คำถามยอดนิยม
ไทมไลน์
แชท
มุมมอง

น้ำลาย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

น้ำลาย
Remove ads

น้ำลาย คือสารที่ดีมากที่สุดที่คล้ายน้ำและมักจะเป็นฟอง ถูกผลิตขึ้นในปากของมนุษย์และสัตว์อื่นๆ เป็นส่วนใหญ่ น้ำลายถูกผลิตขึ้นจากต่อมน้ำลาย น้ำลายของมนุษย์ประกอบด้วยน้ำ 98% ส่วนที่เหลือเป็นอิเล็กโทรไลต์ เมือก สารยับยั้งแบคทีเรีย และเอนไซม์ชนิดต่างๆ [1] เอนไซม์ในน้ำลายสามารถย่อยแป้งที่อยู่ในอาหารในระดับโมเลกุล ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการย่อยอาหาร น้ำลายช่วยชะล้างอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันและปกป้องไม่ให้เกิดการเน่าเสียจากแบคทีเรีย นอกจากนี้ น้ำลายยังช่วยหล่อลื่นและปกป้องฟัน ลิ้น และเนื้อเยื่ออ่อนบางภายในช่องปาก

Thumb
น้ำลายของเด็กทารก

สัตว์หลายชนิดมีพัฒนาการการใช้น้ำลายเฉพาะทางมากไปกว่าการย่อยอาหาร นกนางแอ่นใช้น้ำลายที่เหนียวคล้ายยางในการสร้างรัง ซึ่งรังนกนางแอ่นนี้ใช้ทำเครื่องดื่มรังนก [2] งูพิษเช่นงูเห่าปล่อยน้ำลายที่มีพิษออกมาทางเขี้ยวเพื่อใช้ในการล่าสัตว์หรือการป้องกันตัว และแมลงบางชนิดเช่นแมงมุมหรือหนอนผีเสื้อ สร้างใยของมันขึ้นมาจากต่อมน้ำลาย

Remove ads

หน้าที่

สรุป
มุมมอง

การย่อยอาหาร

หน้าที่ที่เกี่ยวกับการย่อยอาหารของน้ำลาย คือการทำให้อาหารเปียกและช่วยสร้างก้อนอาหารทำให้กลืนได้อย่างง่ายดาย น้ำลายประกอบด้วยเอนไซม์อะไมเลส (Amylase) ที่สามารถย่อยแป้งให้กลายเป็นน้ำตาลมอลโทส (Maltose) และเดกซ์ทริน (Dextrin) ดังนั้นการย่อยอาหารจึงเริ่มต้นเกิดขึ้นตั้งแต่ในปากก่อนที่อาหารจะตกลงถึงกระเพาะอาหาร [3]

สารฆ่าเชื้อ

ความเชื่ออย่างหนึ่งเกี่ยวกับน้ำลายว่า น้ำลายมีสารฆ่าเชื้ออยู่ตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้ผู้คนที่เชื่อนำไปสู่ "การเลียแผลตัวเอง" คณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟลอริดาในเมืองเกนส์วิลล์ได้ค้นพบว่า มีโปรตีนชนิดหนึ่งเรียกว่า Nerve Growth Factor (NGF) ในน้ำลายของหนูทดลอง บาดแผลที่ใช้ NGF รักษาสามารถฟื้นตัวได้เร็วกว่าแผลที่ไม่ได้ใช้เป็นสองเท่า นั่นหมายความว่าน้ำลายสามารถช่วยรักษาแผลได้ในสัตว์บางชนิด อย่างไรก็ตามไม่มีการตรวจพบ NGF ในน้ำลายของมนุษย์ แต่มีสารยับยั้งแบคทีเรียอย่างอื่นเช่น อิมมูโนกลอบูลินเอ (Immunoglobulin A: IgA) แลกโตเฟอร์ริน (Lactoferrin) และแลกโตเพอรอกซิเดส (Lactoperoxidase) [4] สิ่งนี้แสดงว่าการเลียแผลของมนุษย์ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ แต่การเลียนั้นอาจช่วยขจัดสิ่งสกปรกหรือช่วยกำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อได้โดยตรงจากการเลียปัดออกไป ดังนั้นการเลียจึงอาจเป็นวิธีหนึ่งของการทำความสะอาดของมนุษย์หรือสัตว์ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ถ้าไม่มีน้ำบริสุทธิ์ให้ใช้

ปากของสัตว์ (รวมทั้งมนุษย์) เป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียหลายชนิด ซึ่งบางชนิดเป็นจุลชีพก่อโรค (Pathogen) การกัดของสัตว์จึงต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันความเสี่ยงของภาวะเลือดเป็นพิษ (Septicemia)

เมื่อเร็วๆ นี้ นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้พบว่าน้ำลายของสัตว์ปีกสามารถใช้เป็นตัวชี้วัดโรคไข้หวัดนกได้ดีกว่ามูลของมัน [5]

Remove ads

การกระตุ้นและการผลิตน้ำลายต่อวัน

การผลิตน้ำลายสามารถถูกกระตุ้นได้ทั้งจากระบบประสาทซิมพาเทติก (Sympathetic Nervous System) และระบบประสาทพาราซิมพาเทติก (Parasympathetic Nervous System) [6] น้ำลายที่ถูกกระตุ้นโดยประสาทซิมพาเทติกจะข้นเหนียวมากกว่าจากประสาทพาราซิมพาเทติก

ปัจจุบันนี้ก็ยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันในเรื่องปริมาณของการผลิตน้ำลายต่อวันของบุคคลผู้มีสุขภาพดี ทุกวันนี้เราเชื่อกันว่าคนหนึ่งคนจะมีการผลิตน้ำลายโดยเฉลี่ยประมาณ 0.75 ลิตรต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการผลิตน้ำลายในสภาวะปกติในอัตรา 1–1.5 ลิตรต่อวัน นั่นคือ 20 มิลลิลิตรต่อชั่วโมงในเวลาปกติและ 250 มิลลิลิตรในสภาวะถูกกระตุ้น ในขณะหลับการผลิตน้ำลายแทบจะลดลงเหลือศูนย์

Remove ads

ส่วนประกอบ

ในน้ำลายประกอบด้วย

%

  • อิเล็กโทรไลต์
    • โซเดียม 2–21 มิลลิโมลต่อลิตร (น้อยกว่าพลาสมาของเลือด)
    • โพแทสเซียม 10–36 มิลลิโมลต่อลิตร (มากกว่าพลาสมาของเลือด)
    • แคลเซียม 1.2–2.8 มิลลิโมลต่อลิตร
    • แมกนีเซียม 0.08–0.5 มิลลิโมลต่อลิตร
    • สารประกอบคลอไรด์ 5–40 มิลลิโมลต่อลิตร (น้อยกว่าพลาสมาของเลือด)
    • สารประกอบไบคาร์บอเนต 25 มิลลิโมลต่อลิตร (มากกว่าพลาสมาของเลือด)
    • สารประกอบฟอสเฟต 1.4–39 มิลลิโมลต่อลิตร
  • เมือก (Mucus) ส่วนหลักประกอบด้วย
  • สารยับยั้งแบคทีเรีย เช่น
  • เอนไซม์ มีสามชนิดเป็นหลัก
    • แอลฟา-แอมีเลส (α-amylase) ทำงานที่ค่า pH เท่ากับ 7.4
    • ไลโซไซม์ (Lysozyme) ช่วยทำให้แบคทีเรียสลายตัว
    • ลิเพสในปาก (Lingual lipase) ทำงานที่ค่า pH ประมาณ 4.0 ซึ่งเอนไซม์ชนิดนี้จะยังไม่ทำงานจนกว่าอาหารจะถูกส่งไปยังกระเพาะอาหารแล้ว
  • เซลล์ ทั้งเซลล์ของมนุษย์ 8 ล้านเซลล์ และเซลล์แบคทีเรีย 500 ล้านเซลล์ต่อมิลลิลิตร ซึ่งผลผลิตของแบคทีเรียจะถูกปล่อยปนกับน้ำลาย อันเป็นสาเหตุของอาการปากเหม็น (Halitosis)
  • Opiorphin สสารชนิดใหม่ที่เพิ่งค้นพบ ใช้สำหรับบรรเทาอาการปวด [7]

อ้างอิง

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.

Remove ads