คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ชุมพล จุลใส
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ชุมพล จุลใส (เกิด 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2513) ชื่อเล่น ลูกหมี อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร 3 สมัย สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ[1] และอดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร
Remove ads
ประวัติ
นายชุมพล จุลใส (ชื่อเล่น: ลูกหมี) เกิดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 ณ ตำบลครน อำเภอสวี จังหวัดชุมพร เป็นบุตรของนายบุญธรรม และ นางหนูจวน จุลใส[2] และเป็นน้องชายของ นายสุพล จุลใส ชุมพลสำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาจากโรงเรียนศรียาภัย ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง รัฐประศาสนสตรมหาบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สมรสกับ นางวันทนีย์ จุลใส มีบุตร-ธิดา 2 คน
การทำงาน
นายชุมพล เข้ารับราชการตำรวจในตำแหน่งลูกแถวงานป้องกันและปราบปรามประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองชุมพร เมื่อ พ.ศ. 2535 ต่อมา ใน พ.ศ. 2543 ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้บังคับหมู่งานสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดชุมพร
งานการเมือง
สรุป
มุมมอง
ชมพล เข้าสู่การเมือง ด้วยการเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ใน พ.ศ. 2546 และดำรงตำแหน่งประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร ใน พ.ศ. 2547 ก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกใน พ.ศ. 2550 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับเลือกตั้งในครั้งนั้น และได้รับเลือกติดต่อกันรวม 2 ครั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ชุมพล จุลใส ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 3 สมัย คือ
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 จังหวัดชุมพร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 จังหวัดชุมพร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดชุมพร สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2553
ในวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2553 ชุมพลซึ่งถือว่าเป็นคนสนิทนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และรองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ชุมพลได้อยู่เคียงข้างสุเทพเสมอ โดยเป็นผู้ถือปืนอูซี่อารักขาสุเทพ ในอาคารรัฐสภา ในครั้งที่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บุกเข้ามาในพื้นที่อาคารรัฐสภาในวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2553 จนได้รับฉายาว่า "ลูกหมีอูซี่"[3]
วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557
ในวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 ชุมพลได้ลาออกจากตำแหน่ง สส. พรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง โดยเป็นหนึ่งใน 9 แกนนำกปปส. ร่วมกับคนรุ่นอายุเดียวกัน คือ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และสกลธี ภัททิยกุล ซึ่งชุมพลยอมรับว่าตนเป็นผู้ที่ใจร้อนมุทะลุมากที่สุด[4] [5] เขาได้เคยกล่าวว่า เขาขอเป็นเห็บหมาดีกว่าเป็นขี้ข้าทักษิณ[6]
เหตุการณ์ภายหลัง
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ศาลอาญามีคำพิพากษาให้จำคุกชุมพลเป็นเวลา 9 ปี 24 เดือน พร้อมทั้งให้ตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี[7] และหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส. จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสมาชิกภาพของเขา
วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพการเป็น สส. ของชุมพล ผู้ถูกร้องที่ 1 สิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2564[8]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2556 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[9]
- พ.ศ. 2553 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[10]
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads