ศาลสูงสุดญี่ปุ่น
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ศาลสูงสุดญี่ปุ่น[1] หรือ ศาลฎีกาญี่ปุ่น[2][3] (ญี่ปุ่น: 最高裁判所; โรมาจิ: Saikō-Saibansho หรือ เรียกอย่างสั้น ญี่ปุ่น: 最高裁; โรมาจิ: Saikō-Sai; อังกฤษ: Supreme Court of Japan) เป็นศาลสูงสุดในประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในฮายาบูซาโจ, เขตชิโยดะ, โตเกียว มีอำนาจทางตุลาการสูงสุดในการตีความรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นและตอบกระทู้คำถามที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายแห่งชาติ ศาลสูงสุดญี่ปุ่นยังมีอำนาจในการพิจารณาทบทวนซึ่งทำให้ศาลสามารถกำหนดความเป็นรัฐธรรมนูญของกฎหมายหรือพระราชบัญญัติใด ๆ ได้
ศาลสูงสุด | |
---|---|
最高裁判所 | |
อาคารศาลสูงสุด | |
สถาปนา | 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1947 |
ที่ตั้ง | เขตชิโยดะ, โตเกียว |
พิกัด | 35°40′49″N 139°44′37″E |
วิธีได้มา | รับเลือกโดยคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น |
ที่มา | รัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่น |
วาระตุลาการ | บังคับเกษียณที่อายุ 70 ปี |
เว็บไซต์ | ศาลสูงสุด |
ประธานศาลสูงสุดญี่ปุ่น | |
ปัจจุบัน | ซาบูโร โทกูระ |
ตั้งแต่ | 23 มิถุนายน ค.ศ. 2022 |
ศาลสูงสุดในปัจจุบันก่อตั้งตามมาตรา 81 แห่งรัฐธรรมนูญญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1947[4] มีการโต้เถียงในหมู่เจ้าหน้าที่นิติกรของผู้บัญชาการสูงสุดฝ่ายพันธมิตรผู้ร่างรัฐธรรมนูญและในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งสมเด็จพระจักรพรรดิใน ค.ศ. 1946 เกี่ยวกับอำนาจที่มากเกินไปของฝ่ายตุลาการ แต่ถูกบดบังความสำคัญโดยคำถามประเด็นหลักอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับหลักอำนาจอธิปไตยของปวงชน, หน้าที่ของจักรพรรดิ และการยอมสละสงคราม[5] อย่างไรก็ตามการใช้คำในมาตรา 81 ที่ได้รับเห็นชอบบัญญัติว่าศาลถืออำนาจการพิจารณาทบทวน ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ตอนต้นของศาลมีการเข้าไปเกี่ยวพันกับขอบเขตอำนาจนี้[4] ใน ค.ศ. 1948 ศาลประกาศว่ารัฐธรรมนูญมีเจตจำนงในการกำหนดประเภทของการพิจารณาทบทวนที่ถูกนำมาใช้ในสหรัฐ ใน ค.ศ. 1952 มีการประกาศให้อำนาจดังกล่าวสามารถนำไปใช้ได้เพียงคดีที่มีความยุ่งยาก[4][6]
ในช่วง ค.ศ. 1960–1970 ศาลสูงสุดประสบ "วิกฤตตุลาการ" (judicial crisis) ระหว่างผู้พิพากษาอาวุโสและผู้พิพากษาเสรีนิยมที่เด็กกว่าเป็นส่วนใหญ่[7][8][9] อาทิ มีข้อโต้เถียงว่าผู้พิพากษาบางคนในศาลจังหวัดคับข้องใจเกี่ยวกับการบังคับใช้ข้อบัญญัติที่จะจำกัดการประท้วงต่อต้านรัฐบาล[7] ใน ค.ศ. 1971 ศาลสูงสุดไม่แต่งตั้งผู้ช่วยผู้พิพากษา ยาซูอากิ มิยาโมโตะ อีกครั้งหลังเขาเข้าร่วมองค์กรที่มีแนวคิดทางการเมืองเอนเอียงไปทางฝ่ายซ้ายซึ่งจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย[8][10] เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีการทำข่าวและประท้วงโดยผู้พิพากษาคนอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด[10] นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่มีผู้พิพากษาคนไหนจะไม่ได้รับการแต่งตั้งใหม่[10] ท้ายที่สุด ในช่วง ค.ศ. 1960–1970 ศาลสูงสุดถูกเปลี่ยนให้เป็นอนุรักษ์นิยมมากขึ้น โดยมีผู้พิพากษาบางส่วนเป็นตัวแทนของข้าราชการตลอดชีพ เป็นเหตุให้การตัดสินต่าง ๆ มักจำกัดการแสดงออกอย่างเสรีและการชุมนุมสาธารณะ[7]
มาตรา 81 ของรัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่นจำกัดความว่า ศาลสูงสุดเป็นศาลที่พึ่งสุดท้ายและอนุญาตให้ศาลพิจารณาทบทวนผ่าน "อำนาจในการตัดสินความเป็นรัฐธรรมนูญของกฎหมาย, คำสั่ง, ข้อกำหนดหรือพระราชบัญญัติใด ๆ"[6] ตามคำนิยามของรัฐธรรมนูญ ศาลสูงสุดรับพิจารณาคดีแพ่ง, คดีปกครอง และคดีอาญาจากศาลจังหวัดที่ได้รับคำร้องขออุทธรณ์[6] ความรับผิดชอบนี้และความไม่สามารถในการไตร่ตรองอย่างรอบคอบในคำร้องส่งผลให้การอุทธรณ์คดีแพ่งและอาญาค้างพิจาณราอยู่เป็นจำนวนมาก[6][11] ศาลสูงสุดสามารถใช้อำนาจพิจารณาทบทวนเมื่อมีการยื่นอุทธรณ์ข้อพิพาททางกฎหมายที่ยากจะไกล่เกลี่ยมีความเกี่ยวข้องกับการละเมิดหรือการตีความรัฐธรรมนูญที่ผิด[6][12]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.