คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
เซาเดีย
สายการบินแห่งชาติของประเทศซาอุดีอาระเบีย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
เซาเดีย (อังกฤษ: Saudia; อาหรับ: السعودية) หรือชื่อเดิม ซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์ เป็นสายการบินประจำชาติของประเทศซาอุดีอาระเบีย[2][3] โดยมีฐานการบินหลักที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอะซีซในญิดดะฮ์ เซาเดียให้บริการเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางกว่า 100 แห่งในตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ โดยเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินเช่าเหมาลำส่วนมากจะให้บริการในช่วงเราะมะฎอนและฮัจญ์ เซาเดียเป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรทางการบินสกายทีมตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 เป็นสายการบินหลักในตะวันออกกลางที่เข้าร่วมหนึ่งในสามกลุ่มพันธมิตรทางการบิน เซาเดียเป็นหนึ่งในสมาชิกก่อตั้งขององค์การสายการบินอาหรับ[4]
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
ช่วงแรก



หลังจากการเข้าพบสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอะซีซ อิบน์ ซะอูดของประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี. โรเซอเวลต์แห่งสหรัฐในปี 1945 ประเทศซาอุดีอาระเบียเกิดการพัฒนาด้านการเดินอากาศ โรเซอร์เวลต์ได้มอบเครื่องบินดักลาส ดีซี-3 หนึ่งลำไว้เป็นของขวัญ จึงมีการนำเครื่องบินลำดังกล่าวมาทำการบินพร้อมกับการจัดตั้งสายการบินซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1945[5] ภายใต้การดูแลของกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ได้มีการทำสัญญากับทรานส์เวิล์ดแอร์ไลน์ในการดำเนินการบินให้ในช่วงแรก
ซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์มีฐานการบินในท่าอากาศยานอัล-กันดารา ท่าอากาศยานหลักของญิดดะฮ์ในอดีต สายการบินมีการทำเที่ยวบินพิเศษจากเมืองลิดดา (ล็อด) ในปาเลนสไตน์ (ปัจจุบันคือประเทศอิสราเอล พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียนในเวลาต่อมา) สู่ญิดดะฮ์เพื่ออำนวยความสะดวกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ของผู้แสวงบุญชาวมุสลิมตามข้อกำหนดในช่วงการอาณัติโดยอังกฤษ ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1947 ซาอุดีอาระเบียนเริ่มปฏิบัติการโดยใช้เครื่องบินดีซี-3 จำนวน 5 ลำในเส้นทางญิดดะฮ์-รียาด-โฮฟุฟ-ดาห์ราน เริ่มให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศในเส้นทางญิดดะฮ์และไคโร และเริ่มให้บริการสู่เบรุต การาจี[6] และดามัสกัสในปี 1948 สายการบินได้เริ่มนำเครื่องบินบริสตอล 170 มาประจำการ เป็นการช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า
ในปี ค.ศ. 1962 ซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์รับมอบโบอิง 720 จำนวน 2 ลำ นับเป็นสายการบินแห่งที่สี่ในภูมิภาคที่นำอากาศยานไอพ่นมาให้บริการ ตามมิดเดิลอีสต์แอร์ไลน์และไซปรัสแอร์เวย์ที่เริ่มให้บริการเดอ ฮาวิลแลนด์ คอมเม็ทในปี 1960 และแอล อัลที่ให้บริการโบอิง 707 ในปี 1961[7] โดยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2506 ซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์ได้รับจดทะเบียนเป็นบริษัท โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดีฟัยศ็อลลงนามพร้อมกับทั้งประกาศให้สายการบินเป็นบริษัทอิสระโดยสมบูรณ์ ในนามบริษัทอิสระ ซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์ได้สั่งซื้อเครื่องบินดีซี-6 และโบอิง 707 รวมถึงได้เข้าร่วมกับองค์การสายการบินอาหรับ และเริ่มให้บริการเที่ยวบินสู่ชัรญะฮ์ เตหะราน คาร์ทูม มุมไบ ตริโปลี ตูนิส ราบัต เจนีวา แฟรงก์เฟิร์ต และลอนดอน
ซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์เปลี่ยนชื่อเป็นเซาเดียในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1972 พร้อมกับทั้งมีการเปลี่ยนแปลงลวดลายอากาศยาน นอกจากนี้ได้มีสั่งซื้อโบอิง 737 และฟอกเกอร์ เอฟ-28 โดยนำ 737 ทดแทนที่ดักลาส ดีซี-9 ที่เก่ากว่า พร้อมทั้งเริ่มให้บริการโบอิง 747 อากาศยานโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานั้น เป็นครั้งแรกในปี 1977 โดยเช่าจากมิดเดิลอีสต์แอร์ไลน์สามลำ เพื่อนำไปใช้ในเส้นทางสู่ลอนดอน สายการบินได้เริ่มเที่ยวบินขนส่งสินค้าทั้งหมดครั้งแรกระหว่างซาอุดีอาระเบียและยุโรป และมีการนำล็อคฮีด แอล-1011 และแฟร์ไชลด์ เอฟเอช-27 มาให้บริการ ในช่วงเวลาเดียวกันเซาเดียได้เพิ่มบริการอื่นๆ เช่น อาระเบียนเอกซ์เพรส 'เที่ยวบินไม่มีการจอง' ระหว่างญิดดะฮ์และรียาด ฝ่ายบริการการบินพิเศษ (Special Flight Services; SFS) ได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นหน่วยการบินพิเศษของเซาเดียที่ให้บริการเที่ยวบินพิเศษสำหรับราชวงศ์และหน่วยงานของรัฐ และเริ่มให้บริการเที่ยวบินสู่โรม ปารีส มัสกัต คาโน และสต็อกโฮล์ม
ในช่วงทศวรรษ 1980 เซาเดียเปิดเส้นทางบินสู่จาการ์ตา เอเธนส์ กรุงเทพฯ ธากา โมกาดิชู ไนโรบี นครนิวยอร์ก มาดริด สิงคโปร์ มะนิลา เดลี อิสลามาบาด โซล แบกแดด อัมสเตอร์ดัม โคลัมโบ นิซ ลาฮอร์ บรัสเซลส์ ดาการ์ กัวลาลัมเปอร์ และไทเป และเปิดตัวที่นั่งช้นธุรกิจในชื่อ ฮอไรซันคลาส มีการเปิดศูนย์ขนส่งสินค้ากลางที่บรัสเซลส์และไทเป และมีการเพิ่มแอร์บัส เอ300, โบอิง 747 และ เซสนา ไซเทชันเข้าในฝูงบิน ต่อมาในปี 1989 สายการบินเริ่มให้บริการไปยังลาร์นากาและอาดดิสอาบาบา ในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1982 เซาเดียเริ่มให้บริการเที่ยวบินตรงจากญิดดะฮ์สู่นครนิวยอร์กโดยใช้โบอิง 747 เอสพี ตามด้วยเส้นทางรียาด-นิวยอร์ก ในทศวรรษ 1990 เซาเดียเริ่มทำเส้นทางบินสู่ออร์แลนโด เจนไน แอสมารา วอชิงตัน ดี.ซี. โจฮันเนสเบิร์ก อะเล็กซานเดรีย มิลาน มาลากา และซานา พร้อมทั้งมีการเริ่มให้บริการเครื่องบินโบอิง 777, เอ็มดี-90 และเอ็มดี-11 และเปิดตัวอัตลักษณ์องค์กรใหม่ในวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1996 ซึ่งมาพร้อมกับลวดลายอากาศยาน เครื่องแบบพนักงานต้อนรับ และห้องโดยสารที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยได้เปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อซาอุดีอาระเบียนแอร์ไลน์อีกครั้ง
Remove ads
กิจการองค์กร
สรุป
มุมมอง
กรรมสิทธิ์บริษัท
เซาเดียมีรัฐเป็นเจ้าของทั้งหมด[8]
บริษัทลูก
- เซาเดียคาร์โก เป็นสายการบินขนส่งสินค้าในเครือของเซาเดีย สายการบินจะทำการบินขนส่งสินค้าไปยังจุดหมายปลายทางมากกว่า 71 แห่งในทั้ง 6 ทวีป[9]
- ฟลายอดีล เป็นสายการบินราคาประหยัดสัญชาติซาอุดีอาระเบียซึ่งมีฐานอยู่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลอะซีซในญิดดะฮ์ เซาเดียได้ประกาศตั้งสายการบินราคาประหยัดนี้ตามแผนการเติบโต SV2020 ของสายการบิน[10][11][12] โดยจะมุ่งเป้าไปที่ผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศ, ผู้แสวงบุญในพิธีฮัจญ์และอุมเราะห์ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ[13]
อัตลักษณ์องค์กร
ในวันที่ 30 กันยายน ค.ศ. 2023 เซาเดียได้เปิดตัวอัตลักษณ์องค์กรใหม่ในงานอิเวนต์ในญิดดะฮ์ โดยเป็นการดัดแปลงอัตลักษณ์เก่าในช่วงปี 1971 ถึง 1996 ให้มีความทันสมัยมากขึ้น[14][15] เซาเดียได้เปิดตัวโลโก้ ลวดลายอากาศยาน เครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและพนักงานภาคพื้น ฯลฯ ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด[16] อัตลักษณ์ใหม่นี้จะนำเสนอแนวคิดเชิงนวัตกรรมในแง่การบริการ โดยมุ่งเน้นด้านดิจิทัลเป็นหลัก และเป็นการนำเสนอเอกลักษณ์ประจำชาติของประเทศให้แก่ผู้ใช้บริการ ด้วยการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์และการบริการทั้งหมด มีการออกแบบและสร้างกลิ่นห้องโดยสารและเพลงต้อนรับใหม่ เพื่อให้สะท้อนถึงวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของประเทศมากขึ้น รวมถึงอาหารบนเที่ยวบินที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอาหารท้องถิ่น อัตลักษณ์ใหม่นี้สอดคล้องกับแผนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเชิงกลยุทธ์ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์วิชั่น 2030 ของซาอุดีอาระเบีย
เซาเดียเลือกใช้ชุดสีประกอบอัตลักษณ์ที่สะท้องถึงความเป็นตัวตน เอกลักษณ์ของประเทศ และเป้าหมายของสายการบิน โดยมีสามสีหลัก ดังนี้:
สีเขียว แสดงถึง ความเป็นชาติ เป็นตัวแทนของธงชาติซาอุดีอาระเบีย และความทุ่มเทของสายการบินในการก้าวไปสู่เป้าหมายของซาอุดีวิชั่น 2030
สีน้ำเงิน แสดงถึง ท้องทะเล ท้องฟ้า ความเป็นเอกภาพ และความเป็นหนึ่งเดียว
สีส้มทะเลทราย แสดงถึง ความมั่งคั่ง ฐานะ ทรัพยากรมนุษย์ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวซาอุดีอาระเบีย
โลโก้
จากอัตลักษณ์ใหม่ของสายการบิน ได้มีการเปลี่ยนแปลงโลโก้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นการปรับเปลี่ยนโลโก้ของสายการบินที่ใช้ในช่วงปี 1971 ถึง 1996 โดยจะเป็นภาพสัญลักษณ์ตัดทอนตราแผ่นดินของซาอุดีอาระเบีย และชื่อสายการบิน เซาเดีย เป็นภาษาอังกฤษและอาหรับในรูปแบบตัวพิมพ์ที่ใหม่ถูกดัดแปลงจากโลโก้ดั้งเดิม ทั้งหมดใช้สีเขียว
ลวดลายอากาศยาน
- ลวดลายปัจจุบัน (ค.ศ. 2023–ปัจจุบัน)

ลวดลายรูปแบบปัจจุบันจะมีโลโก้สายการบินสีขาวบนพื้นหลังสีเขียวบริเวณแพนหางของเครื่องบิน ปลายปีกมีสีเขียวพร้อมโลโก้สีขาวบริเวณส่วนล่าง ลวดลายใหม่นี้เปิดตัวครั้งแรกในวันที่ 2 กรกฎาคม ค.ศ. 2023 บนโบอิง 787-10[17] โดยเครื่องบินใหม่ที่จะเข้ามาประจำการกับเซาเดียทุกลำจะมีลวดลายนี้ทั้งหมด
รางวัล
เซาเดียได้รับเลือกให้เป็นสายการบินที่มีการพัฒนามากที่สุดในโลกประจำปี ค.ศ. 2017 และ 2020 โดยสกายแทร็กซ์
Remove ads
จุดหมายปลายทาง
ณ เดือนตุลาคม ค.ศ. 2023 เซาเดียให้บริการเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทาง 121 แห่งทั่วโลก โดยมีแผนที่จะให้บริการ 250 จุดหมายปลายทางภายในปี 2030
ข้อตกลงการบินร่วม
ณ เดือนเมษายน ค.ศ. 2024 เซาเดียได้ทำข้อตกลงการบินร่วมกับสายการบินต่างๆ ดังต่อไปนี้:[18]
- แอโรฟลอต
- แอร์ฟรานซ์[19]
- แอร์มอริเชียส
- เช็กแอร์ไลน์[20]
- สายการบินเอทิฮัด[21]
- เอธิโอเปียนแอร์ไลน์[22]
- ฟลายอดีล[23]
- การูดาอินโดนีเซีย[24]
- กัลฟ์แอร์[25]
- อิตาแอร์เวย์[26]
- เคนยาแอร์เวย์
- โคเรียนแอร์[27]
- เคแอลเอ็ม
- คูเวตแอร์เวย์
- มาเลเซียแอร์ไลน์[28]
- มิดเดิลอีสต์แอร์ไลน์
- โอมานแอร์
- รัวยาแลร์มาร็อก
- เวียดนามแอร์ไลน์
ฝูงบิน
สรุป
มุมมอง
ฝูงบินปัจจุบัน





ณ เดือนเมษายน ค.ศ. 2024 เซาเดียมีเครื่องบินประจำการในฝูงบินดังนี้:[29][30][31][32]
เซาเดียมีอายุฝูงบินเฉลี่ย 9.3 ปี
ฝูงบินในอดีต





เซาเดียเคยให้บริการเครื่องบินดังต่อไปนี้:[40]
ฝูงบินอื่น

เซาเดียมีฝูงบินสำหรับการบริการเช่าเหมาลำ, ขนส่งสำหรัลรัฐบาลและลูกค้าวีไอพี, การฝึกหัดบิน ฯลฯ ดังนี้:
Remove ads
ดูเพิ่ม
- รียาดแอร์
- การขนส่งในประเทศซาอุดีอาระเบีย
อ้างอิง
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads