คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง
ท่าอากาศยานนานาชาติกูจิง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Remove ads
ท่าอากาศยานนานาชาติกูจิง (อังกฤษ: Kuching International Airport, KIA) (IATA: KCH, ICAO: WBGG) เป็นสนามบินตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย อยู่ห่างจากใจกลางเมืองกูจิง ไปทางทิศใต้ 11 km (6.8 mi)[2] นอกจากนี้ยังเป็นฐานทัพของทหาร No. 7 Squadron RMAF อีกด้วย[3]
อาคารผู้โดยสารรองรับผู้โดยสารได้ 5 ล้านคนต่อปี เป็นท่าอากาศยานที่หนาแน่นอันดับที่ 4 ของประเทศ สถิติในปี ค.ศ. 2010 มีผู้โดยสารมาใช้บริการสนามบิน 3,684,000 คน มีเที่ยวบินมาลง 46,382 เที่ยว และมีการขนส่งสินค้ามากถึง 26,977 เมตริกตัน
รายได้ของท่าอากาศยานนานาชาติกูจิง กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นหนึ่งในสองท่าอากาศยานหลักในมาเลเซียตะวันออก และเป็นฐานการบินรองของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์
Remove ads
ประวัติ
สรุป
มุมมอง
ท่าอากาศยานนานาชาติกูจิง ก่อสร้างโดยรัฐบาลอังกฤษของซาราวักในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1940 ตั้งอยู่ที่ชานเมืองกูจิง เปิดใช้งานวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 1950 สนามบินประกอบไปด้วยอาคารผู้โดยสารขนาดเล็กรูปตัว "แอล" มีชั้นเดียว, อาคารสินค้าขนาดเล็ก, ศูนย์ดับเพลิง, หอควบคุมการบิน, หน่วยงานอุตุนิยมวิทยา, อาคารซ่อมบำรุงเครื่องบิน, หลุมจอดเครื่องบิน 4 หลุม และทางวิ่งเดี่ยวความยาว 1,372 เมตร กว้าง 46 เมตร รวมไปถึงศูนย์ตรวจจับเครื่องบินและคลื่นวิทยุ
ท่าอากาศยานนานาชาติกูจิง ได้กลายมาเป็นประตูสู่รัฐซาราวัก รัฐซาบะฮ์ และประเทศบรูไน พร้อมกับการเปิดเที่ยวบิน กูจิง-สิงคโปร์ จำนวน 1 เที่ยวต่อสัปดาห์ โดยใช้เครื่องบินดักลาส ดาโกตา และภายในปลายปี ค.ศ. 1954 ได้มีการเปิดเที่ยวบินเป็นจำนวนมาก มีเที่ยวบิน 1,550 เที่ยว ผู้โดยสาร 13,564 คน และสินค้า 95,911 กิโลกรัม (สถิติ ค.ศ. 1954) และในปี ค.ศ. 1959 ได้ขยายทางวิ่งให้มีความยาว 1,555 เมตร เพื่อให้รองรับเครื่องบินวิกเกอร์ วิสเคาต์ได้
ในปี ค.ศ. 1962 ได้ขยายทางวิ่งอีกครั้งให้มีความยาว 1,921 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบิน DeHavilland Comet-4 และได้ขยายพื้นที่อาคารผู้โดยสารให้ใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังได้เปิดทำการศูนย์ควบคุมการบินภายในสนามบินอีกด้วย บริษัท การบินมลายา ได้เปิดเที่ยวบินจากดินแดนบริติชบอร์เนียว ไปยังสิงคโปร์ โดยเครื่องบินวิกเกอร์ วิสเคาต์ และดักลาส ดีซี-3 ต่อมาปี ค.ศ. 1971 รัฐบาลมาเลเซีย ได้ปรึกษาหารือกับที่ปรึกษาชาวแคนาดา เพื่อช่วยพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติกูจิงให้ดียิ่งขึ้น
ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1972 รัฐบาลได้เผยแพร่แผนพัฒนาสนามบินดังนี้
- การขยายความยาวของทางวิ่ง เพื่อรองรับเครื่องบินไอพ่น
- การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ทางด้านทิศเหนือของทางวิ่ง
การขยายทางวิ่งให้มีความยาว 2,454 เมตร (8,051 ฟุต) เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1973 และสำเร็จในปี ค.ศ. 1976 ยาวพอที่จะรองรับเครื่องบินโบอิง 707 ได้ ในปี ค.ศ. 1980 ได้ทำการปรับพื้นผิวทางวิ่ง เพื่อรองรับเครื่องบินแอร์บัส เอ 300 บี 4 ซึ่งสำเร็จในปี ค.ศ. 1982.

ส่วนการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ทางด้านทิศเหนือของทางวิ่ง เริ่มต้นในปลายปี ค.ศ. 1978 และสร้างเสร็จในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1983 เปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ครั้งแรกวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1983 อาคารมีพื้นที่ 13,000 ตารางเมตร มีทั้งหมด 3 ชั้น และมีหอคอยควบคุมการบินในบริเวณใกล้เคียง
ในปี ค.ศ. 1999 สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ และรอยัลบรูไนแอร์ไลน์ ได้เปิดเที่ยวบินสิงคโปร์-กูจิง และบรูไน-กูจิง ตามลำดับ ทั้งเที่ยวบินประจำ และเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ต่อมา สายการบินหลักทั้ง 4 ของมาเลเซีย (มาเลเซียแอร์ไลน์, เอ็มเอเอสวิงส์, แอร์เอเชีย และมาลินโดแอร์) กับสายการบินขนส่งสินค้าอีก 3 สาย (เอ็มเอเอสคาร์โก, ทรานส์ไมล์แอร์เซอร์วิส และเนปจูนแอร์) เปิดเที่ยวบินมายังกูจิง ส่วนสายการบินต่างชาติ 4 สายการบิน (สิงคโปร์แอร์ไลน์, รอยัลบรูไนแอร์ไลน์, เจ็ตสตาร์เอเชีย และไทเกอร์แอร์เวย์) ได้ยกเลิกเที่ยวบินมายังกูจิงแล้ว
เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารที่มากขึ้น จึงต้องมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่อีกหลัง โดยเริ่มก่อสร้างในช่วงคริสต์ทศวรรษ 2000 และได้เปิดทำการเมื่อวันที่ 16 มกราคม ค.ศ. 2006 โดยหัวหน้าคณะรัฐมนตรีแห่งรัฐซาราวัก และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีหลุมจอดเครื่องบินใหญ่ 9 หลุม (มี 3 หลุมสำหรับเครื่องบิน แอร์บัส เอ 330, โบอิง 747 และแอร์บัส เอ 380-800) และหลุมจอดเครื่องบินเล็ก 4 หลุม


Remove ads
การพัฒนา
สรุป
มุมมอง
ท่าอากาศยานนานาชาติกูจิง ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้ดีขึ้นทุก ๆ ปี โดยอาคารผู้โดยสารหลังล่าสุด ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2006 และการขยายทางวิ่ง ก่อสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2008[4] อาคารที่ได้รับการปรับปรุง มีรูปแบบคล้ายกับท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งเปิดใช้งานในปี ค.ศ. 1998[4]
อาคารผู้โดยสารได้รับการขยายให้มีเนื้อที่ 46,000 ตารางเมตร (500,000 ตารางฟุต) และทำเสร็จในอีก 15 เดือนถัดมา อาคารที่ปรับปรุงแล้ว ทำพิธีเปิดโดยนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2006 การก่อสร้างใช้งบประมาณ 620 ล้านริงกิต นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับเครื่องบินโบอิง 747-400 และแอร์บัส เอ 380-800 ได้อีกด้วย
ส่วนการขยายทางวิ่ง ได้ขยายทางวิ่งจากที่ยาว 2,454 เมตร ให้มีความยาวเพิ่มเป็น 3,780 เมตร และได้ขยายความกว้างจาก 46 เมตร ให้เป็น 60 เมตร นอกจากนี้ยังมีทางวิ่งคู่ขนานสำรอง กว้าง 30 เมตร งานรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อาทิเช่น การติดหลอดไฟที่ทางวิ่ง และการติดสัญลักษณ์ เพื่อให้นักบินมองเห็น เป็นต้น ตัวอาคารมีทางออกขึ้นเครื่อง 9 ทาง โดยทุกทางออก สามารถรองรับเครื่องบินโบอิง 737 และแอร์บัส เอ 320 ได้ โดยทางออกที่ 9 มีไว้เพื่อรองรับเครื่องบิน แอร์บัส เอ 380-800 โดยเฉพาะ[5][6]
การเปิดเที่ยวบินใหม่
อดีตหัวหน้าคณะรัฐมนตรีแห่งรัฐซาราวัก มีแผนที่จะพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติกูจิง เพื่อช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในรัฐซาราวัก ต่อมาสายการบินสัญชาติสิงคโปร์ ชื่อสายการบินไทเกอร์แอร์เวย์ ได้เปิดเที่ยวบินสิงคโปร์-กูจิง แต่ได้ยกเลิกในอีก 2-3 ปีถัดมา
ในปี ค.ศ. 2006 ท่าอากาศยานนานาชาติกูจิง ได้ประเมินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ในด้านสายการบินที่มีความปลอดภัยสูงที่สุด[7]
สายการบินราคาประหยัด แอร์เอเชีย ได้เปิดเที่ยวบินจากสนามบินกูจิง ไปยังกรุงเทพฯ-ดอนเมือง, จาการ์ตา-ซูการ์โน-ฮัตตา, มาเก๊า และคลาร์ก เส้นทางการบินอื่น ๆ ที่จะเปิดในอนาคต อาทิเช่น กูจิง-บรูไน, กูจิง-สิงคโปร์ และกูจิง-เพิร์ท[8]
ส่วนสายการบิน มาเลเซียแอร์ไลน์ มีแผนเปิดเที่ยวบินใหม่ไปยังฮ่องกง, ไทเป-เถาหยวน, เกาสง และโซล-อินช็อน[9]
Remove ads
โครงสร้างพื้นฐานท่าอากาศยาน
ระบบสายพานกระเป๋า (BHS)
ท่าอากาศยานนานาชาติกูจิง มีสายพานกระเป๋า (BHS) อยู่สองจุด จุดหนึ่งสำหรับเที่ยวบินภายในรัฐซาราวัก และอีกจุดหนึ่งสำหรับเที่ยวบินระหว่างรัฐและระหว่างประเทศ
การตรวจคนเข้าเมือง
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสองรัฐของมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ควบคุมการตรวจคนเข้าเมืองอิสระ ผู้โดยสารที่เดินทางเข้า-ออกนอกรัฐซาราวัก ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบินทุกคน
ระบบขนส่งสาธารณะ
ไม่มีรถโดยสารประจำทางเชื่อมต่อโดยตรง สถานีขนส่งที่ใกล้ที่สุด คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารกูจิงเซ็นทรัล ห่างจากสนามบิน 2 กิโลเมตร ส่วนรถแท็กซี่ สามารถซื้อบัตรได้ตามเคาน์เตอร์แลกบัตร
สายการบินและจุดหมายปลายทาง
ผู้โดยสาร
สินค้า
Remove ads
สถิติ
จำนวนผู้โดยสาร สินค้า และเที่ยวบิน
เส้นทางการบิน
Remove ads
รางวัลที่ได้รับ
- รางวัล MS ISO 9001:2000 สำหรับการจัดการและดำเนินงานท่าอากาศยานดีเด่น ได้รับในปี ค.ศ. 2005.
- รางวัลท่าอากาศยานดีเด่น มอบโดยแผนกการบินพลเรือน (DCA) ในปี ค.ศ. 2005 เป็นท่าอากาศยานแห่งที่สองในมาเลเซียที่ได้รับรางวัลนี้ ถัดมาท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์[11]
- รางวัลท่าอากาศยานที่ปลอดภัยที่สุด มอบโดยมาเลเซียแอร์ไลน์[12]
- รางวัลแพลตตินัมแอนด์สตาร์ มอบโดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ในด้านการเช็ค-อิน, การตรวจกระเป๋า, การตรวจคนเข้าเมือง และสายพานกระเป๋าดีเด่น
Remove ads
อุบัติเหตุและอุบัติการณ์
- ค.ศ. 1999 — เครื่องบิน De Havilland Canada DHC-4 Caribou พุ่งชนกับพื้นที่ชุ่มน้ำบริเวณปลายทางวิ่ง มีผู้เสียชีวิต 5 คน เป็นเจ้าหน้าที่ทหารทั้งหมด
- กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 — เครื่องบิน แอร์บัส เอ 330 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เกิดเหตุไถลออกนอกทางวิ่ง ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหนักหรือเสียชีวิต
- 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2006 — เครื่องบินขนส่งสินค้าลำหนึ่ง เกิดไถลกับขอบทางวิ่ง ขณะลงจอด เมื่อเวลา 6 นาฬิกา 20 นาที[13]
- 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 — เวลา 0 นาฬิกา 23 นาที มีผู้ชายคนหนึ่งขู่ว่าได้ทำการวางระเบิดเอาไว้ในสนามบิน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นได้พบกับระเบิดปลอม และในวันนั้นไม่มีเหตุการณ์ระเบิดแต่อย่างใด[14]
- 17 สิงหาคม ค.ศ. 2006 — มีการขู่วางระเบิดบนเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ 5203 ซึ่งประกอบไปด้วยผู้โดยสาร 126 คน กำหนดถึงกัวลาลัมเปอร์เวลา 9 นาฬิกา 20 นาที เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้น พบว่าไม่มีวัตถุระเบิดตามที่ขู่ไว้แต่อย่างใด[15]
- 1 กันยายน ค.ศ. 2006 — มาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 2507 มุ่งหน้ากัวลาลัมเปอร์ เกิดเหตุน้ำมันเครื่องหมดขณะกำลังบินขึ้น เมื่อเวลา 23 นาฬิกา 5 นาที ทำให้ต้องเปลี่ยนมาใช้เครื่องบินอีกลำ ซึ่งกำหนดออกในเวลา 23 นาฬิกา 30 นาที[16]
- 13 มกราคม ค.ศ. 2007 — เครื่องบินโบอิง 737-200 ลำหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุขณะลงจอด[17] เมื่อเวลา 5 นาฬิกา 52 นาที ตัวเครื่องบินได้รับความเสียหายมาก[18] มีลูกเรือรอดชีวิตเพียง 4 คน ทางสนามบินจำเป็นต้องปิดทำการเป็นเวลา 6 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ส่งผลให้เที่ยวบินที่จะบินขึ้นและลงจอดอีก 30 เที่ยว ล่าช้ามาก สนามบินได้กลับมาเปิดทำการอีกครั้งในตอนเที่ยงของวันเดียวกัน[19]
- 2 ตุลาคม ค.ศ. 2009 — เครื่องบิน Boeing 737-4H6 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เกิดอุบัติเหตุช่วงล่างของเครื่องยุบ ขณะเข้าจอดในหลุม[20]
Remove ads
ดูเพิ่ม
- รายชื่อท่าอากาศยานในประเทศมาเลเซีย
- ท่าอากาศยานนานาชาติโกตากีนาบาลู
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand - on
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Remove ads