คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
จักรพรรดินีเซี่ยวอี๋ฉุน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
จักรพรรดินีเสี้ยวอี้ฉุน (จีน: 孝儀純皇后อังกฤษ: Empress_Xiaoyichun') หรือที่รู้จักกันในไทยขณะทรงพระยศเป็นพระมเหสีว่า "พระมเหสีหลิง" จากภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง องค์หญิงกำมะลอ เป็นพระมเหสีในจักรพรรดิเฉียนหลง และเป็นพระราชมารดาในจักรพรรดิเจียชิ่ง
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |

Remove ads
พระราชประวัติ
สรุป
มุมมอง
พระนางกำเนิดในราชสกุลเว่ยจียา หรือ เว่ย ซึ่งเป็นสกุลจากกองธงฮั่น เดิมที พระนางทรงเป็นนางสนองพระโอษฐ์ในพระนางฟู่ฉาฮองเฮา แต่เนื่องด้วยพระนางเป็นสตรีที่งดงามทั้งกิริยา วาจา การวางตัว บวกกับมีพระพักตร์ที่งดงาม สะสวย ทำให้จักรพรรดิเฉียนหลง ที่มักเสด็จมาที่ตำหนักฉางชุนของสมเด็จพระจักรพรรดินีบ่อย ๆ ทรงเกิดความพอพระทัยในตัวของพระนาง จึงรับสั่งให้เข้าเฝ้าถวายองค์ และแต่งตั้งให้เป็นลิ่งกุ้ยเหริน ปีต่อมาจึงอวยฐานันดรศักดิ์ขึ้นเป็น ลิ่งผิน ถัดมาอีกสามปีก็ถูกเลื่อนขึ้นเป็น ลิ่งเฟย ถัดมาอีกสิบปีเลื่อนเป็น ลิ่งกุ้ยเฟย และถัดมาอีกสิบสองปีตำแหน่งสุดท้ายของพระชนม์ชีพที่ได้รับคือ ลิ่งอี้หวงกุ้ยเฟย และหลังจากที่จักรพรรดินีจี้ ทรงสิ้นพระชนม์ จักรพรรดิเฉียนหลงก็ไม่ได้ตั้งใครขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีอีกเลย หน้าที่ควบคุมดูแลฝ่ายในทั้งหมดจึงตกอยู่ที่พระอัครราชเทวีในองค์จักรพรรดิ (หลิงอี้หวงกุ้ยเฟย) เมื่อสิ้นรัชกาลเฉียนหลง องค์ชายหย่งเหยียน ซึ่งเป็นพระโอรสลำดับที่สิบห้าในจักรพรรดิเฉียนหลงและประสูติจากหลิงอี้หวงกุ้ยเฟย ได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิเจี่ยชิ่ง ทรงมีปมในพระทัยที่ว่า ที่พระมารดาของพระองค์ไม่ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีเพราะว่าพระนางมีชาติกำเนิดที่เป็นชาวฮั่น ซึ่งตามกฏมลเฑียรบาลราชวงศ์ชิงกำหนดไว้ว่าห้ามสตรีจีนเป็นใหญ่เหนือสตรีแมนจู ทำให้จักรพรรดิเจียชิ่งเกิดความคับข้องพระทัยมาโดยตลอดพระองค์จึงเปลี่ยนราชสกุลของพระมารดาที่เป็นสกุลฮั่นจาก เว่ย เป็น เว่ยจียา และเลื่อนพระมารดาจากพระอัครราชเทวีในองค์จักรพรรดิให้เป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีโดยให้ทรงพระนามว่า สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวอี้ชุน
มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อคราวขุนศึกซุนเตี้ยนอิงผู้สังกัดกับกองกำลังของเจียง ไคเช็ค นำกำลังบุกเข้าปล้นสุสานอวี้หลิงซึ่งเป็นที่ฝังพระบรมศพของจักรพรรดิเฉียนหลง เมื่อกองกำลังได้ทำการระเบิดผนึกประตูที่ปิดตายออกก็เข้าไปทำการรื้อค้นเอาทรัพย์สินมีค่าออกไปโดยโยนพระบรมศพพระบรมอัฐิของจักรพรรดิเฉียนหลงไปทิ้งไว้บนพื้นโถงห้อง ทำให้เมื่อเวลาฝนตกก็ทำให้พระสุสานเกิดน้ำท่วมขังและโคลนตมก็ไหลเข้ามาท่วมพระบรมศพเสียหายมาก คราวนั้นเมื่อจักรพรรดิผู่อี๋ (ตอนนั้นเป็นกษัตริย์แห่งแมนจูเรียภายใต้อาณัติแห่งญี่ปุ่น) ทราบข่าว ก็พิโรธหนักถึงกับรีบเสด็จมาตรวจดูพระสุสานบรรพชนของพระองค์ทันที เมื่อเสด็จเข้าไปก็พบความกระจัดกระจายจากการปล้นรื้อค้นเกลื่อนกลาดอนาถแก่พระทัย แต่ก็ทรงต้องสนเท่ห์เมื่อทอดพระเนตรเห็นพระศพของจักรพรรดินีเสี้ยวอี้ฉุน นั้นไม่เน่าเปื่อยผุพังลงแต่อย่างใด ยังคงสภาพอัตลักษณ์ของพระองค์ได้อย่างชัดเจนแม้จะผ่านเวลาไปมากกว่า 120 ปี (นับตั้งแต่ฝังพระบรมศพจนถึงวันที่ผู่อี๋เข้าไปพบ) แต่เมื่อภายหลังกลุ่มผู้ที่เข้าไปทำการบูรณะพระสุสานก็มีการเชิญพระศพออกมาชำระใหม่ก็เกิดปฏิกิริยากับอากาศภายนอกทำให้พระศพนั้นย่อยสลายเหลือแต่โครงไปแล้วนั่นเอง
Remove ads
ชีวิตส่วนพระองค์
ภูมิหลังครอบครัว
พระนามส่วนพระองค์ของจักรพรรดินีเสี่ยวอี้ชุนไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ พระองค์เป็นจักรพรรดินีฮั่นผู้สืบเชื้อสายมาจากกองธงเหลือง
พระราชบิดา: เว่ยชิงไถ (魏清泰) ผู้ดำรงตำแหน่งขุนนางชั้นห้า (內管領) ในกรมพระราชวังหลวง และดำรงตำแหน่งบรรดาศักดิ์ขุนนางชั้นสาม (三等公)
ปู่: เว่ยจิ่วหลิง (魏九齡)
พระราชมารดา: สตรี สกุลหยางเจีย (楊佳氏)
พระขนิษฐาหนึ่งพระองค์
ฐานันดรศักดิ์
ในรัชสมัยจักรพรรดิหย่งเจิ้ง (ครองราชย์ ค.ศ. 1722–1735):
- สตรี สกุลเว่ย (魏氏)
ในรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง (ครองราชย์ ค.ศ. 1735–1796):
- กุ้ยเหริน (貴人; ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1745), พระสนมชั้นที่ 6
- ลิ่งผิน (令嬪; ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1745)
- ลิ่งเฟย (令妃; ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ. 1749)
- พระสนมเอกหลิง (令貴妃; ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1760)
- หวงกุ้ยเฟย (皇貴妃; ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ. 1765)
- ลิ่งอี้หวงกุ้ยเฟย (令懿皇貴妃; ตั้งแต่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2318)[5]
- จักรพรรดินีเซี่ยวอี้ (孝儀皇后; ตั้งแต่ พ.ศ. 2339)
ในรัชสมัยของจักรพรรดิเจียชิ่ง (ค.ศ. 1796–1820):
- จักรพรรดินีเซี่ยวอี้ฉุน (孝儀純皇后; ตั้งแต่ ค.ศ. 1799)
พระสาทิสลักษณ์ที่ยังคงเหลืออยู่
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads