![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/fe/James_Cameron_by_Gage_Skidmore.jpg/640px-James_Cameron_by_Gage_Skidmore.jpg&w=640&q=50)
เจมส์ แคเมอรอน
ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวแคนาดา / From Wikipedia, the free encyclopedia
เจมส์ แฟรนซิส แคเมอรอน (อังกฤษ: James Francis Cameron;[1] เกิด 16 สิงหาคม ค.ศ. 1954) เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ชาวแคนาดา[2][3] หลังจากทำงานด้านเทคนิคพิเศษ เขาก็ประสบความสำเร็จหลังกำกับและเขียนบทภาพยนตร์แนวโลดโผนบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์เรื่อง ฅนเหล็ก 2029 (1984) เขากลายเป็นผู้กำกับยอดนิยมในฮอลลีวูดและถูกว่าจ้างให้เขียนบทและกำกับ เอเลี่ยน 2 ฝูงมฤตยูนอกโลก (1986) สามปีต่อมาก็กำกับภาพยนตร์เรื่อง ดิ่งขั้วมฤตยู (1989) เขาได้รับคำชมจากการใช้เทคนิคพิเศษใน ฅนเหล็ก 2029 ภาค 2 (1991) หลังภาพยนตร์ คนเหล็ก ผ่านิวเคลียร์ (1994) แคเมอรอนถ่ายทำภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาในเวลานั้นก็คือ ไททานิค (1997) ซึ่งทำให้เขาได้รับ รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และลำดับภาพยอดเยี่ยม
เจมส์ แคเมอรอน ซีซี | |
---|---|
![]() แคเมอรอนใน ค.ศ. 2016 | |
เกิด | เจมส์ แฟรนซิส แคเมอรอน (1954-08-16) สิงหาคม 16, 1954 (69 ปี) คาพุสคาซิง รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา |
ศิษย์เก่า | วิทยาลัยฟูลเลอร์ตัน |
อาชีพ |
|
ปีปฏิบัติงาน | ค.ศ. 1978–ปัจจุบัน |
คู่สมรส |
|
บุตร | 4 คน |
หลังจาก ไททานิค แคเมอรอนเริ่มโครงการที่ต้องใช้เวลาเกือบ 10 ปีในการสร้าง นั้นก็คือภาพยนตร์แนวมหากาพย์บันเทิงคดีวิทยาศาสตร์เรื่อง อวตาร (2009) โดยถือเป็นหลักสำคัญของเทคโนโลยีสามมิติและเขาได้รับการเสนอชื่อรางวัลออสการ์สามสาขาเดิม ถึงแม้ว่า อวตาร จะเป็นภาพยนตร์เดียวของเขาที่ถ่ายทำในระบบสามมิติ แต่ก็ทำให้แคเมอรอนเป็นผู้สร้างภาพยนตร์สามมิติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในแง่ของรายได้จากบ็อกซ์ออฟฟิศ[4] ในช่วงเวลาระหว่างการสร้าง ไททานิค และ อวตาร แคเมอรอนใช้เวลาหลายปี สร้างภาพยนตร์สารคดีมากมาย (โดยเฉพาะสารคดีใต้น้ำ) และร่วมพัฒนา ระบบกล้องฟิวชัน ดิจิทัลสามมิติ นักเขียนชีวประวัติกล่าวว่า แคเมอรอนเป็นกึ่งนักวิทยาศาสตร์และกึ่งศิลปิน[5] แคเมอรอนยังให้การสนับสนุนเทคโนโลยี การถ่ายทำใต้น้ำ และการควบคุมยานพาหนะจากระยะไกล[2][3][6] เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ค.ศ. 2012 แคเมอรอนดำน้ำลงไปถึงจุดที่ลึกที่สุดของร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา ด้วยเรือดำน้ำ ดีพซีชาลเลนเจอร์[7][8][9] เขาเป็นคนแรกที่ทำได้ในการดำลงไปคนเดียวและเป็นคนที่สามจากการดำทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น เมื่อปี ค.ศ. 2010 นิตยสาร ไทม์ ได้ยกให้แคเมอรอนเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก[10] แคเมอรอนกลายเป็นผู้กำกับคนแรกในประวัติศาสตร์ที่มีภาพยนตร์สามเรื่องทำเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ได้แก่ ไททานิค, อวตาร และ อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ) ทั้งยังเป็นผู้กำกับคนแรกที่เงินรวมทั้งหมด 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงเป็นผู้กำกับที่มีภาพยนตร์ภาคต่อที่ทำเงินสูงสุดในประวัติศาสตร์ (อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ)