การปฏิวัติซินไฮ่
From Wikipedia, the free encyclopedia
การปฏิวัติซินไฮ่ (จีน:辛亥革命อังกฤษ: Xinhai (Hsinhai) Revolution) หรืออีกชื่อว่า การปฏิวัติ ค.ศ. 1911 หรือการปฏิวัติจีน เป็นการปฏิวัติซึ่งโค่นล้มราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สุดท้ายที่ปกครองจีน การปฏิวัติได้เปลี่ยนการปกครองของประเทศไปสู่ประชาธิปไตยและสถาปนาสาธารณรัฐจีน การปฏิวัตินี้ได้ชื่อว่าซินไฮ่เพราะมีขึ้นใน ค.ศ. 1911 ซึ่งตรงกับอักษรซินไฮ่ในแผนภูมิสวรรค์ในปฏิทินจีน[2]
การปฏิวัติซินไฮ่ (การปฏิวัติจีน) | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
วันดับเบิลเท็นในเซี่ยงไฮ้ บนถนนหนานจิงหลังการก่อการกำเริบเซี่ยงไฮ้ ประดับตกแต่งด้วยธงห้าเชื้อชาติใต้หนึ่งสหภาพซึ่งเป็นธงที่ใช้ในการปฏิวัติจีน | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
พรรคนิยมราชวงศ์[1] |
ฝ่ายสาธารณรัฐ
ถงเหมิงฮุ่ย
สหรัฐ | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
จักรพรรดินีหลงยฺวี่ พระพันปีหลวง องค์ชายไจ้เฟิง (ฉุนชินหวัง), จักรพรรดิผู่อี๋, หยวน ซื่อไข่, เฟิ่งเกาจาง หม่าอันเหลียง, ต้วนฉีรุ่ย, หยางเจิ้งซิน, หม่าฉี, อภิชนราชวงศ์ชิงอื่นอีกมาก |
ซุน ยัตเซ็น, เฉิน ฉีเหม่ย์ หวงซิง, ซ่งเจียวเหริน, หลี่ หยวนหง โฮเมอร์ ลีอาห์ | ||||||
กำลัง | |||||||
200,000 | 100,000 | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
~170,000 | ~50,000 |
การปฏิวัติซินไฮ่ | |||||||||||||||||||||||
"การปฏิวัติซินไฮ่" เขียนแบบอักษรจีน | |||||||||||||||||||||||
ภาษาจีน | 辛亥革命 | ||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ความหมายตามตัวอักษร | "Xinhai (stem-branch) revolution" | ||||||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||||||
การปฏิวัติประกอบด้วยการกบฏและการก่อการกำเริบหลายครั้ง จุดเปลี่ยนคือ การก่อการกำเริบวูชางเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1911 ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดการกับขบวนการคุ้มครองทางรถไฟที่ผิด การปฏิวัติสิ้นสุดลงด้วยการสละราชสมบัติของจักรพรรดิผู่อี๋ จักรพรรดิองค์สุดท้าย เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1912 อันเป็นจุดสิ้นสุดของจักรวรรดิจีนอายุกว่า 2,000 ปี และจุดเริ่มต้นของการปกครองแบบสาธารณรัฐของจีน[3]
โดยทั่วไปแล้ว การปฏิวัติครั้งนี้เป็นปฏิกิริยาต่อสามปัจจัยหลัก: (1) ความเสื่อมของรัฐชิงและความไม่สามารถปฏิรูปและนำพาจีนสู่ความทันสมัยเพื่อเผชิญหน้ากับการท้าทายของต่างชาติ, (2) เพื่อย้อนความเสื่อมโทรมภายใน และ (3) ความไม่พอใจของชาวจีนฮั่นซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ต่อชนกลุ่มน้อยแมนจูที่เป็นชนชั้นปกครอง กลุ่มต่อต้านชิงใต้ดินหลายกลุ่มและด้วยการสนับสนุนจากนักปฏิวัติจีนพลัดถิ่น ได้พยายามโค่นล้มราชวงศ์ชิง สงครามกลางเมืองระยะสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นตามมายุติลงด้วยการประนีประนอมทางการเมืองระหว่างหยวน ซื่อไข่ ผู้มีอิทธิพลทางทหารในสมัยปลายราชวงศ์ชิง และซุน ยัตเซ็น ผู้นำถงเหมิงฮุย (สหสันนิบาต) หลังราชสำนักจีนโอนอำนาจไปยังสาธารณรัฐที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นใหม่ การสถาปนารัฐบาลผสมเฉพาะกาลได้มีขึ้นร่วมกับรัฐสภา อย่างไรก็ดี อำนาจทางการเมืองในรัฐบาลแห่งชาติใหม่ในกรุงปักกิ่งนั้น ไม่นานได้ถูกผูกขาดโดยหยวนและนำไปสู่การแบ่งแยกทางการเมืองและยุคขุนศึกนานอีกหลายทศวรรษ รวมทั้งความพยายามฟื้นฟูจักรวรรดิหลายครั้ง
ปัจจุบัน ทั้งสาธารณรัฐจีนบนเกาะไต้หวันและสาธารณรัฐประชาชนจีนบนแผ่นดินใหญ่มองว่าตนเป็นผู้สืบทอดการปฏิวัติซินไฮ่และยังคงเคารพอุดมการณ์ของการปฏิวัติ รวมทั้งชาตินิยม สาธารณรัฐนิยม การทำให้จีนทันสมัยและความสามัคคีแห่งชาติ วันที่ 10 ตุลาคมในไต้หวันเป็นวันดับเบิลเท็น (Double Ten Day) วันชาติของสาธารณรัฐจีน ในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงและมาเก๊า วันเดียวกันนี้ยังมักเฉลิมฉลองเป็นวันครบรอบการปฏิวัติซินไฮ่[4] ชาวจีนโพ้นทะเลจำนวนมากยังเฉลิมฉลองในไชนาทาวน์ทั่วโลก