คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

เสรีไทย

ขบวนการใต้ดินของไทยในช่วงสงครามแปซิฟิก จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เสรีไทย
Remove ads

เสรีไทย (อังกฤษ: Free Thai Movement) เป็นขบวนการต่อต้านจักรวรรดิญี่ปุ่นในประเทศไทยที่เกิดขึ้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติไทยมิให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของญี่ปุ่น ทั้งยังมุ่งเน้นการแสดงออกต่อฝ่ายสัมพันธมิตรว่าประเทศไทยมิได้ยินยอมเข้าร่วมฝ่ายอักษะโดยสมัครใจ หากแต่ถูกบีบบังคับจากสถานการณ์และโครงสร้างทางอำนาจที่จำกัดในขณะนั้น ขบวนการนี้เป็นขบวนการใต้ดินที่เริ่มต้นจากกลุ่มข้าราชการ นักการทูต นักศึกษา และปัญญาชนทั้งในและนอกประเทศ ซึ่งมีความตระหนักถึงอันตรายของการเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มความเป็นไปได้ที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะได้รับชัยชนะในสงครามอันยืดเยื้อนั้น

ข้อมูลเบื้องต้น เสรีไทย, ปฏิบัติการ ...

จุดเริ่มต้นของขบวนการเสรีไทยเกิดขึ้นในเช้าวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2484 เมื่อกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกในหลายพื้นที่ชายฝั่งประเทศไทย รวมถึงภาคตะวันออกที่ต่อแดนกับอินโดจีนของฝรั่งเศส โดยมีเป้าหมายใช้ดินแดนไทยเป็นทางผ่านในการรุกรานประเทศพม่าและมาลายา รัฐบาลไทยในขณะนั้นนำโดยจอมพล แปลก พิบูลสงคราม ได้เลือกที่จะยอมให้ญี่ปุ่นใช้ดินแดนโดยหลีกเลี่ยงการต่อต้านทางทหาร เพื่อป้องกันความเสียหายร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศ และต่อมาได้ลงนามในสนธิสัญญาพันธมิตรกับญี่ปุ่น รวมถึงประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2485 การตัดสินใจดังกล่าวเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในหมู่ข้าราชการ ขุนทหาร นักวิชาการ และนักศึกษาชาวไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเกรงว่าการแสดงตัวเป็นพันธมิตรกับฝ่ายอักษะจะส่งผลเสียต่อประเทศในระยะยาว หากญี่ปุ่นเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงคราม

ในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกา หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ปฏิเสธไม่ส่งคำประกาศสงครามตามคำสั่งของรัฐบาลแปลก พร้อมทั้งยืนกรานว่าไทยมิได้สมัครใจเข้าสู่สงคราม แต่ถูกยึดครองและบีบบังคับจากญี่ปุ่น การกระทำของหม่อมราชวงศ์เสนีย์กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวทางการทูตของขบวนการเสรีไทยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในฐานะกลุ่มต่อต้านภายในประเทศที่ถูกยึดครอง ภายใต้แนวคิดเดียวกันกับกลุ่มฝรั่งเศสเสรีของชาร์ล เดอ โกลในยุโรป ขบวนการเสรีไทยในสหรัฐอเมริกา จึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ "ประเทศไทยเสรี" ที่ยืนอยู่ข้างฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อหวังฟื้นฟูสถานะของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศหลังสงครามสงบ

ในขณะเดียวกัน ภายในประเทศไทย ปรีดี พนมยงค์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ได้ใช้ตำแหน่งและอิทธิพลทางการเมืองในการรวบรวมผู้มีแนวคิดต่อต้านญี่ปุ่นและจัดตั้งเครือข่ายลับซึ่งต่อมาเรียกว่า "ขบวนการเสรีไทย" ขึ้นในประเทศ สมาชิกของขบวนการประกอบด้วยข้าราชการ นักการเมือง นักเรียน นายทหาร นายตำรวจ และประชาชนหลากหลายสาขา ซึ่งมีเป้าหมายร่วมกันในการต่อต้านญี่ปุ่นอย่างลับ ๆ และเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เมื่อฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มตอบโต้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขบวนการเสรีไทยได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธและการฝึกฝนจากหน่วยข่าวกรองของฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ Office of Strategic Services (OSS) ของสหรัฐอเมริกา และ Special Operations Executive (SOE) ของสหราชอาณาจักร โดยมีการส่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษเข้าสู่ประเทศไทยผ่านพรมแดนจีน พม่า และอินเดีย เพื่อฝึกฝนสมาชิกเสรีไทยในด้านยุทธวิธี ข่าวกรอง และการใช้คลื่นวิทยุในการสื่อสารกับฝ่ายสัมพันธมิตร มีการกระจายกำลังพลเสรีไทยในหลายภูมิภาคของประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรวบรวมข่าวสารและเตรียมความพร้อมสำหรับการลุกฮือหากญี่ปุ่นพ่ายแพ้

ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อญี่ปุ่นเริ่มถดถอยอย่างชัดเจน เสรีไทยได้ขยายบทบาทมากขึ้นในภารกิจด้านข่าวกรองและการปฏิบัติการเชิงลึก โดยประสานงานกับฝ่ายสัมพันธมิตรในหลายจุด รวมถึงการให้ความร่วมมือด้านแผนที่ การเคลื่อนย้ายกำลังพล และการให้ที่พักพิงกับเจ้าหน้าที่สัมพันธมิตรที่แฝงตัวเข้ามาในประเทศไทย ขบวนการเสรีไทยยังเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงการติดต่อระหว่างกลุ่มต่อต้านในประเทศกับรัฐบาลสัมพันธมิตรอย่างต่อเนื่องจนถึงวาระสุดท้ายของสงคราม

ภายหลังญี่ปุ่นประกาศยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไขเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พุทธศักราช 2488 บทบาทของขบวนการเสรีไทยกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยสามารถดำเนินยุทธศาสตร์ทางการทูตอย่างมีประสิทธิภาพ ประเทศไทยสามารถปฏิเสธสถานะ "รัฐผู้รุกราน" โดยอ้างถึงขบวนการเสรีไทยว่าเป็นตัวแทนเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชนชาวไทย ซึ่งไม่ยอมรับการร่วมมือกับญี่ปุ่นโดยแท้จริง รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรบางประเทศรับรองจุดยืนนี้ และยินยอมเจรจาสันติภาพกับไทยในฐานะประเทศเอกราช มิใช่ประเทศแพ้สงครามโดยสมบูรณ์

ขบวนการเสรีไทยจึงนับได้ว่าเป็นกลไกสำคัญในประวัติศาสตร์ไทยยุคใหม่ ที่ไม่เพียงแต่มีบทบาททางทหารหรือข่าวกรองเท่านั้น หากยังมีความหมายอย่างลึกซึ้งในแง่ของการต่อสู้เพื่อธำรงไว้ซึ่งเอกราชของชาติ การรักษาเกียรติภูมิในเวทีระหว่างประเทศ และการแสดงออกถึงอำนาจประชาชนในภาวะที่รัฐภายใต้รัฐบาลเผด็จการกำลังสั่นคลอนต่อแรงกดดันระหว่างประเทศ แม้ขบวนการนี้จะเป็นการเคลื่อนไหวใต้ดินที่ปรากฏตัวอย่างจำกัดในเอกสารราชการในขณะนั้น แต่ผลลัพธ์ของมันกลับส่งอิทธิพลอย่างลึกซึ้งต่อทิศทางประวัติศาสตร์การต่างประเทศของไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านจากยุคสงครามเข้าสู่ยุคสงบสุขภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

Remove ads

ปฏิบัติการ

สรุป
มุมมอง

การที่รัฐบาลไทยนำโดยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ยินยอมตกลงเข้าร่วมกับญี่ปุ่นและประกาศสงครามต่อสหรัฐและอังกฤษ ทำให้บุคคลสำคัญทางการเมืองการปกครอง ข้าราชการ และชาวไทยทั้งในและนอกประเทศไม่เห็นด้วยกับนโยบายประกาศสงคราม มีการรวมตัวกันเคลื่อนไหวต่อต้านญี่ปุ่น แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มในประเทศ นำโดยนายปรีดี พนมยงค์ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มคนไทยในสหรัฐ นำโดยหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการไม่ยอมส่งคำประกาศสงครามต่อสหรัฐ และถือว่าการประกาศสงครามนั้นมิใช่เจตนาของคนไทย กลุ่มที่สามเป็นกลุ่มคนไทยในอังกฤษ นำโดยนักเรียนไทย ณ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ รวมถึงสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และราชนิกูลอีกหลายพระองค์ และต่อมาใน พ.ศ. 2485 อังกฤษได้รับสมาชิกเสรีไทยเข้าเป็นกำลังพลร่วมในกองทัพอังกฤษ

ช่วงที่จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี การดำเนินงานของกลุ่มทั้งสามไม่ค่อยประสบผลสำเร็จมากนักเพราะขาดการประสานงานร่วมกัน แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล โดยมีนายควง อภัยวงศ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ความร่วมมือระหว่างกันก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้ว่านายควง อภัยวงศ์จะแถลงนโยบาย ร่วมมือกับญี่ปุ่นโดยใกล้ชิด ตามสัญญาพันธกรณีที่ได้มีต่อกันไว้ด้วยดี และให้ความร่วมมือกับญี่ปุ่นตามข้อเรียกร้องของญี่ปุ่นทุกประการ แต่ขณะเดียวกันคณะรัฐบาลก็มีรัฐมนตรีหลายคนที่เป็นบุคคลระดับหัวหน้าในองค์การต่อต้านญี่ปุ่น และคอยให้ความช่วยเหลือองค์การอย่างลับ ๆ

เสรีไทยมีเครือข่ายความร่วมมือในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยได้รับความช่วยเหลือจากฝ่ายสัมพันธมิตร สหรัฐและอังกฤษได้ส่งหน่วยปฏิบัติการมาประจำในกรุงเทพมหานคร ด้านฝ่ายไทย นายปรีดี พนมยงค์ ได้ส่งทหารไปประจำที่กองบัญชาการของฝ่ายสัมพันธมิตร ณ เมืองแคนดี ลังกา พร้อมกับส่งทหาร ตำรวจ และพลเรือนไปรับการฝึกกับสำนักงานบริการด้านยุทธศาสตร์ (O.S.S : Office of Strategic Services) ของสหรัฐ และกองกำลัง 136 ของอังกฤษ ในอินเดียและลังกา

นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งโรงเรียนนายทหารสารวัตร และโรงเรียนนายสิบสารวัตรทหาร โดยรับสมัครนิสิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักเรียนเตรียมปริญญาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และนักเรียนโรงเรียนเตรียมนายเรือ มาฝึกให้เป็นผู้บังคับบัญชาของกองกำลังใต้ดินเพื่อเตรียมสู้รบกับกองทัพญี่ปุ่นในวันที่ฝ่ายสัมพันธมิตรกำหนด มีการประชาสัมพันธ์ให้คนไทยในประเทศร่วมกันต่อต้านญี่ปุ่น ส่งข่าวด้านยุทธศาสตร์ทางทหารตลอดจนรายงานสภาพดินฟ้าอากาศให้ฝ่ายสัมพันธมิตรทราบ ซึ่งทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรสามารถปฏิบัติการทางทหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ดี การปะทะกันระหว่างขบวนการเสรีไทยกับกองทัพญี่ปุ่นไม่มีโอกาสเกิดขึ้น เพราะญี่ปุ่นประกาศยอมจำนนอย่างไม่มีเงื่อนไข เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2488 หลังจากสหรัฐทิ้งระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโรชิมะและนางาซากิเมื่อวันที่ 6 และ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2488 แม้ว่าไทยจะร่วมกับญี่ปุ่นในการประกาศสงคราม แต่ความร่วมมืออย่างลับ ๆ ของไทยกับฝ่ายสัมพันธมิตรทำให้ไทยมีอำนาจต่อรองในการเจรจากับฝ่ายสัมพันธมิตรหลังสงครามยุติ โดยสหรัฐถือว่าไทยไม่เคยประกาศสงครามต่อประเทศของตน ขณะที่อังกฤษยังดำเนินนโยบายต่อไทยแตกต่างไปจากสหรัฐ

Remove ads

สมาชิกขบวนการที่มีชื่อเสียง

Thumb
จากแถวหน้าซ้ายไปขวา: พลตำรวจเอก อดุล อดุลเดชจรัส, หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช และ ปรีดี พนมยงค์
Thumb
สมาชิกขบวนการเสรีไทยผู้ได้รับเหรียญแห่งเสรีภาพ จากรัฐบาลสหรัฐ เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2488 (จากซ้าย) พล.อ.อ. ทวี จุลละทรัพย์, พล.ต. บุญมาก เทศะบุตร, น.อ. วิมล วิริยะวิทย์, นายพิเศษ ภัททพงษ์, ม.จ.ยุธิษเฐียร สวัสดิวัตน์, ม.ล.เอกชัย กำภู, นายอานนท์ ศรีวรรธนะ, ดร.สละ สานนท์, พล.อ.อ. สิทธิ เศวตศิลา, นายอำนวย พูนพิพัฒน์, นายอุดมศักดิ์ ภาสวนิช, นายกุสา ปันยารชุน, นายสมจิต ยศสุนทร
ชื่อในวงเล็บเป็นรหัสที่ใช้เรียกในขบวนการเสรีไทย
Remove ads

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

หนังสืออ่านเพิ่ม

  • Thailand's Secret War: OSS, SOE and the Free Thai Underground During World War II. E. Bruce Reynolds. Cambridge Military Histories series. Cambridge University Press. ISBN 0-521-83601-8. Colonel David Smiley is pictured page 377 with his Force 136 team.
  • The Thai Resistance Movement During the Second World War, John B. Haseman, Northern Illinois Center for Southeast Asian Studies, np, 1978.
  • Free Thai, compiled by Wimon Wiriyawit, White Lotus Co., Ltd, Bangkok, 1997.
  • Into Siam, Underground Kingdom, Nicol Smith and Blake Clark, Bobbs Merrill Company, New York, 1945.
  • Colonel David Smiley, Irregular Regular, Michael Russell, Norwich, 1994, (ISBN 978-0859552028). Translated in French by Thierry Le Breton, Au coeur de l'action clandestine des commandos au MI6, L'Esprit du Livre Editions, France, 2008, (ISBN 978-2915960273). With numerous photographs.
Remove ads
Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads