คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547

แผ่นดินไหวเมกะทรัสต์ที่มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ใต้ผืนน้ำของมหาสมุทรอินเดียซึ่งก่อให้เกิด จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547map
Remove ads

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 เวลา 07:58:53 น. ตามเวลาท้องถิ่น (UTC+7) เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มีแมกนิจูดระหว่าง 9.2–9.3 Mw ที่จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวริมชายฝั่งตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย แผ่นดินไหวเมกะทรัสต์ใต้ทะเลที่รู้จักกันในวงการวิทยาศาสตร์เป็น แผ่นดินไหวสุมาตรา–อันดามัน[7][8] เกิดจากการแตกร้าวตามรอยเลื่อนระหว่างแผ่นพม่ากับแผ่นอินเดีย และในบางพื้นที่มีมาตราเมร์กัลลีสูงถึงระดับ IX

ข้อมูลเบื้องต้น เวลาสากลเชิงพิกัด, รหัสเหตุการณ์ ISC ...

สึนามิขนาดมโหฬารสูงถึง 30 m (100 ft) ที่รู้จักกันในชื่อ สึนามิบ็อกซิงเดย์ ตั้งชื่อตามวันเปิดกล่องของขวัญ หรือ สึนามิเอเชีย[9] เข้าท่วมทำลายบ้านเรือนตามแนวชายฝั่งโดยรอบมหาสมุทรอินเดีย ประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 227,898 คนใน 14 ประเทศ นับเป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ผลโดยตรงทำให้เกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่ต่อสภาพความเป็นอยู่และการค้าในพื้นที่ชายฝั่งของประเทศโดยรอบ ได้แก่ จังหวัดอาเจะฮ์ (อินโดนีเซีย), ศรีลังกา, รัฐทมิฬนาฑู (อินเดีย) และเขาหลัก (ไทย) บันดาอาเจะฮ์มีรายงานผู้เสียชีวิตมากที่สุด ถือเป็นภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 21[10] และภัยสึนามิที่รายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์[11] ภัยครั้งนี้ยังเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อินโดนีเซีย ศรีลังกา และไทย[12]

แผ่นดินไหวครั้งนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดเท่าที่บันทึกมาในเอเชีย ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 และรุนแรงมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกเป็นอย่างน้อยนับตั้งแต่เริ่มใช้งานเครื่องวัดแผ่นดินไหวสมัยใหม่ใน ค.ศ. 1900[13][a] แผ่นดินไหวนี้สร้างรอยเลื่อนยาวที่สุดเท่าที่เคยพบเห็นที่ระหว่าง 1,200 ถึง 1,300 กิโลเมตร (720 ถึง 780 ไมล์) และมีคาบเวลายาวนานที่สุดถึงอย่างน้อย 10 นาที[17] แผ่นดินไหวทำให้โลกสั่นสะเทือนถึง 10 mm (0.4 in)[18] และยังเกิดแรงสั่นสะเทือนไกลถึงรัฐอะแลสกา[19] จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวตั้งอยู่ระหว่างเกาะซีเมอลูเวอสุมาตราแผ่นดินใหญ่[20] ชะตาของประเทศและประชากรที่ได้รับผลกระทบทำให้เกิดการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั่วโลก ด้วยเงินบริจาครวมมากกว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[21]

Remove ads

แผ่นดินไหว

สรุป
มุมมอง
Thumb
Shakemap ของเหตุการณ์นี้จาก USGS

ในตอนแรกมีการบันทึกแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย พ.ศ. 2547 ด้วยขนาดโมเมนต์ที่ 8.8 สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐระบุไว้ที่ประมาณ 9.1[22] ฮิโรโอะ คานาโมริจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนียประมาณการว่า Mw9.2 เหมาะสมที่จะใช้เป็นค่าตัวแทนสำหรับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งนี้[23] อย่างไรก็ตาม การศึกษาล่าสุดเพิ่มเติมหลายแห่งประมาณการแรงสั้นสะเทือนไว้ที่ Mw9.3[24][25][26][27] การศึกษาใน พ.ศ. 2559 ประมาณการแรงสั่นสะเทือนไว้ที่ Mw9.25[28] ส่วนการศึกษาใน พ.ศ. 2564 ปรับปรุงจำนวนประมาณการใน พ.ศ. 2550 จาก Mw9.1 ไปเป็น Mw9.2[29]

ศูนย์เกิดแผ่นดินไหวของแผ่นดินไหวหลักอยู่ห่างจากชายฝั่งตะวันตกของเกาะสุมาตราเหนือประมาณ 160 กิโลเมตร ในมหาสุมทรอินเดียตรงเกาะซีเมอลูเวอตอนเหนือในความลึกใต้ระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 30 กิโลเมตร (ตอนแรกรายงานเป็น 10 กิโลเมตร) รอยเลื่อนซุนดาเมกะทรัสต์ (Sunda megathrust) ส่วนเหนือเลื่อนตัวแตกออกยาวกว่า 1,300 กิโลเมตร[20] ทำให้มีการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว (ตามมาด้วยสึนามิ) ในบังกลาเทศ, อินเดีย, มาเลเซีย, พม่า, ไทย, ศรีลังกา และมัลดีฟส์[30] จากนั้นรอยเลื่อนย่อย (Splay fault) จึงขยับตาม ทำให้พื้นทะเลเกิดรอยแตกยาวในเวลาไม่กี่วินาที เกิดน้ำทะเลยกตัวสูงและเพิ่มความเร็วแก่คลื่นให้มากขึ้น จากนั้นคลื่นสึนามิได้เข้าทำลายเมืองลกงา (Lhoknga) จนราบเป็นหน้ากลอง[31]

ด้านธรณีสัณฐาน อินโดนีเซียตั้งอยู่ระหว่างวงแหวนแห่งไฟแห่งแปซิฟิกที่ตอนเหนือและตะวันออกใกล้กับนิวกินี และแนวแอลไพด์ส่วนตอนใต้พาดไปทางตะวันตกของประเทศจากเกาะสุมาตรา เกาะชวา, เกาะบาหลี, เกาะโฟลเร็ซ ถึงเกาะติมอร์ เชื่อกันว่าแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา พ.ศ. 2545 เป็นแผ่นดินไหวนำก่อนหน้าแผ่นดินไหวหลักกว่าสองปี[32]

เปรียบเทียบ

Thumb
แผนภูมิวงกลม แสดงขนาดโมเมนต์แผ่นดินไหวที่วัดได้ทั้งหมดตั้งแต่ปี ค.ศ. 1906–2005 เปรียบเทียบกับแผ่นดินไหวขนาดใหญ่แต่ละครั้ง แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดียแสดงสีน้ำเงินเข้ม

แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้นในเขตมุดตัวของเปลือกโลก ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแผ่นดินไหวขนาดเมกะทรัสต์อยู่เสมอ มีค่าโมเมนต์แผ่นดินไหวสูงในระดับศตวรรษ โดยหากรวมค่าโมเมนต์แผ่นดินไหวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในรอบ 100 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1906 - 2005 แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซียครั้งนี้จะมีขนาดโมเมนต์แผ่นดินไหวถึง 1 ใน 8 ของแผ่นดินไหวทั้งหมดดังกล่าว นอกจากนี้ หากรวมกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่อะแลสกา ค.ศ. 1964 และที่ชิลี ค.ศ. 1960 จะมีขนาดโมเมนต์สูงถึงครึ่งหนึ่งของแผ่นดินไหวทั้งหมดดังกล่าว หากเทียบกับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในซานฟรานซิสโกปี ค.ศ. 1906 กับแผ่นดินไหวครั้งนี้ ถือว่าครั้งนั้นมีขนาดเล็กมาก (หากแต่ครั้งนั้นเกิดความเสียหายไม่แพ้กัน)

นับตั้งแต่ ค.ศ. 1900 แผ่นดินไหวในครั้งนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากแผ่นดินไหวในชิลี ค.ศ. 1960 (แมกนิจูด 9.5) และแผ่นดินไหวในอะแลสกา ค.ศ. 1964 (แมกนิจูด 9.2) นอกจากนี้มีอีกเพียงสองครั้งที่มีขนาดแมกนิจูด 9.0 ได้แก่ แผ่นดินไหวที่คาบสมุทรคัมชัตคา ทางตะวันออกของรัสเซีย เมื่อ ค.ศ. 1952[33] และแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ค.ศ. 2011 เหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าวล้วนก่อให้เกิดคลื่นสึนามิในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกแทบทั้งสิ้น ถึงกระนั้นกลับมีจำนวนผู้เสียชีวิตไม่มากอย่างมีนัยสำคัญ โดยสาเหตุหลักคือ ชายฝั่งใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีประชากรอาศัยเบาบาง พื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวเหล่านั้นมาก รวมถึงความมีประสิทธิภาพของระบบสาธารณูปโภคและระบบเตือนภัย เช่น ในกรณีของประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น

แผ่นดินไหวขนาดใหญ่ (ขนาดเมกะทรัสต์) ครั้งอื่น เกิดขึ้นใน ค.ศ. 1868 ในประเทศเปรู (แผ่นเปลือกโลกนาสกาและแผ่นอเมริกาใต้) ค.ศ. 1827 ในโคลอมเบีย (แผ่นนาสกาและแผ่นอเมริกาใต้) ค.ศ. 1812 ในเวเนซูเอลา (แผ่นแคริบเบียนและแผ่นอเมริกาใต้) และแผ่นดินไหวคาสคาเดีย ค.ศ. 1700 ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอเมริกา (แผ่นฮวนเดอฟูกาและแผ่นอเมริกาเหนือ) ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คาดว่ามีความรุนแรงมากกว่าแมกนิจูด 9 แต่ไม่มีตัวเลขชัดเจนถึงขนาดที่แท้จริงในขณะนั้น

Thumb
ภาพเคลื่อนไหวของคลื่นสึนามิสุมาตรา (ที่มา: องค์การสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา
Remove ads

สึนามิ

สรุป
มุมมอง
Thumb
The การแพร่กระจายของสึนามิใช้เวลา 5 ชั่วโมงถึงออสเตรเลียตะวันตก 7 ชั่วโมงถึงคาบสมุทรอาหรับ และกว่าจะถึงชายฝะ่งแอฟริกาใต้ ใช้เวลาหลังเกิดแผ่นดินไหวเกือบ 11 ชั่วโมง

แทด เมอร์ตีย์ รองประธานสมาคมสึนามิ กล่าวว่า พลังงานทั้งหมดของคลื่นสึนามิเทียบเท่ากับระเบิดทีเอ็นทีขนาด 5 เมกะตัน(21 เพตะจูล) ซึ่งมากกว่าพลังงานระเบิดทั้งหมดที่ใช้ในช่วงสงครามโลกที่สองทั้งหมด (รวมระเบิดนิวเคลียร์สองลูก) สองเท่าแต่ยังคงมีอันดับของขนาดน้อยกว่าพลังงานที่เกิดจากตัวแผ่นดินไหว คลื่นสึนามึซัดเข้าในผืนดินไกลถึง 2 กิโลเมตรในหลายพื้นที่[34]

เนื่องจากรอยเลื่อนจากแผ่นดินไหวขนาด 1,600 กิโลเมตรอยู่ในแนวเกือบเหนือ-ใต้ บริเวณที่มีคลื่นแรงสุดจึงมาจากทางตะวันออก–ตะวันตก ประเทศบังกลาเทศที่อยู่ทางเหนือสุดของอ่าวเบงกอลมีจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บน้อยแม้ว่าเป็นประเทศพื้นที่ลุ่มค่อนข้างใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว และยังได้ประโยชน์ที่ว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นช้าลงในบริเวณรอยแตกทางตอนเหนือ ทำให้พลังงานการเคลื่อนตัวของน้ำในพื้นที่นั้นลดลงอย่างมาก

Thumb
ความสูงของคลื่นโดยเฉลี่ย

บริเวณชายฝั่งที่มีแผ่นดินกั้นระหว่างชายฝั่งกับจุดกำเนิดคลื่นสึนามิมักจะปลอดภัย แต่บางครั้งคลื่นสึนามิอาจเกิดขึ้นรอบแผ่นดินใหญ่ผ่านการเลี้ยวเบน ทำให้รัฐเกรละถูกคลื่นสึนามิแม้ว่าจะอยู่ทางฝั่งตะวันตกของอินเดีย และชายฝั่งตะวันตกของศรีลังกาได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ระยะทางไม่รับรองความปลอดภัย เนื่องจากประเทศโซมาเลียถูกคลื่นสึนามิแรงกว่าบังกลาเทศ แม้ว่าจะอยู่ไกลกว่าก็ตาม

เนื่องจากระยะทางระหว่างจุดศูนย์กลางถึงชายฝั่ง ทำให้สึนามิใช้เวลาเดินทางชายฝั่งระหว่าง 15 นาทีถึง 7 ชั่วโมง[35][36] ภูมิภาคทางเหนือของเกาะสุมาตราถูกคลื่นกระทบเร็วสุด ส่วนศรีลังกาและชายฝั่งตะวันออกของอินเดียถูกคลื่นกระทบเกือบ 90 นาทีหรือสองชั่วโมงต่อมา ประเทศไทยถูกคลื่นกระทบประมาณ 2 ชั่วโมงให้หลังแม้ว่าจะอยู่ใกล้จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว เนื่องจากสึนามิเดินทางผ่านทะเลอันดามันระดับตื้นที่ชายฝั่งตะวันตกช้ากว่าปกติ

พลังงานสึนามิบางส่วนกระจายไปไกลถึงมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งสร้างสึนามิขนาดเล็กแต่วัดได้ที่ชายฝั่งตะวันตกของอเมริกาเหนือถึงใต้ที่ประมาณ 200 ถึง 400 มิลลิเมตร[37]

สัญญาณและคำเตือนแรก

Thumb
ระดับน้ำลดลงสูงสุดจากคลื่นสึนามิที่หาดกะตะน้อยเมื่อเวลา 10:25 น. ก่อนที่คลื่นสึนามิลูกที่สามที่แรงที่สุดจะเข้ามา

แม้ว่าจะมีความล่าช้าระหว่างแผ่นดินไหวและผลกระทบของคลื่นสึนามิหลายชั่วโมง แต่เหยื่อเกือบทั้งหมดพากันตื่นตกใจ ไม่มีระบบเตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดียที่ตรวจจับสึนามิหรือเตือนประชากรทั่วไปที่อาศัยอยู่รอบมหาสมุทร [38] การตรวจสึนามิเป็นเรื่องยากเนื่องจากในช่วงที่สึนามิอยู่ในน้ำลึก ตัวคลื่นมีความสูงน้อยและต้องใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับคลื่น

สัญญาณเตือนแรกของการเกิดคลื่นสึนามิคือแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตาม คลื่นสึนามิอาจพัดไกลจากที่กำเนิดออกไปหลายพันกิโลเมตร โดยสามารถรู้สึกแผ่นดินไหวได้ในระดับเบาหรือไม่รู้สึกเลย นอกจากนี้ ในช่วงหลายนาทีก่อนเกิดสึนามิ บางครั้งน้ำทะเลลดลงจากชายฝั่งชั่วคราว ซึ่งสังเกตได้ในบริเวณรอยแตกของแผ่นดินไหวทางฝั่งตะวันออกอย่างชายฝั่งอาเจะฮ์ เกาะภูเก็ต และพื้นที่เขาหลักในประเทศไทย เกาะปีนังในประเทศมาเลเซีย และหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ รายงานระบุว่าภาพหายากนี้ทำให้ผู้คน โดยเฉพาะเด็ก ๆ เดินไปที่ชายฝั่งเพื่อสำรวจและเก็บปลาที่เกยตื้นบนชายหาดที่เปิดโล่งยาวถึง 2.5 km (1.6 mi) จนทำให้มีผู้เสียชีวิต[39] กระนั้น ใช่ว่าสึนามิทั้งหมดทำให้เกิดปรากฏการณ์ "ทะเลหาย" ในบางกรณีกลับไม่มีสัญญาณเตือนเลย นั่นคือ ทะเลจะท่วมสูงขึ้นอย่างกะทันหันโดยไม่ถอยกลับ ทำให้ผู้คนจำนวนมากตกใจและไม่มีเวลาหนีมากนัก

คลื่นสึนามิที่อ่าวเบงกอลหลีงเกิดแผ่นดินไหวชั่วโมงเดียว

หนึ่งในพื้นที่ชายฝั่งไม่กี่แห่งที่มีการอพยพล่วงหน้าก่อนเกิดสึนามิคือเกาะซีเมอลูเวอที่อยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว คติชนบนเกาะที่เล่าถึงแผ่นดินไหวและสึนามิใน ค.ศ. 1907 และชาวเกาะหนีขึ้นเนินเขาในแผ่นดินหลังเกิดแรงสั่นสะเทือนครั้งแรกก่อนคลื่นสึนามิเข้าโจมตี เรื่องเล่าและคติชนมุขปาฐะจากคนรุ่นก่อนหน้าเหล่านี้อาจมีส่วนช่วยในพลเมืองรอดชีวิต[40] ที่หาดไม้ขาวทางเหนือของเทศบาลนครภูเก็ต ประเทศไทย นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอายุ 10 ขวบชื่อทิลลี สมิธ เคยเรียนเรื่องสึนามิในวิชาภูมิศาสตร์ที่โรงเรียนและจำสัญญาณเตือนของระดับน้ำทะเลที่ลดลงและฟองอากาศที่ก่อตัวเป็นฟองได้ เธอและพ่อแม่จึงเตือนคนอื่น ๆ บนชายหาด ซึ่งอพยพออกไปอย่างปลอดภัย[41] จอห์น ครอสตัน ครูชีววิทยาจากสกอตแลนด์ ก็รู้สัญญาณที่หาดกมลาทางเหนือของภูเก็ต นำรถบัสที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ขึ้นไปยังที่สูงเพื่อความปลอดภัย

ในตอนแรก นักมานุษยวิทยาคาดการณ์ว่าประชากรพื้นเมืองบนหมู่เกาะอันดามันจะได้รับผลกระทบจากสึนามิอย่างมาก และบางคนถึงขึ้นกลัวว่าเผ่าโอเงอที่มีประชากรน้อยอยู่แล้วจะถูกกำจัดไป[42] อย่างไรก็ตาม ชนเป่าพื้นเมืองหลายกลุ่มอพยพออกไปและมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตน้อยกว่าที่คาด[43][44] ประเพณีมุขปาฐะที่สืบทอดมาจากแผ่นดินไหวครั้งก่อนช่วยให้ชนเผ่าพื้นเมืองหนีรอดจากคลื่นสึนามิได้ เช่น นิทานพื้นบ้านของชาวโอเงอเล่าว่า "พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงตามมาด้วยกำแพงน้ำสูง" ดูเหมือนว่าชาวโอเงอเกือบทั้งหมดรอดชีวิตจากคลื่นสึนามิ[45]

ประเทศไทย

ประมาณ 2 ชั่วโมงหลังจากเกิดแผ่นดินไหว คลื่นสึนามิได้เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกผ่านทะเลอันดามันเข้ากระทบชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากศูนย์กลางประมาณ 500 กม. (310 ไมล์) ในตอนนั้นจังหวัดทางภาคใต้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเนื่องจากเทศกาลคริสต์มาส นักท่องเที่ยวจำนวนมากเสียชีวิตจากสึนามิเพราะไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า สึนามิเกิดในช่วงน้ำขึ้นพอดี จุดที่ได้รับความเสียหายสำคัญได้แก่ ชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะภูเก็ต เขาหลัก จังหวัดพังงา ชายฝั่งจังหวัดกระบี่ จังหวัดสตูล จังหวัดระนอง และจังหวัดตรัง ความเสียหายยังกระจายไปถึงเกาะนอกชายฝั่งเช่น เกาะราชาใหญ่ เกาะพีพี หมู่เกาะสุรินทร์ และหมู่เกาะสิมิลัน มีผู้เสียชีวิตทั้งหมดประมาณ 8,000 คน

ในประเทศไทยมีความสูงของคลื่นแต่ละพื้นที่ดังนี้[46][47]

  • 6–10 เมตร (20–33 ฟุต) ในเขาหลัก จังหวัดพังงา
  • 3–6 เมตร (9.8–19.7 ฟุต) ตามแนวชายฝั่งทางตะวันตกหันหน้าไปทะเลอันดามัน จังหวัดภูเก็ต
  • 3 เมตร (9.8 ฟุต) ตามแนวชายฝั่งทางใต้หันหน้าไปทะเลอันดามัน จังหวัดภูเก็ต
  • 2 เมตร (6 ฟุต 7 นิ้ว) ตามแนวชายฝั่งทางตะวันออกหันหน้าไปทางอ่าวพังงา จังหวัดภูเก็ต
  • 4–6 เมตร (13–20 ฟุต) บนเกาะพีพี
  • 19.6 เมตร (64 ฟุต) ที่บ้านทุ่งดาบ จังหวัดพังงา
  • 6.8 เมตร (22 ฟุต) บ้านทะเลนอก จังหวัดระนอง
  • 5 เมตร (16 ฟุต) ที่หาดประพาส (สถานีวิจัยทรัพยากรชายฝั่งระนอง)
  • 6.3 เมตร (21 ฟุต) อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
  • 6.8 เมตร (22 ฟุต) ที่ไร่ด่าน
Thumb
แผนที่แสดงประเทศที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นสึนามิ
Thumb
เรือบุเรศผดุงกิจ ของตำรวจน้ำ (813) ถูกคลื่นสึนามิซัด

ความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สิน

ข้อมูล ณ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2548 มีจำนวนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้สูญหาย ในประเทศไทย มีจำนวนทั้งหมด 5,309 คน ผู้สูญหายจำนวนทั้งหมด 3,370 คน ต่อมาได้มีการรับแจ้งจากญาติพี่น้องของผู้ประสบภัยภายหลังการเกิดเหตุ จำนวนดังกล่าวนี้ลดลงเพราะได้พบผู้ที่รับแจ้งว่าสูญหายบางคนแล้ว นอกจากนี้ยังมีการค้นพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการตรวจสอบเอกลักษณ์ของศพที่เก็บรักษาไว้เพื่อให้ทราบว่าเป็นผู้ใด ในรายงานของกระทรวงมหาดไทยที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2548 เหตุการณ์ในครั้งนี้ยังทำให้ คุณพุ่ม เจนเซน พระราชนัดดาใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระโอรสใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ถึงแก่อนิจกรรมด้วย นอกจากมีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้สูญหายเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีความเสียหายในด้านทรัพย์สิน ได้แก่ บ้านเรือนของราษฎร โรงแรม บังกะโล โฮมสเตย์ เกสต์เฮาส์ ร้านค้า ร้านอาหาร ทรัพย์สินส่วนตัวของนักท่องเที่ยว ยานพาหนะ ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ อาทิ ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ถนน เป็นมูลค่ากว่าพันล้านบาท [48]

ความเสียหายด้านเศรษฐกิจ

ด้านเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ภูเก็ต,พังงาและกระบี่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเสียชีวิต และบาดเจ็บมากที่สุด มีแหล่งท่องเที่ยวได้รับความเสียหายมาก จำนวน 8 แห่ง คือ

Remove ads

ผลกระทบ

สรุป
มุมมอง

ประเทศที่ได้รับผลกระทบ

Thumb
  ได้รับความเสียหายอย่างหนักและสูญเสียชีวิต
  ได้รับความเสียหายปานกลางและสูญเสียชีวิตบางส่วน
  ได้รับความเสียหายน้อยและไม่มีผู้เสียชีวิต
  สูญเสียพลเมืองต่างชาติ

ตามรายงานTsunami Evaluation Coalitionฉบับสุดท้าย มีจำนวนผู้เสีียชีวิต 227,898 คน[49] ยอดรวมทั่วไปอีกแห่งจากสำนักงานทูตพิเศษแห่งสหประชาชาติเพื่อการฟื้นฟูจากคลื่นสึนามิระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 229,866 คน[50] เมื่อวัดจำนวนผู้เสียชีวิต ถือเป็นหนึ่งในสืบแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึก และเป็นสึนามิที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ประเทศอินโดนีเซียได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยมียอดผู้เสียชีวิตสูงสุดประมาณ 170,000 คน[51] เฉพาะอินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตมากถึง 172,761 คน[52] ตามรายงานช่วงแรกของซีตี ฟาดีละฮ์ ซูปารี รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียในขณะนั้น ประมาณการว่ามีผู้เสียชีวิตในอินโดนีเซียอย่างเดียวสูงถึง 220,000 คน รวมเป็น 280,000 คน[53] อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตและสูญหายที่คาดการณ์ไว้ในภายหลังที่อินโดนีเซียลดลงกว่า 50,000 ราย ในรายงานของ Tsunami Evaluation Coalition ระบุว่า "ควรระลึกว่าข้อมูลทั้งหมดอาจมีข้อผิดพลาดได้ เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่สูญหายเป็นการเฉพาะ อาจไม่ดีเท่าที่คาดหวังไว้เสมอไป"[54] รายงานจากประเทศไทยระบุว่าประเทศพม่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่า[55]

สึนามิสร้างความเสียหายและทำให้มีผู้เสียชีวิตไกลสุดถึงชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก โดยมีบันทึกผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิโดยตรงมากที่สุดที่ Rooi-Els ใกล้กับเคปทาวน์ ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวถึง 8,000 km (5,000 mi)[56]

นอกจากพลเรือนที่เสียชีวิตหรือสูญหายจำนวนมากแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติมากถึง 9,000 คน (ส่วนใหญ่มาจากทวีปยุโรป) ที่กำลังเพลิดเพลินกับช่วงวันหยุดช่วงเทศกาลท่องเที่ยวสูงสุด โดยเฉพาะผู้ที่มีจากกลุ่มประเทศนอร์ดิก ก็เสียชีวิตหรือสูญหายเช่นกัน[57]

ข้อมูลเพิ่มเติม ประเทศที่ได้รับความเสียหาย[a], จำนวนผู้เสียชีวิตที่ยืนยัน ...
Remove ads

ดูเพิ่ม

หมายเหตุ

  1. แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาดโดยประมาณเทียบเท่าหรือน้อยกว่าแผ่นดินไหวอะแลสกา ค.ศ. 1964 (Mw 9.2–9.3)[14] แผ่นดินไหวทั้งสองเมื่อวัดแล้ว อาจทำให้มีความรุนแรงหลังจากแผ่นดินไหวบัลดิเบีย ค.ศ. 1964 (Mww 9.5–9.6)[15] (ทั้งสองอยู่ในอันดับ 2) หรือหนึ่งในนั้นใหญ่เป็นอันดับสองหรือสาม (เช่น เหตุการณ์ใน ค.ศ. 1964 อยู่ที่อันดับ 2 รองลงมาคือเหตุการณ์ ค.ศ. 2004 และในทางกลับกัน)[16]

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads