายน พ.ศ. 2525 – 29 เมษายน พ.ศ. 2554: ฮิสรอยัลไฮเนส เจ้าชายวิลเลียมแห่งเวลส์ (His Royal Highness Prince William of Wales)
  • 29 เมษายน พ.ศ. 2554 – 8 กันยายน 2565: ฮิสรอยัลไฮเนส ดยุกแห่งเคมบริดจ์ (His Royal Highness The Duke of Cambridge)
    • ในสก็อตแลนด์: ฮิสรอยัลไฮเนส เอิร์ลแห่งสตราเธิร์น (His Royal Highness The Earl of Strathearn)[10][11][12]
    • ในไอร์แลนด์เหนือ: บารอนแห่งแคร์ริกเฟอร์กัส (Baron Carrickfergus)
  • 8 กันยายน – 9 กันยายน พ.ศ. 2565 : ฮิสรอยัลไฮเนส ดยุกแห่งคอร์นวอลล์และเคมบริดจ์ (His Royal Highness The Duke of Cornwall and Cambridge)
  • 9 กันยายน พ.ศ. 2565 – ปัจจุบัน: ฮิสรอยัลไฮเนส เจ้าชายแห่งเวลส์ (His Royal Highness The Prince of Wales)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

  • 23 April 2008 - Royal Knight Companion of the Most Noble Order of the Garter (KG)[13]
  • 25 May 2012 - Extra Knight of the Most Ancient and Most Noble Order of the Thistle (KT)
  • 23 April 2024 - Great Master of the Most Honourable Order of the Bath (GCB)
  • Member of the Privy Council of the United Kingdom (PC)
  • Personal Aide-de-Camp (ADC)

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นเหรียญ

  • 6 February 2002 - Queen Elizabeth II Golden Jubilee Medal
  • 6 February 2012 - Queen Elizabeth II Diamond Jubilee Medal
  • 6 February 2012 - Queen Elizabeth II Platinum Jubilee Medal
  • 6 May 2023 - King Charles III Coronation Medal
Remove ads

พงศาวลี

สรุป
มุมมอง

เจ้าชายวิลเลียมทรงเป็นสมาชิกราชวงศ์วินด์เซอร์ ทั้งทรงเป็นสมาชิกราชวงศ์ชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-เซอเนอร์ปอร์-กลึคส์บวร์คตามพระชนกด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม พงศาวลีของเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ ...


Remove ads

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads