คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
คู่กรรม
นวนิยายที่ประพันธ์โดยทมยันตี จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
คู่กรรม เป็นนวนิยายแนวโศกนาฏกรรมและวีรคติ ประพันธ์โดย ทมยันตี ดำเนินเรื่องที่มีฉากหลังในประเทศไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เขียนขึ้นในปี พ.ศ. 2508 ตีพิมพ์เป็นตอนในนิตยสารศรีสยาม (ในเครือนิตยสารขวัญเรือน)[1] และรวมเล่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2512 แล้วตีพิมพ์มาหลายครั้ง มีภาคต่อคือ คู่กรรม 2 ในปี พ.ศ. 2534 ถือว่าเป็นบทประพันธ์ที่ชื่อเสียงมากที่สุดเรื่องหนึ่งของทมยันตี
คู่กรรม ได้รับการนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์แล้วหลายครั้ง เริ่มจากในปี พ.ศ. 2513 สร้างเป็นละครครั้งแรกออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 (ขาว-ดำ) สร้างโดย เทิ่ง สติเฟื่อง ในนามของ คณะศรีไทยการละคร ต่อมาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 ในปี พ.ศ. 2515 และทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ในปี พ.ศ. 2521
ครั้งสำคัญเป็นละครทางช่อง 7 สี ในปี พ.ศ. 2533 เป็นละครที่สร้างประวัติศาสตร์เรตติ้งสูงสุดอันดับ 1 ของเมืองไทยตลอดกาล ด้วยเรตติ้ง 40[2][3] และได้รับรางวัลทั้งเมขลาและโทรทัศน์ทองคำในปีเดียวกัน หลังจากนั้นได้นำมาสร้างใหม่เป็นละครทางช่อง 3 ในปี พ.ศ. 2547 (มีภาคต่อคือ คู่กรรม 2)[4]
คู่กรรม ยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ในปี พ.ศ. 2516, พ.ศ. 2531, พ.ศ. 2538 ซึ่งทั้ง 2 ครั้งหลังได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลตุ๊กตาทองไปทั้งคู่[5][6]
ในปี พ.ศ. 2556 มีการออกอากาศ คู่กรรม เป็นละครโทรทัศน์และภาพยนตร์ในปีเดียวกัน ในช่วงเวลาคาบเกี่ยวกัน โดยเวอร์ชั่นละครโทรทัศน์ผลิตโดยเอ็กแซ็กท์และซีเนริโอ ออกอากาศทางช่อง 5 และเวอร์ชั่นภาพยนตร์สร้างโดยเอ็ม เทอร์ตี้ไนน์ ซึ่งทำให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างคู่กรรมทั้ง 2 เวอร์ชั่นจากผู้รับชม[7][8]
นอกจากนี้ยังมีการดัดแปลงเป็นละครเวทีโดยค่ายดรีมบอกซ์ เมื่อปี พ.ศ. 2546-2547 แสดงที่โรงละครกรุงเทพ และกลางปี พ.ศ. 2550 แสดงที่โรงละครกรุงเทพเมโทรโพลิส และ คู่กรรม ได้ถูกหยิบยกนำมาล้อเลียนในรูปแบบสื่อต่าง ๆ เช่น รายการตลก ภาพยนตร์ตลก การ์ตูน และสื่อออนไลน์
Remove ads
ฉากหลัง
ทมยันตี ผู้ประพันธ์ได้รับแรงบันดาลใจเมื่อราวปี พ.ศ. 2508 จากการเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี และเข้าชมสุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรักที่ฝังร่างของเหล่าทหารสัมพันธมิตร โดยสะดุดใจเมื่อเห็นคำจารึกถึงบนหลุมศพทหารสัญชาติเนเธอร์แลนด์คนหนึ่ง เมื่อสอบถามดูได้ความว่าเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัวที่มาเสียชีวิตลงที่ประเทศไทย โดยที่ผู้เป็นพ่อแม่มิอาจมาร่วมฝังศพของลูกชายได้[9]
โครงเรื่อง
สรุป
มุมมอง
เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อกองทัพญี่ปุ่นเข้าสู่ประเทศไทย โกโบริ นายทหารเรือหนุ่มชาวญี่ปุ่นผู้สุภาพและอ่อนโยน ได้พบกับ อังศุมาลิน หญิงสาวชาวสวนริมคลองบางกอกน้อย เขารู้สึกประทับใจและตกหลุมรักเธอทันที แต่สำหรับอังศุมาลิน โกโบริคือตัวแทนของกองทัพศัตรูที่เข้ามารุกรานประเทศ อีกทั้งเธอยังมี วนัส คนรักที่ไปเรียนต่อต่างประเทศและสัญญาว่าจะกลับมาหาเธอ
ด้วยเหตุการณ์ทางการเมืองบางอย่าง ทำให้โกโบริและอังศุมาลินต้องแต่งงานกัน เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างทหารญี่ปุ่นและคนไทย อังศุมาลินยอมแต่งงานด้วยความจำใจแต่ตั้งกำแพงในใจไว้อย่างแน่นหนา เธอแสดงท่าทีเย็นชาและเกลียดชังเขาเสมอ เพื่อยืนยันความรักชาติและซื่อสัตย์ต่อวนัส ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกัน ความดี ความอดทน และความรักที่มั่นคงของโกโบริ ค่อยๆทลายกำแพงในใจของอังศุมาลินลงทีละน้อย เธอเริ่มรู้สึกผูกพันและรักเขา แต่ด้วยทิฐิและความหยิ่งในศักดิ์ศรี ทำให้เธอไม่เคยยอมรับความรู้สึกของตัวเองออกมาตรงๆ
สงครามทวีความรุนแรงขึ้น และในที่สุดโศกนาฏกรรมก็มาถึง โกโบริได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย ในวาระสุดท้ายของชีวิต อังศุมาลินได้พรั่งพรูความรู้สึกที่แท้จริงทั้งหมดออกมาว่าเธอรักเขามากเพียงใด แต่ก็สายไปเสียแล้ว โกโบริสิ้นใจในอ้อมแขนของเธอ ทิ้งไว้เพียงอังศุมาลินที่กำลังตั้งครรภ์ลูกของพวกเขาสองคน
ตัวละคร "โกโบริ" และ "อังศุมาลิน" ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักต่างเชื้อชาติท่ามกลางสงครามที่ฝังอยู่ในความทรงจำของคนไทย
Remove ads
ตัวละคร
สรุป
มุมมอง
ตัวละครหลัก
- โกโบริ เป็นนายทหารเรือยศเรือเอกแห่งกองทัพเรือญี่ปุ่น มาจากครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่มีเกียรติ และเป็นวิศวกรที่มีหน้าที่คุมอู่ต่อเรือของกองทัพที่ตั้งอยู่ใกล้กับบ้านของอังศุมาลินในคลองบางกอกน้อย
- อังศุมาลิน เป็นหญิงสาวชาวสวนแห่งคลองบางกอกน้อย อาศัยอยู่กับแม่และยายในบ้านสวนริมน้ำ แต่เพราะถูกพ่อทิ้งไปตั้งแต่เล็กเลยทำให้เธอกลายเป็นคนหัวแข็งและมีทิฐิเป็นที่ตั้ง โกโบริมักเรียกอังศุมาลินด้วยชื่อญี่ปุ่นที่เขาตั้งให้ว่า ฮิเดโกะ
- วนัส เป็นเพื่อนชายที่เติบโตมากับอังศุมาลินตั้งแต่เด็ก มีความผูกพันกันฉันท์เพื่อนสนิทและคนรัก เขาเป็นหนุ่มไทยที่มีการศึกษาดีและได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ปะทุขึ้น วนัสได้เข้าร่วมกับขบวนการเสรีไทย
ตัวละครรุ่นพ่อแม่
- แม่อร เป็นแม่ของอังศุมาลิน ขยันทำมาหากิน มีเมตตากับผู้ตกทุกข์ได้ยาก และเชื่อในบาปบุญคุณโทษ
- ยายศร เป็นยายของอังศุมาลิน เป็นคนหัวโบราณและขยันทำมาหากิน
- หลวงชลาสินธุราช เป็นพ่อของอังศุมาลิน เป็นนายทหารระดับสูงแห่งกองราชนาวีไทย
- กำนันนุ่ม เป็นพ่อของวนัส เป็นกำนันตำบลบางกอกน้อย มีนิสัยซื่อตรง
- ตาผล เป็นชายวัยกลางคน ไร้อาชีพ มีนิสัยขี้คุยและชอบพูดเกินความจริง มักคิดแผนเจ้าเล่ห์แกมโกงอยู่เสมอ
- ตาบัว เป็นเพื่อนคู่คิดของตาผล เป็นคนโง่ นิสัยขี้เกียจ หวาดระแวงและมักถูกตาผลชักนำให้ทำเรื่องผิดๆเสมอ
- ยายเมี้ยน เป็นแม่ค้าย่านปากคลองที่ได้รับการขนานนามว่าปากตลาด เพราะชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านเสมอ
ตัวละครชาวญี่ปุ่น
- หมอโยชิ เป็นหมอฟันชาวญี่ปุ่น ที่เข้ามาเปิดร้านอยู่ที่ตลาดปากคลองบางกอกน้อยนับสิบปีจึงเป็นที่รู้จักมักคุ้นของชาวบ้าน และเป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นของอังศุมาลิน
- หมอทาเคดะ แพทย์ทหารประจำอู่ต่อเรือ เป็นเพื่อนสนิทของโกโบริ เป็นคนมีระเบียบ เคร่งครัดในหน้าที่และมีความรับผิดชอบสูง
ตัวละครชาวอังกฤษ
- ร้อยโทไมเคิล วอร์เด็น เชลยสงครามชาวอังกฤษที่สามารถรอดหนีการกักกันของกองทัพญี่ปุ่นออกมาได้ จนมาพบกับอังศุมาลินซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือจนปลอดภัย
การดัดแปลงเป็นสื่อ
สรุป
มุมมอง
ละครโทรทัศน์
คู่กรรม ได้รับการนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2556) รวม 6 ครั้ง ได้แก่
ภาพยนตร์
คู่กรรม ได้รับการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ 4 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2516, พ.ศ. 2531, พ.ศ. 2538 และ พ.ศ. 2556 ได้แก่
ละครเวที
คู่กรรมได้รับการดัดแปลงสร้างเป็นละครเวที ในรูปแบบละครเพลง (sung-through musical) เปิดการแสดงครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2546 จากนั้นได้กลับมาแสดงอีกครั้ง เมื่อกลางปี พ.ศ. 2550 รวมทั้งหมด 55 รอบ
Remove ads
หมายเหตุ
- เดิมได้วางตัว อธิป ทองจินดา ในบทโกโบริ แต่เมื่ออธิปเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ก่อนถ่ายทำจึงต้องเปลี่ยนตัวมาเป็น วรุฒ วรธรรม แทน
Remove ads
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads