คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ชัก เยเกอร์
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ชาลส์ เอลวูด เยเกอร์ (อังกฤษ: Charles Elwood Yeager, /ˈjeɪɡər/; 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1923 – 7 ธันวาคม ค.ศ. 2020) เป็นทั้งอดีตเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศสหรัฐ และเสืออากาศ ในปีค.ศ. 1947 เขากลายเป็นคนแรกที่ยืนยันว่าสามารถฝ่าอัตราเร็วของเสียงในเวลาบิน
Remove ads
ชีวิตช่วงต้น
เยเกอร์เกิดในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1923 มีพ่อแม่ชื่อว่าอัลเบิร์ด ฮาล เยเกอร์ (Albert Hal Yeager) และซูซี เม (ไซส์มอร์) (Susie Mae (Sizemore)) ซึ่งเป็นชาวไร่ในไมรา, รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย[1] และจบไฮสคูลที่แฮมลิน, รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1941 เขามีพี่น้องชายสองคนชื่อรอย และฮาล จูเนียร์ และพี่น้องสาวสองคนชื่อดอริส แอนน์ (เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุตอนอายุ 2 ขวบ โดยรอยตอนที่เขาอายุ 6 ขวบที่กำลังเล่นปืนลูกซอง)[2][3] และแพนซี ลี ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1945 เยเกอร์แต่งงานกับเกลนนิส ดิกเฮาส์ (Glennis Dickhouse) แล้วมีลูกสี่คน เธอเสียชีวิตในปีค.ศ. 1990[4]
ชื่อ "เยเกอร์" (Yeager, /ˈjeɪɡər/) เป็นคำที่ถูกแปลงเป็นภาษาอังกฤษจากภาษาเยอรมันว่า ยีการ์ (Jäger หรือ Jaeger (แปล: "นักล่า")) เขามีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นอดีตนักรับเบสบอลชื่อว่า สตีฟ เยเกอร์[5][a]
Remove ads
อาชีพ
สรุป
มุมมอง
สงครามโลกครั้งที่สอง

เขาเข้าร่วมกองทัพอากาศทหารบกสหรัฐ (USAAF) ในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1941 และกลายเป็นช่างซ่อมอากาศยานที่ฐานทัพอากาศจอร์จในวิกเตอร์วิลล์, รัฐแคลิฟอร์เนีย ในตอนสมัครนั้น เยเกอร์ไม่เหมาะสมที่จะทำการบินเพราะอายุและพื้นเพการศึกษา แต่ยังคงรับเขาเพราะมีสายตาที่ไม่ธรรมดา (อัตราของสายตาปกติคือ 20/10) จึงทำให้เขาสามารถยิงกวางที่อยู่ห่างไป 600 หลา[7]
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง
นักบินทดสอบ – ทลายกำแพงเสียง
หลังสงครามโลก เยเกอร์ยังคงอยู่ในกองทัพอากาศสหรัฐ โดยเขากลายเป็นนักบินทดสอบที่สนามกองทัพอากาศมูร็อก (Muroc Army Air Field; ปัจจุบันคือฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ด) แล้วได้รับปริญญาจาก Air Materiel Command Flight Performance School (Class 46C)[8] หลังโครงการ X-1 อันเป็นโครงการทดลองอากาศยานเครื่องยนต์จรวจของบริษัทเบลล์แอร์คราฟต์เปลี่ยนมาดูแลโดยกองทัพอากาศสหรัฐ และชาลเมอร์ส สลิก กูดลิน นักบินทดสอบของเบลล์แอร์คราฟต์เรียกร้องเงิน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีค.ศ. 2020) เพื่อให้บินทลายกำแพงเสียง ทาง USAAF จึงเลือกเยเกอร์ให้ขับเครื่องบินเบลล์ เอ็กซ์วัน[9][10]

เยเกอร์ทลายกำแพงเสียงในวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 1947 โดยการใช้ X-1 Glamorous Glennis ที่มัค 1.05 ที่ระดับความสูง 45,000 ฟุต (14,000 เมตร)[11] เหนือทะเลสาบแห้งโรเจอร์ (Rogers Dry Lake) ในทะเลทรายโมฮาวี ความสำเร็จยังไม่เป็นที่รู้จักต่อสาธารณะจนกระทั่งเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1948[12]
หลังเกษียณ

ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 1975 หลังทำปฏิบัติการในเยอรมันและปากีสถาน เยเกอร์เกษียณจากกองทัพอากาศที่ฐานทัพอากาศนอร์ตันหลังรับใช้ชาติเป็นเวลา 33 ปี
ในวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 2012 ในวันครบรอบ 65 ปีของการทลายกำแพงเสียง เขาทำการทลายกำแพงเสียงอีกครั้งตอนอายุ 89 ปี ด้วยเครื่องบินแมคดอนเนลล์ ดักลาส เอฟ-15 อีเกิลที่ขับโดยกัปตันเดวิด วินเซนต์ ที่ฐานทัพอากาศเนลลิส[13]
ชัก เยเกอร์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 2020 ด้วยวัย 97 ปี[14]
Remove ads
หมายเหตุ
- Chuck Yeager is not related to Jeana Yeager, one of the two pilots of the Rutan Voyager aircraft, which circled the world without landing or refueling.[6]
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads