กรรมฐาน
From Wikipedia, the free encyclopedia
กรรมฐาน (บาลี :kammaṭṭhāna, กมฺมฏฺาน) (สันสกฤต: karmasthana) หมายถึง ที่ตั้งแห่งการทำงานของจิต สิ่งที่ใช้เป็นอารมณ์ในการเจริญภาวนา อุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกอบรมจิต หรืออุบายหรือกลวิธีเหนี่ยวนำให้เกิดสมาธิ กรรมฐานจึงเป็นสิ่งที่เอามาให้จิตกำหนด เพื่อให้จิตสงบอยู่ได้ ไม่เที่ยวเตลิดเลื่อนลอยฟุ้งซ่าน ไปอย่างไร้จุดหมาย
อย่างไรในพระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับหลวงแปลคำว่า กมฺมฏฺาน ว่า ฐานะแห่งการงาน[1] [2] มากไปกว่านั้นในพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐพบคำว่า กมฺมฏฺาน เฉพาะในเล่มที่ 13 ข้อที่ 711 ถึง 713 เท่านั้น[3]
เสยฺยถาปิ มาณว กสิกมฺมฏฺาน มหตฺถ มหากิจฺจ
มหาธิกรณ มหาสมารมฺภ วิปชฺชมาน อปฺปปฺผล โหติ เอวเมว โข มาณว ฆราวาสกมฺมฏฺาน มหตฺถ มหากิจฺจ มหาธิกรณ มหาสมารมฺภ วิปชฺชมาน อปฺปปฺผล โหติ ฯ เสยฺยถาปิ มาณว กสิเยว กมฺมฏฺาน มหตฺถ มหากิจฺจ มหาธิกรณ มหาสมารมฺภ สมฺปชฺชมาน มหปฺผล โหติ เอวเมว โข มาณว ฆราวาสกมฺมฏฺาน มหตฺถ มหากิจฺจ มหาธิกรณ มหาสมารมฺภ สมฺปชฺชมาน มหปฺผล โหติ ฯ เสยฺยถาปิ มาณว วนิชฺชากมฺมฏฺาน อปฺปตฺถ อปฺปกิจฺจ อปฺปาธิกรณ อปฺปสมารมฺภ วิปชฺชมาน อปฺปปฺผล โหติ เอวเมว โข มาณว ปพฺพชฺชากมฺมฏฺาน อปฺปตฺถ อปฺปกิจฺจ อปฺปาธิกรณ อปฺปสมารมฺภ วิปชฺชมาน อปฺปปฺผล โหติ ฯ เสยฺยถาปิ มาณว วนิชฺชาเยว กมฺมฏฺาน อปฺปตฺถ อปฺปกิจฺจ อปฺปาธิกรณ อปฺปสมารมฺภ สมฺปชฺชมาน มหปฺผล โหติ เอวเมว โข มาณว ปพฺพชฺชากมฺมฏฺาน อปฺปตฺถ อปฺปกิจฺจ อปฺปาธิกรณ อปฺปสมารมฺภ
สมฺปชฺชมาน มหปฺผล โหตีติ ฯ
— พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ เล่มที่ 13 สุตฺตนฺตปิฏเก มชฺฌิมนิกายสฺส มชฺฌิมปณฺณาสกํ หน้าที่ 653 ข้อที่ 713
ดูกรมาณพ เปรียบเหมือนฐานะคือกสิกรรม ที่มีความต้องการมาก มีกิจมาก
มีอธิกรณ์มาก มีความเริ่มมาก เมื่อวิบัติ ย่อมมีผลน้อย ฉันใด ฐานะแห่งการงานของฆราวาส ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ที่มีความต้องการมาก มีกิจมาก มีอธิกรณ์มาก มีการเริ่มมาก เมื่อวิบัติ ย่อมมีผลน้อย. ฐานะคือกสิกรรมนั่นแล ที่มีความต้องการมาก มีกิจมาก มีอธิกรณ์มาก มี การเริ่มมาก เมื่อเป็นสมบัติ ย่อมมีผลมาก ฉันใด ฐานะแห่งการงานของฆราวาสก็ฉันนั้นเหมือน กัน ที่มีความต้องการมาก มีกิจมาก มีอธิกรณ์มาก มีการเริ่มมาก เมื่อเป็นสมบัติ ย่อมมีผล มาก. การงานคือการค้าขาย ที่มีความต้องการน้อย มีกิจน้อย มีอธิกรณ์น้อย มีการเริ่มน้อย เมื่อวิบัติ ย่อมมีผลน้อย ฉันใด ฐานะแห่งการงานฝ่ายบรรพชาก็ฉันนั้นเหมือนกัน ที่มีความ ต้องการน้อย มีกิจน้อย มีอธิกรณ์น้อย มีการเริ่มน้อย เมื่อวิบัติ ย่อมมีผลน้อย. ฐานะแห่ง การงานคือการค้าขายนั่นแล ที่มีความต้องการน้อย มีกิจน้อย มีอธิกรณ์น้อย มีการเริ่มน้อย เมื่อเป็นสมบัติ ย่อมมีผลมาก ฉันใด ฐานะแห่งการงานฝ่ายบรรพชาก็ฉันนั้นเหมือนกัน ที่มี
ความต้องการน้อย มีกิจน้อย มีอธิกรณ์น้อย มีการเริ่มน้อย เมื่อเป็นสมบัติ ย่อมมีผลมาก
— พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับหลวง เล่มที่ 13 สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ หน้าที่ 593 ข้อที่ 713