คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ไม้อัด
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ไม้อัด เกิดจากการรวมไม้หลาย ๆ ชนิดเข้าด้วยกันหรือทำจากไม้ชนิดเดียวกัน /โดยการตัดท่อนซุงให้มีความยาวตามที่ต้องการ แล้วกลึงปอกท่อนซุง หรือฝานให้ได้แผ่นไม้เป็นแผ่นบาง ๆ มีความหนาตั้งแต่ 1 ถึง 4 มิลลิเมตร แล้วนำมาอัดติดกันโดยใช้กาวเป็นตัวประสานโดยให้แต่ละแผ่นมีแนวเสี้ยน ตั้งฉากกัน แผ่นไม้จะถูกอบแห้งในเตาอบ
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |

ไม้อัด เป็นวัสดุที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ และใช้งานได้หลากหลาย แต่ “ไม้อัด” ก็ไม่ได้มีเพียงแบบเดียวเท่านั้น ในความเป็นจริง ไม้อัดมีหลากหลายประเภทที่แตกต่างกันทั้งในเรื่องของเนื้อไม้ การเคลือบผิว การกันชื้น และความยืดหยุ่น[1]
ไม้อัดมักมีขนาด กว้าง 4 ฟุต ยาว 8 ฟุต ความหนา ไม้อัดที่ซื้อขายกันทั่วไปในท้องตลาด จะมีความหนาไม่เต็มตามขนาดที่ระบุไว้ เช่นขนาด 10มม. จะหนาจริงประมาณ 7.5 - 8.8 มม. เป็นต้น ให้ดูในตารางข้างล่างในช่อง “ความหนาจริง”[2]
ในภาษาอังกฤษ (plywood) คำว่า ply มาจากคำกริยาภาษาฝรั่งเศส plier[3] ซึ่งแปลว่า "พับ" จากคำกริยาภาษาละติน plico จากคำ กริยาภาษากรีกโบราณ πλέκω[4]
Remove ads
ประเภท
ประเภทไม้อัดตามมาตรฐาน มอก. 178-2549
1.1 ประเภทภายนอก ใช้กาวที่ทนทานต่อลมฟ้าอากาศ น้ำเย็น น้ำเดือด ไอน้ำและความร้อนแห้งได้ดี เหมาะสำหรับ ใช้ภายนอกอาคารหรือในที่ซึ่งถูกน้ำหรือละอองน้ำ
1.2 ประเภททนความชื้น ใช้กาวที่ทนทานต่อลมฟ้าอากาศ น้ำเย็น น้ำเดือด ไอน้ำ และความร้อนแห้งในเวลาจำกัด เหมาะสมสำหรับใช้ภายในและภายนอกอาคารหรือในที่ซึ่งถูกน้ำหรือละอองน้ำเป็นครั้งคราว
1.3 ประเภทภายใน ใช้กาวที่ทนน้ำเย็นได้ดีพอสมควร ทนทานในน้ำร้อนได้ในเวลาจำกัด ไม่ทนทานในน้ำเดือด เหมาะสำหรับใช้ภายในอาคารหรือในที่ซึ่งไม่ถูกน้ำหรือละอองน้ำ
1.4 ประเภทชั่วคราว ใช้กาวที่ทนน้ำเย็นได้ในเวลาจำกัด เหมาะสำหรับใช้งานชั่วคราว[5]
Remove ads
คุณภาพของไม้อัด
สรุป
มุมมอง
มาตรฐาน มอก.178 -2549 คือมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของแผ่นไม้อัด โดยกำหนดขอบเขตไว้ว่า แผ่นไม้อัด นั้นทำจากไม้บางที่ต้องประกอบกันตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป และมีลักษณะเป็นแผ่นเรียบ โดยที่ไม่รวมวัสดุปิดผิวอื่นๆ ที่ใช้ตกแต่งผิวหน้าของไม้อัด นอกจากนี้ ยังมีข้อกำหนดอื่นๆ เพื่อเป็นมาตรฐานการผลิตสำหรับผู้ผลิตไม้อัดเพื่อให้ได้ไม้อัดที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐาน เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับประเภทกาวที่ใช้ ส่วนประกอบในการทำ การทดสอบผลิตภัณฑ์ ซึ่งมาตรฐานนี้จะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ในการผลิตหรือเลือกซื้อไม้อัด[6]
หนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของไม้อัดที่มีคุณภาพคือความไม่สมบูรณ์ของพื้นผิวที่มองเห็นได้ สิ่งเหล่านี้มีตั้งแต่รอยขีดข่วนเล็กน้อยและรอยบุบจนถึงปัญหาที่รุนแรงมากขึ้นเช่นแผลพุพองการปราบปรามหรือความไม่สม่ำเสมอ ไม้อัดขนาดเล็ก บาง และคุณภาพต่ำกว่า อาจมีแผ่นไม้อัด (ชั้น) วางตั้งฉากกันเท่านั้น ไม้อัดคุณภาพดีบางชนิดได้รับการออกแบบให้มีแผ่นไม้อัด 5 แผ่น เรียงเป็นขั้นๆ ละ 45 องศา (0, 45, 90, 135 และ 180 องศา) ซึ่งทำให้มีความแข็งแรงในหลายแกน[7]
ไม้เนื้ออ่อน
ไม้อัดเกรด A เป็นไม้อัดคุณภาพสูงที่สุด แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ก็คุ้มค่ากับเวลาที่ประหยัดไปสำหรับงานที่ต้องมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม้อัดประเภทนี้มีความเรียบเนียนและทาสีได้ง่าย
ไม้อัดเกรด B มักจะมีตำหนิเล็กน้อยซึ่งอาจต้องซ่อมแซมเล็กน้อย และความเรียบจะน้อยกว่าเล็กน้อย
ไม้อัดเกรด C จะมีตำหนิและตาไม้ที่มองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางสูงสุดถึง 1.5 นิ้ว
ไม้อัดเกรด D อาจมีตำหนิและปมขนาดใหญ่ได้ถึงเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 นิ้ว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเป็นไม้อัดวีเนียร์เกรดที่ถูกที่สุด
ตัวอักษรตัวแรกหมายถึงเกรดของหน้าไม้อัด และตัวอักษรตัวที่สองหมายถึงด้านหลัง ดังนั้น ไม้อัด "AB" จึงมีแผ่นไม้อัดหน้าเกรด A และแผ่นไม้อัดหลังเกรด B[8]
Remove ads
คุณสมบัติ
- มีความแข็งแรงทนทานสูง มีความคงตัวไม่ยืดหด และแตกง่าย
- สามารถตอกตะปูหรือใช้ตะปูควงขันใกล้ขอบแผ่น หรือทุกส่วนได้รอบด้าน
- สามารถตัดด้วย เลื่อย และฉลุได้ง่าย ไม่แตกหัก สามารถโค้งงอได้โดยไม่ฉีกหัก
- เป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี
- สามารถรับน้ำหนักได้ในอัตราที่สูงกว่าไม้ธรรมดา
ประโยชน์ใช้สอย
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads