คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. (อังกฤษ: Expressway Authority of Thailand, EXAT) เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ก่อตั้งขึ้นตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้าง หรือจัดให้มีทางพิเศษด้วยวิธีการใด ๆ ตลอดจนบำรุงรักษาทางพิเศษและดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับทางพิเศษ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล[3][4]
ในสิ้นปี 2565 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เป็นรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงสุด ลำดับที่ 8[5]
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
ในช่วง พ.ศ. 2512 รัฐบาลของ จอมพล ถนอม กิตติขจร ได้มีการเตรียมเสนอร่างกฎหมายเกี่ยวกับการก่อตั้งหน่วยงานที่ดูแลการก่อสร้างทางพิเศษและรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน[6]ซึ่งทางรัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้นศึกษาผลกระทบในการก่อสร้างทางพิเศษแต่ด้วยอุปสรรคหลายอย่างทำให้รัฐบาลไม่สามารถเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่ สภาผู้แทนราษฎร ได้จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติตัวเองของจอมพล ถนอมเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514
กระทั่งวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 จอมพล ถนอมในฐานะประธาน สภาบริหารคณะปฏิวัติ จึงได้ลงนามในประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 290 เรื่องจัดตั้งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยซึ่งได้ลงประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 แต่ทางการทางพิเศษได้ถือเอาวันที่ 27 พฤศจิกายน เป็นวันก่อตั้งองค์กรโดยในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2516 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติแต่งตั้งประสิทธิ์ อุไรรัตน์ เป็นผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทยคนแรก
ใน พ.ศ. 2530 คณะรัฐมนตรีและการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 ซึ่งมีสาระสำคัญคือให้ยกเลิกบทบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ต่อ สภาผู้แทนราษฎร และได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2530[7]
ใน พ.ศ. 2535 มีการจัดตั้ง องค์การรถไฟฟ้ามหานคร เพื่อเป็นหน่วยงานที่ดูแลรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนโดยเฉพาะอันเนื่องมาจากการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเพื่อความคล่องตัวในการจัดการการก่อสร้างและการบริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
ใน พ.ศ. 2536 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรที่ควบคุมและดูแลในเรื่องของระบบขนส่งสาธารณะระบบราง หรือรถไฟฟ้าในขณะนั้นได้เปิดเผยโครงการการจัดสร้างระบบขนส่งในหัวเมืองใหญ่ 8 เมือง อันได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา สงขลา ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา และชลบุรี โครงการของจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากการทำแผนพัฒนาและสำรวจเส้นทางที่เหมาะสมกับประชาชนมูลค่า 30 ล้านบาทแล้วเสร็จ[8]
23 มิถุนายน พ.ศ. 2536 เริ่มทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการระบบทางด่วน [9] ,การขอความร่วมมือสำนักงานสถิติแห่งชาติจัดทำสถิติการใช้ทางพิเศษ เพื่อจัดทำแผนแม่บททางด่วน 300 กิโลเมตร[10] และวันที่ 5 ตุลาคม 2536 มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เก็บค่าผ่านทาง[11]
ต่อมาในวันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 32/2550 คณะรัฐมนตรีได้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทย พ.ศ.... เข้าสู่การพิจารณาซึ่งที่ประชุมมีมติรับหลักการและได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 15 คน[12] จากนั้นในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ 55/2550 เมื่อวันพุธที่ 3 ตุลาคม 2550 ที่ประชุมมีมติในวาระ 3 เห็นชอบสมควรให้ประกาศใช้เป็นกฎหมาย[13] ซึ่งได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2551 และให้มีผลในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาคือในวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2551 โดยสาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้คือให้ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2515 และ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 290 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2515 พ.ศ. 2530 รวมถึงการแก้ไขวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งซึ่งไม่เข้ากับยุคสมัย[14]
Remove ads
สายทางพิเศษ
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปัจจุบันได้เปิดให้บริการทางพิเศษ 8 สายทาง คือ
- ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ระบบทางด่วนขั้นที่ 1)
- ทางพิเศษศรีรัช (ระบบทางด่วนขั้นที่ 2)
- ทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนสายอาจณรงค์-รามอินทรา-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร)
- ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี)
- ทางพิเศษอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด)
- ทางพิเศษสายบางนา-อาจณรงค์ (ระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายใต้ ตอน S1)
- ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (ทางด่วนวงแหวนใต้)
- ทางพิเศษประจิมรัถยา (สายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร)[15]
Remove ads
ศูนย์ควบคุม
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษเฉลิมมหานคร (CCB1)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษศรีรัช (CCB2)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษฉลองรัช (CCB3)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษบูรพาวิถี (CCB4)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษอุดรรัถยา (CCB5)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษกาญจนาภิเษก (CCB6)
- ศูนย์ควบคุมทางพิเศษประจิมรัถยา (CCB7)
ระบบจัดเก็บค่าผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์
การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้เปิดให้บริการระบบจัดเก็บค่าผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Toll Collection System: ETCs) โดยเรียกว่า Easy Pass เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2553 ในสายทางพิเศษเฉลิมมหานคร, ทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษวงแหวนรอบนอกด้านใต้ (บางพลี-บางขุนเทียน) และวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ในสายทางพิเศษศรีรัช กทพ. ได้นำ Easy Pass เข้ามาใช้แทนระบบ Tag ของเดิมที่ได้ถูกยกเลิกการใช้งานแล้ว เพื่อขยายปริมาณการรองรับการจราจรบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง โดยสามารถทำได้สูงสุด 1200 คันต่อชั่วโมงต่อช่องทาง
Remove ads
รายชื่อผู้ว่าการ
- ประสิทธิ์ อุไรรัตน์ (27 มีนาคม พ.ศ. 2516-17 กรกฎาคม พ.ศ. 2516)
- จำลอง ศาลิคุปต์ (21 สิงหาคม พ.ศ. 2516-10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2519)
- ทองฉัตร หงส์ลดารมภ์ (1 ธันวาคม พ.ศ. 2519-25 กรกฎาคม พ.ศ. 2522)
- จรัญ ยุพรัตน์ (9 ตุลาคม พ.ศ. 2522-1 มิถุนายน พ.ศ. 2536)
- สุขวิช รังสิตพล (16 มิถุนายน พ.ศ. 2536-24 ตุลาคม พ.ศ. 2537)
- ศิวะ เจริญพงษ์ (8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537-30 กันยายน พ.ศ. 2538)
- เรืองฤทธิ์ พูลสวัสดิ์ (17 ตุลาคม พ.ศ. 2538-19 กันยายน พ.ศ. 2540)
- สมนึก ชัยเดชสุริยะ (23 กันยายน พ.ศ. 2540-22 ตุลาคม พ.ศ. 2541)
- ปรีชา ศรีทองสุข (25 ตุลาคม พ.ศ. 2541-30 กันยายน พ.ศ. 2544)
- เผชิญ ไพโรจน์ศักดิ์ (1 ตุลาคม พ.ศ. 2544-20 มกราคม พ.ศ. 2552)
- พันโท ทวีสิน รักกตัญญู (1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552-22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554)
- อัยยณัฐ ถินอภัย (8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554-7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558)
- ณรงค์ เขียดเดช (13 มกราคม พ.ศ. 2559-15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561)
- สุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ (27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561-7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563)
- สุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข (3 สิงหาคม พ.ศ. 2563-ปัจจุบัน)
Remove ads
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads