Loading AI tools
สะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สะพานฉะเชิงเทรา หรือ สะพานฉะเชิงเทรา เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 5 ธันวาคม 2542 หรือ สะพานเฉลิมพระเกียรติ[1] เป็นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลบางตีนเป็ด และตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ขนาด 4 ช่องจราจร ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง
สะพานฉะเชิงเทรา | |
---|---|
สะพานฉะเชิงเทรามองจากหอนาฬิกาฝั่งตะวันตกของแม่น้ำ | |
พิกัด | 13.6879°N 101.0771°E |
เส้นทาง | ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 กม. 71+600 |
ข้าม | แม่น้ำบางปะกง |
ที่ตั้ง | ตำบลบางตีนเป็ด และ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา |
ชื่อทางการ | สะพานฉะเชิงเทรา |
ชื่ออื่น | • สะพานฉะเชิงเทรา เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 5 ธันวาคม 2542 • สะพานเฉลิมพระเกียรติ |
ผู้ดูแล | แขวงทางหลวงฉะเชิงเทรา, กรมทางหลวง |
เหนือน้ำ | สะพานทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันออก |
ท้ายน้ำ | สะพานทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 365 |
ข้อมูลจำเพาะ | |
ประเภท | สะพานแบบคอนกรีตอัดแรงรูปกล่อง (Box Girder) |
วัสดุ | คอนกรีตเสริมเหล็ก |
ความยาว | 340 เมตร (1,120 ฟุต) (สะพานเดิม) 647 เมตร (2,123 ฟุต) (สะพานใหม่) |
ประวัติ | |
วันเริ่มสร้าง | 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2497 |
วันสร้างเสร็จ | 23 ธันวาคม พ.ศ. 2498 |
วันเปิด | 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 (สะพานใหม่) |
สร้างใหม่ | พ.ศ. 2539 |
ที่ตั้ง | |
สะพานฉะเชิงเทรา เป็นสะพานที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อข้ามแม่น้ำบางปะกงหลังจากการสร้างสะพานเทพหัสดิน สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2497 และสร้างเสร็จในวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2498 ซึ่งก่อนหน้านี้การข้ามแม่น้ำของประชาชนในต่างอำเภอจะต้องเดินทางด้วยรถโดยสารไปยังท่าเรือท่าข้าม เพื่อนั่งเรือข้ามฝากไปยังท่าเรือฝั่งตัวเมือง หากจะรับส่งสินค้าหรือของขนาดใหญ่จะต้องใช้เรือที่ผูกโยงกันติดเครื่องยนต์ หรือที่เรียกกันว่าเรือโยง[2]
ในปี พ.ศ. 2498 นายจวน กุลละวณิชย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทราในขณะนั้นจึงได้เสนอของบประมาณในการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ขนาด 2 ช่องจราจร เพื่อเชื่อมต่อถนนศุขประยูรในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำกับถนนมหาจักรพรรดิ์ในฝั่งตะวันตก[lower-alpha 1] โดยจากเอกสารของทางราชการซึ่งประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2499 สะพานฉะเชิงเทราได้รับการตั้งชื่อจาก จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ซึ่งระบุความยาวของสะพานขณะนั้นว่ามีความยาว 340.00 เมตร[3] และปรากฎอีกครั้งในประกาศผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดิน เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2524[4] ซึ่งเป็นตำแหน่งของอธิบดีกรมทางหลวงในขณะนั้น ในการจำกัดน้ำหนักรถที่วิ่งบนสะพานฉะเชิงเทราไม่เกิน 12 ตันเนื่องจากสะพานชำรุด และเพิ่มเติมห้ามรถตั้งแต่หกล้อขึ้นไปวิ่งขึ้นบนสะพานในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2525[5]
ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 ได้มีการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนพื้นที่บริเวณสะพานฉะเชิงเทราเพิ่มเติม เพื่อขยายความกว้างของเส้นทาง โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2537[6] และมีประกาศเร่งรัดการเวนคืนให้มีความจำเป็นเร่งด่วนอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2538[7]
หลังจากสะพานเดิมใช้งานมาเป็นระยะเวลายาวนาน และขนาดความกว้างของช่องจราจรที่มีเพียง 2 ช่อง รวมถึงตัวสะพานนั้นผ่านการซ่อมแซมมาหลายครั้งจนไม่สามารถที่จะใช้งานได้อย่างปลอดภัย ประกอบกับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการในการใช้เส้นทาง ในปี พ.ศ. 2538 กรมทางหลวงจึงได้ดำเนินการรื้อถอนสะพานเดิม และสร้างสะพานขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2539 โดยผ่านความเห็นชอบจาก นายฐิระวัตร กุลละวณิชย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราในขณะนั้น เพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีกในอนาคตและความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางในการใช้งานสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง และสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2542[lower-alpha 1]
ตัวสะพานฉะเชิงเทรามีโครงสร้างเป็นสะพานคอนกรีตอัดแรง ขนาด 4 ช่องจราจร มีความยาว 647.00 เมตร ซึ่งในปีที่สะพานสร้างแล้วเสร็จนั้นตรงกับพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 จึงได้ใช้ชื่อสะพานที่สร้างใหม่ว่า "สะพานฉะเชิงเทรา เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา 5 ธันวาคม 2542" และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2542 โดยนายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีในเวลานั้น[lower-alpha 1]
สะพานฉะเชิงเทรา เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 มีขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อมต่อกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ที่ถูกเรียกในชื่อท้องถิ่นในฝั่งตะวันออกของสะพานว่าถนนศุขประยูร ขนาด 6 ช่องจราจร และฝั่งตะวันตกของสะพานคือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 304 ที่ถูกเรียกชื่อท้องถิ่นว่าถนนมหาจักรพรรดิ์ ขนาด 6 ช่องจราจร
สะพานฉะเชิงเทรา มีการจัดช่องจราจรเป็น 2 ช่วง ประกอบไปด้วย
สะพานฉะเชิงเทรานั้น ได้มีการประกาศจากกรมทางหลวงเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2525 จำกัดไม่ให้รถมากกว่า 6 ล้อขึ้นไป ยกเว้นรถโดยสารประจำทาง ขึ้นใช้งานสะพานฉะเชิงเทรา เพื่อรักษาสภาพโครงสร้างของสะพานและพื้นผิวจราจรให้มีความปลอดภัยต่อการใช้งาน[5] นอกจากนี้ยังมีการประกาศจากสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราและเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเดินรถเข้าไปในเขตเทศบาลในชั่วโมงเร่งด่วน ในช่วงเวลา 07.00 - 09.00 น. และเวลา 15.00 - 17.00 น. ซึ่งสะพานฉะเชิงเทราก็อยู่ในเขตของเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราเช่นกัน แต่ยังคงมีการฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าวโดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยกวดขัน ทำให้สร้างความเสียหายให้กับตัวสะพาน พื้นผิวถนนเนื่องจากน้ำหนักที่มากเกินว่าที่กำหนดตามกฎหมายจนเกิดการสั่นสะเทือน รวมถึงก่อให้เกิดอุบัติเหตุให้กับผู้ใช้เส้นทางสัญจรในการข้ามสะพาน[9]
สะพานฉะเชิงเทรามีการติดตั้งระบบโทรมาตร โดยกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำของลุ่มน้ำบางปะกง ซึ่งร่วมมือกับเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราในการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัด[10]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.