คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

แอร์บัส เอ321

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

แอร์บัส เอ321
Remove ads

แอร์บัส เอ321 (อังกฤษ: Airbus A321) เป็นรุ่นของอากาศยานไอพ่นลำตัวแคบ ผลิตโดยแอร์บัสแอสอาแอส โดยมีความจุผู้โดยสารอยู่ที่ 185 ถึง 236 ที่นั่ง เอ321 เป็นรุ่นที่เพิ่มความยาวลำตัวเครื่องจากเอ320 เดิม และได้เริ่มประจำการกับลุฟท์ฮันซ่าในปี 1994 ประมาณหกปีหลังจากเอ320 เครื่องบินรุ่นนี้มีศักยการบินเฉพาะแบบเหมือนกับรุ่นอื่นในตระกูลเอ320 นักบินสามารถทำการบินบนเครื่องบินตระกูลเอ320 ได้ทุกรุ่นจากการที่แต่ละรุ่นมีระบบการบินที่ใกล้เคียงกัน

ข้อมูลเบื้องต้น ข้อมูลทั่วไป, บทบาท ...

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2010 แอร์บัสได้ประกาศการพัฒนาเครื่องบินตระกูลเอ320นีโอ (ตัวเลือกเครื่องยนต์แบบใหม่) ซึ่งเป็นการพัฒนาของเครื่องบินตระกูลเอ320 เดิม โดยมีพัฒนาประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น[2] การพัฒนาของรุ่นใหม่นี้ยังคงใช้ขนาดลำตัวเครื่องเดิมของเอ321ซีอีโอ แต่จะมีการใช้เครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมกับการปรับปรุงโครงสร้างเครื่องบินและการใช้ปลายปีกแบบชาร์กเลต เอ321นีโอมีประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นถึง 15% โดยสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 244 ที่นั่งพร้อมพิสัยการบิน 4,000 ไมล์ทะเล (7,400 กิโลเมตร; 4,600 ไมล์) สำหรับรุ่นพิสัยไกลที่จัดเรียงห้องโดยสารแบบ 206 ที่นั่ง[3]

เอ321 มีฐานการผลิตหลักอยู่ที่ท่าอากาศยานฟิงเคินแวร์เดอร์ในฮัมบวร์ค ประเทศเยอรมนี และโมบีล รัฐแอละบามา สหรัฐ โดย ณ เดือนเมษายน ค.ศ. 2024 ได้มีการส่งมอบแอร์บัส เอ321 จำนวน 3,123 ลำ โดยมีประจำการอยู่ 3,057 ลำ และมียอดสั่งซื้อสำหรับรุ่นนีโอ 4,992 ลำ อเมริกันแอร์ไลน์เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุด โดยมีเอ321 ประจำการอยู่ 298 ลำในฝูงบิน[1]

Remove ads

ลักษณะ

Thumb
ปีกของเอ321 ซึ่งมีแฟลบแบบสองระดับ

อากาศยานไอพ่นลำตัวกว้างที่มีการจัดเรียงล้อลงจอดแบบรถสามล้อที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สองเครื่อง มีระบบครีบและหางเสือเดียว เอ321 ได้มีการขยายความยาวลำตัวเครื่องและมีการปรับปรุงระบบปีกจากเอ320 เดิม โดยในส่วนหน้าปีกได้ขยายความยาวเพิ่ม 4.27 เมตร (14 ฟุต 0 นิ้ว) และอีก 2.67 เมตร (8 ฟุต 9 นิ้ว) ในส่วนด้านหลังปีก โดยรวมเอ321 จะยาวกว่าเอ320 6.94 เมตร (22 ฟุต 9 นิ้ว)[3][4][5][6] ด้วยความยาวที่มากขึ้นนี้ทำให้เอ321 จะต้องมีประตูทางออกเพิ่มขึ้น โดยจะติดตั้งอยู่ด้านหน้าและหลังของปีก[7] แอร์บัสได้มีการปรับปรุงระบบแฟลบและอุปกรณ์ผิวปีกบนเอ321 เพื่อรักษาประสิทธิภาพ[5] โดยได้ใช้ระบบแฟลบสองระดับและเพิ่มพื้นที่ปีกจาก 124 ตารางเมตร (1,330 ตารางฟุต) เป็น 128 ตารางเมตร (1,380 ตารางฟุต)[8] โครงสร้างเครื่องบินถูกปรับปรุงเพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักขึ้นบินสูงสุดที่เพิ่มขึ้น 9,600 กิโลกรัม (21,200 ปอนด์) เป็น 83,000 กิโลกรัม (183,000 ปอนด์) ได้[5]

Remove ads

รุ่น

สรุป
มุมมอง
Thumb
บนเอ321 จะไม่มีทางออกฉุกเฉินเหนือปีก แต่จะมีการติดตั้งประตูประเภท 'C' ด้านหน้าและหลังปีกแทน บนเอ321นีโอบางลำที่ใช้ห้องโดยสารเคบินเฟลกซ์จะยังคงมีทางออกฉุกเฉินเหนือปีก

เอ321-100

แอร์บัส เอ321-100 เป็นรุ่นแรกที่พัฒนาขึ้นมา โดยจะมีพิสัยการบินที่สั้นกว่าเอ320 เพราะไม่มีการติดตั้งถังเชื้อเพลิงเพิ่มเติมเพื่อชดเชยกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เอ321-100 มีน้ำหนักขึ้นบินสูงสุดอยู่ที่ 83,000 กิโลกรัม (183,000 ปอนด์) เอ321-100 เข้าประจำการกับลุฟท์ฮันซ่าในปี 1994 แอร์บัสผลิตรุ่นนี้ออกมาเพียง 90 ลำ โดยมีเพียงไม่กี่ลำที่ต่อมาจะถูกดัดแปลงเป็นรุ่น -200 [9]

เอ321-200

ในปี 1995 แอร์บัสเริ่มพัฒนาเอ321-200 ที่มีน้ำหนักมากขึ้นและพิสัยการบินมากขึ้น เพื่อให้สามารถทำการบินข้ามประเทศของสหรัฐได้ โดยแอร์บัสได้เลือกใช้เครื่องยนต์ที่มีแรงดันมากกว่า (วี2533-เอ5 หรือ ซีเอฟเอ็ม56-5B3) ปรับปรุงโครงสร้าง และเพิ่มตัวเลือกในการติดตั้งถังเชื้อเพลิงขนาด 2,990-ลิตร (790-US-gallon) เพิ่มเติมหนึ่งหรือสองถังใต้ท้องเครื่อง[6] ถังเชื้อเพลิงเพิ่มเติมนี้เพิ่มความจุเชื้อเพลิงเป็น 30,030-ลิตร (7,930-US-gallon) การดัดแปลงนี้ทำให้รุ่น-200 มีน้ำหนักขึ้นบินสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 93,000 กิโลกรัม (205,000 ปอนด์) แอร์บัส เอ321-200 ทำการบินครั้งแรกในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1996 และเข้าประจำการกับโมนาร์กแอร์ไลน์ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1997 รุ่น -200 แข่งขันกับโบอิง757-200และโบอิง737-900/900อีอาร์เป็นหลัก

เอ321นีโอ

Thumb
เอ321นีโอจะใช้เครื่องยนต์ซีเอฟเอ็มลีปหรือพีดับเบิลยู1100จีที่ใหญ่กว่า ในภาพของเพลย์ใช้เครื่องยนต์ลีป

เอ321นีโอเป็นรุ่นที่ลำตัวยาวของเครื่องบินเอ320นีโอ ที่มีพิสัยการบินเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 500 ไมล์ทะเล (930 กิโลเมตร; 580 ไมล์)และมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการเผาผลาญเชื้อเพลิงถึง 15% ด้วยตัวเลือกเครื่องยนต์ซีเอฟเอ็ม ลีปหรือพีดับเบิลยู1100จี[10] แอร์บัสเปิดตัวโครงการพัฒนานี้ในปี 2010 ทำการบินครั้งแรกในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016[11] ได้รับการรับรองในวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ.2016[12] และเริ่มดำเนินงานกับเวอร์จินอเมริกาในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2017[13] เอ321นีโอมีคู่แข่งสำคัญ คือ โบอิง 737 แมกซ์ 9 และ 737 แมกซ์ 10[14][15]

เอ321 แอลอาร์

Thumb
เอ321แอลอาร์ของแอร์ทรานแซท

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2014 แอร์บัสเริ่มหาตลาดสำหรับรุ่นพิสัยไกลที่มีน้ำหนักขึ้นบินสูงสุด 97 ตัน (214,000 ปอนด์) พร้อมกับถังเชื้อเพลิงเพิ่มเติมสามถัง เพื่อให้มีพิสัยการบินเพิ่มขึ้น 100 ไมล์ทะเล (190 กิโลเมตร; 120 ไมล์) ซึ่งมากกว่าโบอิง 757-200[16] แอร์บัสเปิดตัวเอ321แอลอาร์ (LR; Long Range) ในวันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 2015 โดยมีพิสัยการบิน 4,000 ไมล์ทะเล (7,400 กิโลเมตร; 4,600 ไมล์) พร้อมความจุผู้โดยสาร 206 ที่นั่งในการจัดเรียงสองชั้นโดยสาร[17][18] เอ32 แอลอาร์ทำการบินเที่ยวบินแรกในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 2018[19] แอร์บัสได้ประกาศการรับรองเครื่องบินในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2018[20] และเริ่มเข้าประจำการกับอาร์เคียในวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018[21]

เอ321 เอกซ์แอลอาร์

Thumb
เอ321เอกซ์แอลอาร์ของไอบีเรีย ลูกค้าเปิดตัวของรุ่น

แอร์บัสเริ่มศึกษาการพัฒนาเพิ่มน้ำหนักขึ้นบินสูงสุดของเอ321 แอลอาร์ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2018[22] โดยในช่วงแรกเอ321 เอกซ์แอลอาร์ที่เสนอจะมีพิสัยการบินเพิ่มขึ้น 4,500 ไมล์ทะเล (8,300 กิโลเมตร; 5,200 ไมล์) และคาดว่าจะทำการบินครั้งแรกในปี 2019 และจะเข้าประจำการในปี 2021 หรือ 2022 และจะแข่งขันกับโบอิง เอ็นเอ็มเอ.[23] ในเดือนพฤศจิกายน แอร์บัสเปิดเผยว่าเอ321 เอกซ์แอลอาร์ จะมีน้ำหนักขึ้นบินสูงสุดมากกว่า 100 ตัน (220,000 ปอนด์) และมีพิสัยการบินมากกว่าเอ321 แอลอาร์ถึง 700 ไมล์ทะเล (1,300 กิโลเมตร; 810 ไมล์)[24] แอร์บัสเปิดตัวเอ321 เอกซ์แอลอาร์ อย่างเป็นทางการในงานปารีสแอร์โชว์เมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2019 ซึ่งมีพิสัยการบินเพิ่มเติม 4,700 ไมล์ทะเล (8,700 กิโลเมตร; 5,400 ไมล์) รวมถึงถังเชื้อเพลิงบริเวณท้ายลำเพิ่มเติม และโครงสร้างล้อลงจอดที่แข็งแรงขึ้นเพื่อรองรับน้ำหนักขึ้นบินสูงสุดที่เพิ่มขึ้น 101 ตัน (223,000 ปอนด์)[25] เอ321 เอกซ์แอลอาร์ ทำการบินครั้งแรกในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2022[26]

การดัดแปลงสำหรับการขนส่งสินค้า

Thumb
แอร์บัส เอ321P2F ของไททันแอร์เวย์

ถึงแอร์บัสไม่เคยผลิตแอร์บัส เอ321 สำหรับการขนส่งสินค้าโดยเฉพาะ แต่ก็มีการดัดแปลงสำหรับการขนส่งสินค้าเช่นกัน โดนเริ่มแรกแอร์บัสได้จัดตั้ง แอร์บัส เฟรตเตอร์ คอนเวอร์ชัน เกเอ็มเบฮา เพื่อดูแลในโครงการดัดแปลงนี้ แต่ก็ปิดตัวลงในปี 2011 โดยที่ไม่ได้ดัดแปลงเครื่องบินใดๆ[27]

ในวันที่ 17 มิถุนายน ค.ศ. 2015 เอสทีแอโรสเปซได้ทำข้อตกลงกับแอร์บัสและ EFW เพื่อร่วมกันพัฒนาในโครงการการดัดแปลงเครื่องบินเอ320 และเอ321 สำหรับการขนส่งสินค้า (P2F; passenger-to-freighter)[28] เครื่องบินต้นแบบลำแรกทำการบินเมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2020 โดยแอร์บัส เอ321-200P2F ลำแรกได้ส่งมอบให้กับควอนตัสเฟรตในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2020[29]

ไซน์ ดราโคเอวิเอชันเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ให้บริการดัดแปลงเครื่องบินสำหรับโครงการเอ321P2F iโดยเดิมคาดว่าเครื่องบินลำแรกจะสามารถทำการบินได้ในปี 2022[30]

ในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2022 ลุฟท์ฮันซ่าคาร์โกเริ่มให้บริการแอร์บัส เอ321F ซึ่งจะดำเนินการโดยลุฟท์ฮันซ่าซิตีไลน์[31]

Remove ads

ผู้ให้บริการ

ณ เดือนเมษายน ค.ศ. 2024 มีแอร์บัส เอ321 จำนวน 3,057 ลำ (รุ่นซีอีโอ 1,718 ลำและรุ่นนีโอ 1,339 ลำ) ให้บริการกับ 100 สายการบิน[1] อเมริกันแอร์ไลน์และเดลตาแอร์ไลน์เป็นสองผู้ให้บริการเอ321 รายใหญ่ที่สุด โดยมีประจำการในฝูงบินทั้งหมด 298 และ 181 ลำตามลำดับ[1]

คำสั่งซื้อและการส่งมอบ

ข้อมูลเพิ่มเติม รุ่น, คำสั่งซื้อ ...
ข้อมูลเพิ่มเติม รุ่น, การส่งมอบ ...

ขเอมูลเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2024[1][32]

อุบัติเหตุและอุบัติการณ์สำคัญ

ณ เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2024 ได้มีอุบัติเหตุและอุบัติการณ์ทางการบินที่เกี่ยวข้องกับแอร์บัส เอ321 ทั้งหมด 32 ครั้ง[33] โดยหกครั้งส่งผลให้สูญเสียเครื่องบิน และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 377 ราย ณ เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2019[34][35]

ข้อมูลจำเพาะ

ข้อมูลเพิ่มเติม รุ่น, นักบิน ...
Remove ads

เครื่องบินที่ใกล้เคียงกัน

รุ่นที่ใกล้เคียงกัน

เครื่องบินที่ใกล้เคียงกัน

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads