คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

เชมัส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เชมัส
Remove ads

สตีเฟน ฟาร์เรลลี (Stephen Farrelly; 28 มกราคม ค.ศ. 1978) นักมวยปล้ำอาชีพและนักแสดงชาวไอริสที่เซ็นสัญญากับ WWE ในนาม เชมัส (Sheamus; ออกเสียง /ˈʃmʌs/)[13] ย่อมาจากชื่อบนสังเวียนก่อนหน้านี้ เชมัส โอชัวเนสซี (Sheamus O'Shaunessy)[14][15] เป็นแชมป์โลกของ WWE 4 สมัย (แชมป์ WWE 3 สมัย[Note 1] และแชมป์โลกเฮฟวี่เวท 1 สมัย)[16] และเป็นคนที่สองต่อจากเอดจ์ที่ประสบความสำเร็จทั้งคิงออฟเดอะริง, รอยัลรัมเบิล และมันนีอินเดอะแบงก์

ข้อมูลเบื้องต้น เชมัส, ชื่อเกิด ...
Remove ads

ประวัติวงการมวยปล้ำ

สรุป
มุมมอง
Thumb
ผู้ชนะคิงออฟเดอะริง (2010)

ก่อนที่จะมา WWE เขาเคยปล้ำสมาคม Irish Whip Wrestling[11] เป็นแชมป์อินเตอร์เนชั่นแนลเฮฟวี่เวท[17][6] และระหว่างที่ปล้ำในฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง(FCW) ซึ่งเป็นค่ายพัฒนาทักษะมวยปล้ำของ WWE เขาเคยได้แชมป์ฟลอริดาเฮฟวี่เวท FCWมาครั้งนึงด้วย[9] เชมัสเปิดตัวครั้งแรกในECW[5] และยังสามารถปราบพวกนักมวยปล้ำตัวเก่ง ๆ ได้อีกหลายคน เชมัสได้ย้ายมาอยู่รอว์และเอาชนะเจมี โนเบิลไปได้อย่างง่ายดาย[18] หลังแมตช์ได้เล่นงานโนเบิลจนบาดเจ็บหนัก[19] ในทีแอลซี (2009)เชมัสได้เป็นชาวไอริสคนแรกที่คว้าแชมป์ WWEโดยชนะจอห์น ซีนาในรูปแบบจับฟาดใส่โต๊ะ หลังจากที่เปิดตัวใน WWE ได้เพียงครึ่งปี[20][21] เชมัสยังได้รางวัลสแลมมีอะวอร์ด Breakout Superstar of the Year[22]

ในรอยัลรัมเบิล (2010)ต้องป้องกันแชมป์กับแรนดี ออร์ตัน ผลปรากฏว่าโคดี โรดส์ออกมาทำร้ายเชมัส ทำให้ชนะฟาล์วไม่เสียแชมป์[23] เชมัสเสียแชมป์ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2010)โดยจอห์น ซีนาได้แชมป์คืน[24] เชมัสได้เปิดศึกกับทริปเปิลเอชท้าเจอกันในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 26โดยเชมัสเป็นฝ่ายแพ้ไปแบบหมดรูป[25][26] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2010)เอาชนะทริปเปิลเอชไปได้ หลังแมตช์ได้ทำร้ายทริปเปิลเอชจนบาดเจ็บ[27] ในเฟทัลโฟร์เวย์ (2010)ได้คว้าแชมป์ WWE สมัยที่2[28][29] ก่อนเสียแชมป์ให้ออร์ตันในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2010)[30] ในเดือนพฤศจิกายน เชมัสได้เป็นผู้ชนะคิงออฟเดอะริง (2010)[31] ในรอว์ 14 มีนาคม 2011 ได้คว้าแชมป์ยูเอสสมัยแรกจากแดเนียล ไบรอัน[32] ก่อนที่จะเสียแชมป์ให้โคฟี คิงส์ตันในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2011)แบบจับฟาดใส่โต๊ะ[33][34] ต่อมาเชมัสได้เป็นฝ่ายธรรมะและเปิดศึกกับคริสเตียนเจอกันในเฮลอินเอเซล (2011)โดยเชมัสชนะ[35] ก่อนจะรีแมตช์ในเวนเจินส์ (2011)และเชมัสชนะไปได้ 2 ครั้งติดต่อกัน[36]

Thumb
ชนะแดเนียล ไบรอันคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28 ด้วยเวลาเพียง 18 วินาที

เชมัสได้เป็นผู้ชนะรอยัลรัมเบิล (2012)โดยออกมาลำดับที่ 22 ได้สิทธิ์เป็นคู่เอกชิงแชมป์โลกในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 28[37] ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2012)ได้ออกมาอัดแดเนียล ไบรอัน ที่เป็นแชมป์โลกเฮฟวี่เวท และเลือกที่จะชิงกับไบรอันในเรสเซิลเมเนีย 28 และเชมัสก็สามารถคว้าแชมป์ได้ในเวลาเพียง18วินาที[38] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2012)สามารถป้องกันแชมป์จากไบรอันได้ในแมตช์ชนะ 2 ใน 3 ยก[39] ในโอเวอร์เดอะลิมิต (2012)เชมัสต้องป้องกันแชมป์กับอัลเบร์โต เดล รีโอ, คริส เจริโค และแรนดี ออร์ตัน แต่เชมัสก็ป้องกันแชมป์เอาไว้ได้[40] ในสแมคดาวน์ 25 พฤษภาคม เดล รีโอได้เอาชนะออร์ตัน และเคน ทำให้ได้เป็นผู้ท้าชิงอันดับ1 ในการชิงแชมป์กับเชมัสในโนเวย์เอาท์ (2012) หลังแมตช์เดล รีโอกำลังเดินกลับก็โดนเชมัสลอบทำร้ายจากด้านหลัง แล้วถากถางเดล รีโอก่อนจะเดินจากไป ก่อนถึงโนเวย์เอาท์ เดล รีโอได้รับบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถร่วมปล้ำได้ และเป็นดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ปล้ำแทน สุดท้ายเชมัสก็สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้[41] หลังจากนั้นเชมัสก็สามารถเอาชนะเดล รีโอ และป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ถึง 3 ศึกใหญ่ติดต่อกัน[42][43][44][45] เชมัสได้เสียแชมป์บิ๊กโชว์ในเฮลอินเอเซล (2012)[46] และเชมัสก็ได้ขอชิงคืนทั้งเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2012) และทีแอลซี (2012) แต่ก็ไม่สำเร็จ[47][48]

ในรอว์ 4 กุมภาพันธ์ 2013 ซีนา, ไรแบ็ก และเชมัสออกมาล้อมเดอะชีลด์เอาไว้ ทำให้เดอะชีลด์วิ่งหนีไปทางหลังเวทีแต่ออร์ตันนำทัพนักมวยปล้ำออกมาขวางเอาไว้ เดอะชีลด์เลยโดนทีมซีนาอัดจนน่วม ก่อนที่จะหนีไปทางอัฒจรรย์[49] ในรอว์ 11 กุมภาพันธ์ จับคู่กับซีนาและไรแบ็กเอาชนะทรีเอ็มบีไปได้ หลังแมตช์ทั้งสามเอาไมค์มาพูดว่าจะกำจัดเดอะชีลด์ให้ได้ คืนเดียวกันเดอะชีลด์ออกมาท้าทายว่าถ้าอยากมีเรื่องก็ออกมาเจอกันเดี๋ยวนี้ได้เลย ปรากฏว่าไฟในสนามดับ แล้วกลุ่มของซีนาก็ออกมาไล่อัดเดอะชีลด์จนหนีกระเจิง ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2013)ก็แพ้ให้เดอะชีลด์[50] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 จับคู่กับออร์ตันและบิ๊กโชว์แพ้เดอะชีลด์ หลังแมตช์บิ๊กโชว์ปล่อยหมัดใส่เชมัสกับออร์ตัน[51] ในรอว์คืนต่อมาได้เจอกับออร์ตันโดยผู้ชนะไปเจอกับบิ๊กโชว์ ระหว่างแมตช์บิ๊กโชว์มาป่วนทำให้ไม่มีผลการตัดสิน[52] ในสแมคดาวน์ 12 เมษายน เชมัสกับออร์ตันชนะบิ๊กโชว์ไปแบบเคาท์เอาท์[53] ในรอว์ 15 เมษายน เชมัสกับออร์ตันเอาชนะบิ๊กโชว์ไปได้[54] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013)ชนะมาร์ก เฮนรีในสแตรปแมตช์[55] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2013)ได้เข้าร่วมชิงกระเป๋าสัญญาชิงแชมป์ WWE แต่ไม่ชนะ[56] โดยในแมตช์นี้เชมัสได้รับบาดเจ็บที่บริเวณไหล่ และอาจจะต้องพักยาวถึง 4-6 เดือน เชมัสบอกว่าเขาต้องทำกายภาพบำบัดรักษาไหล่ของเขาด้วยการยกน้ำหนัก ผลการทำ MRI สแกนปรากฏว่าหมอนรองกระดูกไหล่เกิดการฉีกขาด และจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด อาการบาดเจ็บนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่ถูกอัดตกจากเวทีไปกระแทกบันไดที่วางไว้ด้านล่าง[57][58]

เชมัสได้กลับมาโดยเข้าร่วมรอยัลรัมเบิล (2014)เป็นลำดับที่ 17 แต่ก็ไม่ได้เป็นผู้ชนะ[59][60] ในรอว์คืนต่อมาจับคู่กับจอห์น ซีนาและแดเนียล ไบรอันเจอกับเดอะชีลด์โดยทีมที่ชนะได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท WWEในแมตช์อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2014) แต่จบลงโดยไม่มีผลการตัดสิน เพราะเดอะไวแอ็ตต์แฟมิลีมาก่อกวน หลังแมตช์ทีมเชมัสช่วยกันไล่อัดพวกไวแอ็ตต์จนต้องหนีไป แล้วโฆษกก็ประกาศว่าทีมของเชมัสชนะฟาวล์ได้สิทธิ์เข้าร่วมอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แต่ก็ไม่ได้แชมป์[61] ในรอว์ 5 พฤษภาคม เชมัสได้คว้าแชมป์ยูเอส เป็นสมัยที่2 ในแบทเทิลรอยัล 20คน โดยจับเหวี่ยงดีน แอมโบรสออกเป็นคนสุดท้าย ในรอว์ 16 มิถุนายน เชมัสได้เอาชนะแบด นิวส์ บาร์เร็ตต์ได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงแชมป์โลกในมันนีอินเดอะแบงก์ (2014) สุดท้ายจอห์น ซีนาเป็นฝ่ายชนะไปได้[62] ในแบทเทิลกราวด์ (2014)ได้เข้าร่วมแบทเทิลรอยัลชิงแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลแต่ไม่สำเร็จ[63] ในรอว์ 3 พฤศจิกายน เสียแชมป์ยูเอสให้รูเซฟ ช่วงหลังจบรายการที่ฉายผ่านทาง WWE Network[64] ก่อนจะได้รับบาดเจ็บและพักการปล้ำอีกครั้ง[65][66] ในรอว์ 30 มีนาคม 2015 เชมัสได้กลับมาในลุกใหม่โดยถักเคราและไว้ผมทรงโมฮอว์ก ออกมาเล่นงานแดเนียล ไบรอันและดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ กลายเป็นอธรรมอีกครั้ง[67][68] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2015)ได้แพ้ให้ซิกก์เลอร์ในแมตช์ผู้แพ้ต้องจูบก้น หลังแมตช์เชมัสพยายามจะหนี แต่กรรมการไปพาตัวกลับมาจูบก้นซิกก์เลอร์ตามกติกา แต่เชมัสล้วงเป้าซิกก์เลอร์แล้วโดดถีบซ้ำ ก่อนจะลากซิกก์เลอร์มาจูบก้นเขาแทน[69][70] ก่อนรีแมตช์เอาชนะไปได้ในเพย์แบ็ก (2015)[71] เชมัสได้ร่วมปล้ำอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2015)ชิงแชมป์อินเตอร์ที่ว่างอยู่ แต่ไม่สำเร็จ[72]

Thumb
แชมป์แท็กทีม WWEร่วมกับซีซาโร

เชมัสได้คว้ากระเป๋าสิทธิ์มันนีอินเดอะแบงก์ (2015)ชิงแชมป์โลกเมื่อไรก็ได้[73] ในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2015)เชมัสโบรกคิกใส่โรแมน เรนส์ แล้วใช้สิทธิ์กระเป๋าคว้าแชมป์โลกสมัยที่4[74] เชมัสได้ตั้งกลุ่มเดอะลีกออฟเนชันส์[75] ในทีแอลซี (2015)เชมัสป้องกันแชมป์จากเรนส์ไว้ได้แบบ TLC[76] ก่อนเสียแชมป์ให้เรนส์ในรอว์คืนต่อมา[77] ในรอว์ 4 มกราคม 2016 เชมัสได้แพ้ชิงแชมป์กับเรนส์โดยวินซ์ แม็กแมนเป็นกรรมการพิเศษ[78] ในเดือนเมษายน 2016 ลีกออฟเนชันส์ได้แตกกลุ่ม[79][80] 19 กรกฎาคม 2016 เชมัสได้ถูกดราฟท์ไปรอว์และเปิดศึกกับซีซาโร[81] ต่อมาผู้จัดการทั่วไปของรอว์ มิค โฟลีย์ ได้ประกาศให้ทั้งคู่สู้กันแบบ Best of 7 Series ชนะ 4 ใน 7 ผู้ชนะจะได้สิทธิ์ชิงแชมป์ในโอกาสต่อไป ทั้งคู่ทำคะแนนเสมอกัน 3-3 ทำให้ต้องตัดสินกันยกที่ 7 ในแคลชออฟแชมเปียนส์ (2016) แต่จบลงแบบไม่มีผลตัดสิน คืนต่อมาโฟลีย์ได้สั่งให้ทั้งคู่เป็นคู่ร่วมทีมกันเพื่อชิงแชมป์รอว์แท็กทีม WWEกับเดอะนิวเดย์[82] ในโรดบล็อก: เอ็นด์ออฟเดอะไลน์ทั้งคู่สามารถคว้าแชมป์จากนิวเดย์ได้และเป็นแชมป์แท็กทีมครั้งแรกของเชมัส จากนั้นทั้งคู่ก็ใช้นามว่าเดอะบาร์และปั๊มแชมป์ร่วมกันได้ถึง 4 สมัย[83] ในเดือนเมษายน 2018 เดอะบาร์ได้ย้ายสังกัดมาอยู่สแมคดาวน์[84] และได้แชมป์สแมคดาวน์แท็กทีม WWEร่วมกัน[85] ก่อนจะแยกทีมกันในปีต่อมาจากการบาดเจ็บของเชมัส[86][87]

ในเดือนมกราคม 2020 เชมัสได้กลับมาจากอาการบาดเจ็บโดยไว้ผมทรงเดิม[88] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 37 ได้คว้าแชมป์ยูเอสจากริดเดิลเป็นสมัยที่ 3[89] ก่อนเสียแชมป์ให้แดเมียน พรีสต์ใน SummerSlam 2021 จบการครองแชมป์ 132 วัน[90] ต่อมาได้ก่อตั้งกลุ่ม The Brawling Brutes ร่วมกับ ริดจ์ ฮอลแลนด์และบุตช์[91][92] และได้เปิดศึกกับกุนเธอร์ในการชิงแชมป์อินเตอร์ที่เชมัสไม่เคยได้เพื่อเป็นแชมป์แกรนด์สแลมโดยเชมัสได้ท้าชิงถึง 2 ครั้งแต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้สักครั้ง นอกจากนี้ในศึก Clash at the Castle ทั้งคู่ได้ทำแมตช์ยอดเยี่ยมจนได้คะแนนจาก Dave Meltzer ถึง 5 ดาวแถมยังเป็น 5 ดาวครั้งแรกของเชมัสอีกด้วย[93][94] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 39เชมัสได้ท้าชิงแชมป์อินเตอร์กับกุนเธอร์อีกครั้งโดยมีดรูว์ แม็กอินไทร์ร่วมปล้ำเป็นสามเส้าแต่เชมัสก็ยังไม่สามารถกระชากแชมป์มาจากกุนเธอร์ได้และแมตช์นี้ยังได้คะแนน 5 ดาวทำให้เชมัสกับกุนเธอร์ได้แมตช์ 5 ดาวร่วมกัน 2 ครั้ง

Remove ads

ผลงานอื่นๆ

ภาพยนตร์

ข้อมูลเพิ่มเติม Year, Title ...

โทรทัศน์

ข้อมูลเพิ่มเติม Year, Title ...
Remove ads

แชมป์และรางวัล

หมายเหตุ

  1. Sheamus' first two reigns were when the title was known as the WWE Championship while his third reign was as WWE World Heavyweight Champion.

เกร็ดความรู้

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads