ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย
ความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย / From Wikipedia, the free encyclopedia
สถานการณ์ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย (มลายู: Pemberontakan di Thailand Selatan) หรือ ไฟใต้ หมายถึง ความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามจังหวัด คือ จังหวัดปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ระหว่างรัฐไทยกับกลุ่มก่อความไม่สงบหลายกลุ่ม อย่างไรก็ดี บางครั้งมีการลุกลามมาถึงบางอำเภอของจังหวัดสงขลา[41] และบางทีมีการโทษว่าการก่อการร้ายในกรุงเทพมหานครและจังหวัดภูเก็ตเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบภาคใต้ด้วย[42]
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
แผนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีพื้นที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมเชื้อสายมลายู | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี (BRN)
อดีตผู้สนับสนุน:
| |||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
เศรษฐา ทวีสิน (นายกรัฐมนตรีไทย) พลโท ศานติ ศกุนตนาค (แม่ทัพภาคที่ 4) |
สะแปอิง บาซอ[21] อดีตผู้สนับสนุน:
| ||||||
หน่วยที่เกี่ยวข้อง | |||||||
กองทัพอากาศไทย[33][34][35]
| ไม่มีหน่วยเฉพาะ | ||||||
กำลัง | |||||||
60,000 นาย [2] | 10,000–30,000 นาย[2] | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
เสียชีวิตมากกว่า 7,152 ราย (พ.ศ. 2547–2563)[37][38][39] บาดเจ็บมากกว่า 13,000 ราย (พ.ศ. 2547–2564)[40] |
ภูมิภาคสามจังหวัดภาคใต้ดังกล่าวนั้นเดิมเป็นรัฐสุลต่านปตานีดารุสซาลามซึ่งปกครองตนเองมาก่อน จนเมื่อมีการกลืนวัฒนธรรมทำให้เกิดความขัดแย้งเริ่มตั้งแต่ปี 2491[43] เป็นการก่อกำเริบการแยกออกทางเชื้อชาติและศาสนาในภูมิภาคมลายูปัตตานี[44] มีความรุนแรงเพื่อแบ่งแยกดินแดนระดับต่ำในภูมิภาคดังกล่าวหลายทศวรรษ แต่เหตุการณ์บานปลายหลังปี พ.ศ. 2544 โดยมีการกลับกำเริบในปี 2547 ระหว่างปี 2547–2554 มีผู้เสียชีวิต 4,500 คนและได้รับบาดเจ็บ 9,000 คน ลักษณะการก่อเหตุมีจุดมุ่งหมายเพื่อแก้แค้นมากขึ้น และเป็นการโจมตีไม่เลือกลดลง[45]
กลุ่มก่อความไม่สงบในระยะแรกมีเป้าหมายเพื่อแยกตัวออกเป็นอิสระ เช่น BNPP และ PULO ผู้นำท้องถิ่นเรียกร้องอัตตาณัติระดับหนึ่งแก่ภูมิภาคปัตตานีอย่างต่อเนื่อง และขบวนการผู้ก่อการกำเริบแยกตัวออกบางส่วนเรียกร้องให้มีการเจรจาสันติภาพ อย่างไรก็ดี หลังความรุนแรงรอบใหม่ในปี 2544 แม้ยังไม่ทราบกลุ่มก่อความไม่สงบแน่ชัด แต่มีการชี้ว่า GMIP, BRN-C และ RKK (กลุ่มติดอาวุธของ BRN) เป็นผู้นำการก่อเหตุ ซึ่งบางรายงานระบุว่ากลุ่มเหล่านี้ไม่ได้ต้องการแยกตัวเป็นอิสระ แต่ต้องการทำให้ภูมิภาคปาตานีปกครองไม่ได้[46]