คลีฟแลนด์

คลีฟแลนด์ (อังกฤษ: Cleveland) เป็นเมืองหนึ่งในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ในเขตคูยาโฮกาเคาน์ตี้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐโอไฮโอและริมชายฝั่งทางใต้ของทะเลสาบอิรี ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2339 ในปี 2563 มีประชากรราว 372,624 คน^[6] ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 33 ของเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา

คลีฟแลนด์ Cleveland
นคร
City of Cleveland นครคลีฟแลนด์
ธง ตรา
สมญา:  The Forest City
คำขวัญ:  Progress & Prosperity
แผนที่แบบโต้ตอบของคลีฟแลนด์
พิกัด: 41°28′56″N 81°40′11″W
ประเทศ	สหรัฐ
รัฐ	โอไฮโอ
เทศมณฑล	คูยาโฮกา
ก่อตั้ง	22 กรกฎาคม ค.ศ. 1796 (1796-07-22)
เข้าร่วม (หมู่บ้าน)	23 ธันวาคม ค.ศ. 1814 (1814-12-23)
เข้าร่วม (เมือง)	6 มีนาคม ค.ศ. 1836 (1836-03-06)[1]
ตั้งชื่อจาก	Moses Cleaveland
การปกครอง
• ประเภท	Strong mayor / Council
• องค์กร	Cleveland City Council
• นายกเทศมนตรี	Justin Bibb (D)
พื้นที่[2]
• นคร	82.48 ตร.ไมล์ (213.62 ตร.กม.)
• พื้นดิน	77.73 ตร.ไมล์ (201.33 ตร.กม.)
• พื้นน้ำ	4.75 ตร.ไมล์ (12.29 ตร.กม.)
ความสูง[3]	653 ฟุต (199 เมตร)
ประชากร  (2020)
• นคร	372,624 คน
• อันดับ	54 ในสหรัฐ 2 ในโอไฮโอ
• ความหนาแน่น	4,793.52 คน/ตร.ไมล์ (1,850.78 คน/ตร.กม.)
• รวมปริมณฑล[4]	2,075,662 (US: 34th) คน
เดมะนิม	คลีฟแลนเดอร์
เขตเวลา	UTC−5 (EST)
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)	UTC−4 (EDT)
รหัสไปรษณีย์[5]	44101–44147, 44181, 44188, 44190-44199
Area code	216
FIPS code	39-16000
GNIS feature ID	1066654[3]
สนามบินหลัก	นานาชาติฮ็อปกินส์ Burke Lakefront
อินเตอร์สเตต
ระบบขนส่งมวลชนเร็ว
เว็บไซต์	clevelandohio.gov

สถานที่สำคัญ

• มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ (Case Western Reserve University) เป็นสถานที่เคยถูกใช้ทดลองพิสูจน์การมีตัวตนของอีเทอร์ (luminiferous aether หรือ ether) หรือที่เรียกว่าการทดลองของไมเคิลสัน-มอร์เลย์ (Michelson-Morley interferometer experiment) ในปี พ.ศ. 2430 โดย อัลเบิร์ต เอ ไมเคลสัน (Albert Abraham Michelson) จากสถาบันเทคโนโลยีเคสและ เอ็ดเวิร์ด ดับบิว มอร์ลีย์ (Edward W. Morley) จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นรีเสิร์ฟ ซึ่งการทดลองนี้สนับสนุนความคิดของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในการสร้างสัจพจน์ข้อที่สองของทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ จากผลงานนี้ทำให้อัลเบิร์ต เอ ไมเคลสันได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ในปี พ.ศ. 2450 โดยถือเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล^[7]
• หอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล (The Rock and Roll Hall of Fame and Museum) พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมสิ่งของจากบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการดนตรีร็อกแอนด์โรล และยังให้ความรู้และเกร็ดชีวประวัติของนักดนตรีร็อกแอนด์โรล
• Cleveland Browns Stadium เป็นสนามแข่งอเมริกันฟุตบอลประจำเมืองคลีฟแลนด์ ในบางครั้งยังเป็นที่จัดแสดงดนตรีด้วย
• University Hospitals of Cleveland โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเสิร์ฟที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านกุมารเวช
• คลีฟแลนด์คลินิค (Cleveland Clinic) เป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดของเมืองคลีฟแลนด์ และจัดเป็นหน่วยงานที่ไม่ใช่งานของรัฐที่ใหญ่ที่สูงสุดในเมือง โดยมีลูกจ้างเป็นจำนวนถึง 37,000 คน ^[8] และได้รับการจัดอันดันโดย ยูเอสนิวส์แอนด์เวิลด์รีพอร์ต ^[9] ให้เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านโรคหัวใจ
• University Circle มีพื้นที่ประมาณ 550 เอเคอร์ (2.2 ตารางกิโลเมตร) โดยใน University Circle นี้เป็นบริเวณที่เป็นศูนยกลางของวัฒนธรรมของเมืองคลีฟแลนด์ อันประกอบด้วย สถาบันการศึกษาทั้งทางด้านวัฒนธรรมและวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียง พิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ และศิลปะ โรงโอเปร่า ห้องสมุด
• พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาคลีฟแลนด์ (Cleveland Museum of Natural History) พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาประจำเมือง ของสะสมที่มีชื่อเสียง อาทิเช่น ลูซี่ (Lucy) ลิงไร้หาง อายุ 3.2 ล้านปี, โครงกระดูก ปลาดังเคิลออสเตียส และ ซอโรพอด สายพันธุ์ Haplocanthosaurus delfsi ที่สมบรณ์ที่สุด เป็นต้น
• Glenn Research Center เป็นหนึ่งสิบศูนย์วิจัยหลักและทดสอบขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ องค์การนาซา
• ท่าอากาศยานนานาชาติคลีฟแลนด์ฮ็อปกินส์ (Cleveland Hopkins International Airport) เป็นท่าอากาศยานพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในรัฐโอไฮโอ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ห่างจากเมืองคลีฟแลนด์ 14 กิโลเมตร ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1925 นับเป็นท่าอากาศยานของทางการท้องถิ่นแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา^[10] และเป็นท่าอากาศยานแรกในสหรัฐอเมริกาที่มีการเชื่อมต่อการคมนาคมโดยตรงเข้ากับระบบรถไฟใต้ดิน ในปี ค.ศ. 1968 ชื่อท่าอากาศยานมาจากชื่อของ วิลเลียม อาร์ ฮอปกินส์ ผู้ก่อตั้งท่าอากาศยานและอดีตผู้จัดการเมือง (City Manager) คลีฟแลนด์ นอกจากนี้ที่นี่ยังถือเป็นท่าอากาศยานหลักอันดับที่สามของสายการบินคอนติเนนตัล แอร์ไลน์ และสายการบินท้องถิ่นอื่นๆ เช่น เอ็กซ์เพรสเจ็ท คอมมุทแอร์

รูปมุมกว้างของเมืองคลีฟแลนด์ มุมมองจากทะเลสาบอิรี โดยจะเห็นตึกคีย์ ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุด,ตึกบีพี และตึกเทอร์มินอลตรงกลาง

ภูมิอากาศ

ข้อมูลภูมิอากาศของคลีฟแลนด์ (ท่าอากาศยานนานาชาติคลีฟแลนด์ฮ็อปกินส์)
เดือน	ม.ค.	ก.พ.	มี.ค.	เม.ย.	พ.ค.	มิ.ย.	ก.ค.	ส.ค.	ก.ย.	ต.ค.	พ.ย.	ธ.ค.	ทั้งปี
อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °F (°C)	73 (22.8)	74 (23.3)	83 (28.3)	88 (31.1)	92 (33.3)	104 (40)	103 (39.4)	102 (38.9)	101 (38.3)	90 (32.2)	82 (27.8)	77 (25)	104 (40)
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °F (°C)	32.6 (0.33)	35.8 (2.11)	46.1 (7.83)	57.3 (14.06)	68.6 (20.33)	77.4 (25.22)	81.4 (27.44)	79.2 (26.22)	72.3 (22.39)	60.8 (16)	48.7 (9.28)	37.4 (3)	58.1 (14.5)
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °F (°C)	18.8 (-7.33)	21 (-6.1)	28.9 (-1.72)	37.9 (3.28)	48.3 (9.06)	57.7 (14.28)	62.3 (16.83)	61.2 (16.22)	54.3 (12.39)	43.7 (6.5)	34.9 (1.61)	24.9 (-3.94)	41.2 (5.11)
อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °F (°C)	−20 (-28.9)	−16 (-26.7)	−5 (-20.6)	10 (-12.2)	25 (-3.9)	31 (-0.6)	41 (5)	38 (3.3)	32 (0)	19 (-7.2)	3 (-16.1)	−15 (-26.1)	−20 (−28.9)
หยาดน้ำฟ้า นิ้ว (มม)	2.48 (63)	2.29 (58.2)	2.94 (74.7)	3.37 (85.6)	3.50 (88.9)	3.89 (98.8)	3.52 (89.4)	3.69 (93.7)	3.77 (95.8)	2.74 (69.6)	3.38 (85.9)	3.14 (79.8)	38.71 (983.2)
ปริมาณหิมะ นิ้ว (ซม)	16.8 (42.7)	14.2 (36.1)	9.8 (24.9)	2.4 (6.1)	0 (0)	0 (0)	0 (0)	0 (0)	0 (0)	0.4 (1)	5.1 (13)	12.6 (32)	61.4 (156)
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย (≥ 0.01 in)	16.9	13.7	14.7	14.5	12.6	11.2	10.5	10.4	10.3	11.7	14	16.3	156.8
วันที่มีหิมะตกโดยเฉลี่ย (≥ 0.1 in)	13.3	10.0	6.8	2.3	0	0	0	0	0	0.4	4.4	10.6	47.8
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด	102.3	124.3	167.4	216.0	263.5	294.0	306.9	263.5	219.0	170.5	90.0	68.2	2,285.6
แหล่งที่มา 1: NOAA,[11] The Weather Channel [12]
แหล่งที่มา 2: HKO [13]