สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร
กษัตริย์สยาม / From Wikipedia, the free encyclopedia
สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร หรือ สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชที่ 3 (พระราชพงศาวดารพม่าเรียก สุรประทุมราชา)[2] เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์บ้านพลูหลวง เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ และมีพระสมัญญานามว่า ขุนหลวงหาวัด
สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร | |
---|---|
ขุนหลวงหาวัด | |
พระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร ที่ปรากฏในเอกสารการบันทึกราชสำนัก[ก] | |
พระเจ้ากรุงศรีอยุธยา | |
ครองราชย์ | พ.ศ. 2301 (2 เดือน) |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ |
ถัดไป | สมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์ |
สมุหนายก | เจ้าพระยาอภัยราชา (ประตูจีน) |
กรมพระราชวังบวรสถานมงคล | |
ดำรงพระยศ | พ.ศ. 2298 - 2301 |
รัชสมัย | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ |
ก่อนหน้า | เจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์ |
ถัดไป | สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (กรุงรัตนโกสินทร์) |
พระราชสมภพ | พ.ศ. 2265 |
สวรรคต | พ.ศ. 2339 (74 พรรษา) มัณฑะเลย์ ราชอาณาจักรพม่า |
มเหสี | เจ้าฟ้าท้าวต่อย[1] |
ราชวงศ์ | บ้านพลูหลวง |
พระราชบิดา | สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ |
พระราชมารดา | กรมหลวงพิพิธมนตรี |
ส่วนบุคคล | |
ศาสนา | พุทธ |
นิกาย | เถรวาท |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดปองเล อมรปุระ |
อุปสมบท | ราว พ.ศ. 2303 |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | อาณาจักรอยุธยา |
แผนก/ | กองทัพกรุงศรีอยุธยา |
การยุทธ์ | สงครามพระเจ้าอลองพญา |
สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรได้ทรงดำรงพระราชอิสริยยศเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์ทรงเป็นแม่กองในการบูรณะพระมหาธาตุ หลังพระราชบิดาสวรรคต เจ้าฟ้าอุทุมพรจึงได้ทรงรับราชสมบัติเป็นระยะเวลาอันสั้น ทรงสร้างวัดขึ้นชื่อว่า วัดอุทุมพราราม หรือวัดเจ้าดอกเดื่อ และโปรดให้ปฏิสังขรณ์หลังคาพระมณฑปพระพุทธบาท หุ้มทองสองชั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าฟ้าเอกทัศซึ่งเป็นพระเชษฐาทรงปรารถนาราชสมบัติ สมเด็จพระเจ้าอุทุมพรจึงทรงสละราชสมบัติแล้วเสด็จออกผนวช จนกระทั่งเกิดสงครามคราวพระเจ้าอลองพญายกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาจึงลาพระผนวชมาช่วยศึก จากนั้นกลับทรงพระผนวชอีกครั้งจนกรุงศรีอยุธยาแตก จึงถูกกวาดต้อนไปยังกรุงอังวะพร้อมเชลยกรุงศรีอยุธยา เมื่อถึงกรุงอังวะ ทรงพระผนวชและประทับอยู่ที่วัดเยตะพัน ทางใต้กรุงอังวะ จนย้ายเมืองหลวงไปยังกรุงอมรปุระ ใน พ.ศ. 2323 จึงเสด็จไปประทับที่กรุงอมรปุระ จนกระทั่งสวรรคต ใน พ.ศ. 2339
นอกจากนั้นเชื่อว่าพบพระบรมสถูปบริเวณสุสานล้านช้าง อมรปุระ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ยังมีพงศาวดารของพม่าที่จดบันทึกจากปากคำของพระองค์และเชลยไทยในพม่า พบหนังสือเล่มนี้อยู่ในหอหลวงพระราชวังมัณฑะเลย์ มีชื่อว่า "คำให้การขุนหลวงหาวัด" ยังพบหมู่บ้านที่อยู่รอบเมืองมัณฑะเลย์ ในปัจจุบัน มีชื่อว่า "มินตาซุ" แปลว่า "เยี่ยงเจ้าชาย"